การอบรม “เด็กน้อยภายใน” ประจำปี ๒๕๕๘ เปิดรับสมัคร!

การอบรมชุดพิเศษของ ศูนย์การเขียนเปลี่ยนชีวิต สถาบันธรรมวรรณศิลป์ ในหัวข้อเกี่ยวกับ  “เด็กน้อยภายใน” สู่การเยียวยาและการเติบโตของชีวิต โดยได้รับการสนับสนุนจาก มูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และผู้เรียนในหลักสูตรของโครงการฯ   หลักการและที่มาสำคัญ “เด็กน้อยภายใน” หรือ อิทธิพลที่สืบเนื่องมาจากวัยเด็ก คือองค์ความรู้และเทคนิควิธีด้านจิตวิทยาการบำบัดและการเรียนรู้ทางจิตปัญญา พาเรากลับมาดูแลตัวตนเด็กน้อยและตัวตนอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ที่มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิต ความสัมพันธ์ และโลกทัศน์ ทุกคนต่างมีเด็กน้อยอยู่ภายใน และผู้ที่เติบโตอย่างแท้จริงคือผู้ที่หลุดจากอิทธิพลของข้อจำกัดในอดีตและจากด้านมืดของเด็กน้อย (Darkside of InnerChild) ในอีกแง่หนึ่ง เด็กน้อยภายใน ยังเป็นพลังสร้างสรรค์ที่เราอาจละเลยไปเมื่อติดอยู่ในกรอบการใช้ชีวิตแบบผู้ใหญ่ การกลับมาหาเด็กน้อยคือการเยียวยาและดึงคุณค่าในตัวเราเพื่อพัฒนาชีวิตในวันนี้ กระบวนการอบรมของศูนย์ฯ จะมุ่งเน้นให้ใช้เครื่องมือการเขียนเชิงกระบวนการ ศิลปะ การสนทนา และการเคลื่อนไหวเพื่อดูแลตัวตนเด็กน้อยภายใน และดึงคุณค่าที่แท้จริงออกมาโดยไม่ต้องใช้ทักษะด้านศิลปะหรือการเขียนใดใด อ่านงานเขียนจากการอบรมรุ่นที่ผ่านมาได้ที่  youngawakening.org/write4life/?p=1332     วัตถุประสงค์ในการอบรม ๑. ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและทักษะในการดูแล “เด็กน้อยภายในตนเอง” และในความสัมพันธ์ได้ ๒. ผู้เรียนมีแรงบันดาลใจ พลัง และได้กลับมาดูแลบาดแผลทางจิตใจหรือคลี่คลายข้อจำกัดในตนเอง ๓. ผู้เรียนได้ดึงคุณค่าในความเป็นเด็กน้อยภายในออกมาใช้ในชีวิตวันผู้ใหญ่ได้อย่างเกื้อกูลสมดุล    … Continue reading การอบรม “เด็กน้อยภายใน” ประจำปี ๒๕๕๘ เปิดรับสมัคร!

อนุสารธรรมวรรณศิลป์ ฉบับ ๐๑

อนุสารธรรมวรรณศิลป์ ๐๑ ณ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖ อนุสารรายครึ่งเดือน คืนเดือนเพ็ญและคืนเดือนมืด อ่าน*เขียน*คิด เพื่อชีวิตผลิงาม   ลำดับบทความในอนุสาร ๐๑ ๑. คอลัมน์ ลมหายใจจับปากกา ตอน “ ฉวยวันเวลาเอาไว้ ” ๒. คอลัมน์ จดหมายถึงพี่ใหญ่ ตอนที่ ๑ ๓. คอลัมน์ ธรรมะคือคุณากร ตอน อินทรียสังวร ๔. คอลัมน์ ธรรมกวี   { ธรรมวรรณศิลป์ มี ๒ นัยยะสำคัญ {หนึ่ง วรรณศิลป์ที่ส่งมอบความดี ความงาม และความจริงแก่ผู้อ่านและสังคม สอง วรรณศิลป์ที่ขัดเกลาจิตใจและชีวิตผู้ประพันธ์นั้นเอง } อนุสารธรรมวรรณศิลป์ จึงประกอบด้วย ข้อชวนคิด และ ข้อชวนเขียน เผยแพร่โดย… Continue reading อนุสารธรรมวรรณศิลป์ ฉบับ ๐๑

ฉวยวันเวลาไว้

  ชีวิตมีคุณค่าเกินกว่าจะพร่าคืนวัน… หายใจเข้าลึกหนึ่งครั้ง  แม้นว่าสิ่งเล็กน้อยนี้เรายังไม่อาจกลับมาดูแล  ไฉนเลยเราจึงดูแลทั้งชีวิตของตนและคนอื่นได้ การกลับมาอยู่กับลมหายใจ คือการกลับมาเห็นคุณค่าของตนและปัจจุบัน ผมขอเล่าที่มาของอนุสารนี้ ในแง่ที่เกี่ยวข้องกับบทความ เป็นปฐมก้าวย่างของอนุสาร  ความคิดความฝันว่าจะเผยแพร่องค์ความรู้และประสบการณ์ “เขียนเปลี่ยนชีวิต” และ “ธรรมวรรณศิลป์” ผ่านสื่อต่อเนื่องอย่างนิตยสาร เกิดก่อในใจผมอยู่นานแล้ว คล้ายรอโอกาสที่เหมาะสม หรือยามเก็บเกี่ยวพืชผลคืนวันอย่างเต็มที่ เก็บข้อคิดข้อเขียนใส่ลิ้นชักความทรงจำไว้ นานวันเข้าฝุ่นจับ ปลวกการเผลอไผลแทะกิน ๓ ถึง ๔ เดือนที่ผ่านมา ความเจ็บป่วยของผู้ใหญ่ที่นับถือ จนถึงญาติและเพื่อนของคนรู้จัก เป็น “สัญญาณชีวิต” แก่ผมอีกครา เป็นหนึ่งในสัญญาณชีวิตรูปแบบเดิมที่ทักเตือนใครต่อใครครั้งแล้วครั้งเล่า ชีวิตไม่แน่นอน ทุกก้าวย่างต้องระมัดระวัง  ถามใจตนเองว่า  “ถ้าเกิดตายเข้าอีกไม่ช้า จะเสียดายอะไรมากที่สุด” หนึ่งในคำตอบเหล่านั้น คือ ไม่อาจเผยแพร่ความรู้และผลึกคิดที่มี ส่งมอบให้กับคนอื่นได้เต็มที่ กอดไว้ในโลงลำพัง  เพราะมัวแต่รอโอกาสจากสำนักพิมพ์ และรอเก็บไว้เพื่อการสอนในชุดอบรม เมื่อตระหนักรู้เช่นนี้แล้ว เราจะ “เลือก” หรือ “รอ” ผมเลือกสร้างฝันให้เป็นจริงขึ้น แทนที่จะรอโอกาสอันเหมาะสม อาจมิใช่ นิตยสารที่เผยแพร่บนชั้นวางหนังสือกว้างไกล  แต่อย่างน้อยและมากคุณค่านัก เพียงอนุสารเล่มน้อย ส่งมอบแก่ผู้คนบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต … Continue reading ฉวยวันเวลาไว้

น้ำคำชีวิต บทเรียนล้ำค่าจากข้อสอบชีวิต นักศึกษา ม.บูรพา

น้ำคำชีวิต บทเรียนล้ำค่าจากข้อสอบชีวิต นักศึกษา ม.บูรพา นายธนสิทธิ์ เหมือนกุล คณะดนตรีและการแสดง “ตอนที่ได้บันทึกเรื่องเล่าทั้งสองเรื่องทุกวินาทีที่ได้ลงมือคิดและเขียนลงไปมันทำให้ผมได้คิดถึงเรื่องราวหลายๆอย่างในชีวิตที่ได้พัดผ่านเข้ามา ทำให้ได้กลับมาทบทวนเรื่องราวต่างๆอีกครั้ง ในระหว่างบันทึกนั้นความรู้สึกหลากหลายนั้นได้เข้ามาเยอะมาก ทั้งความกลัว กลัวที่จะกลับไปนึกภาพเหตุการณ์เหล่านั้นที่เป็นเรื่องราวฝังใจของผม กลัวที่จะนำมันมาเล่าใหม่และทำให้จิตใจของเราแย่ลง แต่พอเราได้เริ่มเขียนลงไป สิ่งเหล่านั้นกลับไม่เกิดขึ้น มันกลับกลายเป็นความรู้สึกที่ดี ความสบายใจที่พร้อมจะเล่า มันเหมือนได้กลับมาเปิดใจนึกถึงมันอีกครั้ง ในระหว่างที่เขียนสำหรับผมมันไม่ได้มีเพียงภาพที่เข้ามาในหัว แต่มันมีทั้งเสียง และความรู้สึกต่างๆเข้ามาด้วย ผมพยายามรับและถ่ายทอดมันออกมาให้ดีที่สุด รับมันอย่างจริงจังและเปิดใจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในระหว่างการบันทึกมันทำให้ผมได้คิดถึงมันและนึกถึงปัญหาที่มันแย่มากๆ แต่มันก็ผ่านมาจนได้ หลังจากการบันทึกเสร็จแล้ว มันมีทั้งความเข้าใจความสบายใจและความเสียใจปะปนกันมาก แต่สิ่งที่ได้สำหรับตัวผมมากที่สุดคือได้มองเห็นเรื่องราวเก่าๆและเอามาเทียบกับเรื่องราว ณ ปัจจุบันว่าเราจะก้าวเดินต่อไปในเส้นทางนั้น และนำแรงกำลังใจที่เราเคยมีกลับมาใช้อีกครั้งให้เราได้มีกำลังเหล่านั้นและยิ้มรับกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นต่อไป หลังจากบันทึกแล้วผมรู้สึกสบายใจมากที่ได้เล่า มันเป็นความสบายใจที่โล่งมากๆ จากที่ตอนเขียนมันมีทั้งน้ำตาและรอยยิ้ม  พอผมเขียนเสร็จผมโทรหาแม่และคุยหลายๆเรื่องมันยิ่งทำให้รู้สึกดีและกล้าเปิดตัวเองมากยิ่งขึ้น ขอบคุณสำหรับการบันทึกครั้งนี้อีกครั้ง ทุกเหตุการณ์เหล่านั้นมันไม่ได้สวยหรูมากมายแต่มันมีคำสอนที่คอยแทรกเพื่อเป็นบทเรียนให้ผมได้รู้จักกับคำว่า อดทน ที่จะใช้มันตลอดไปเลยทีเดียว ผมนั้นได้ย้อนกลับมามองตัวเองว่าแท้จริงแล้วเรานั้นเป็นคนอย่างไร อยากทำอะไร และที่อยู่ทุกวันอยู่เพื่อใคร ผมตอบได้เลยว่าที่ยอมเหนื่อยยอมทำทุกวันเพื่อพ่อแม่จริงๆ พ่อแม่ของผมท่านเหนื่อยมาก ผมอยากจบไวๆ อยากมีงานดีๆ มีเงินเดือนที่เลี้ยงท่านได้ หลายคนอาจจะมองว่าเงินไม่ใช่ทุกอย่าง แต่สำหรับผมเงินและคุณค่าทางชีวิต มันไม่ต่างกันมากเลย เรามีความรักความเข้าใจจากครอบครัวมันดีมากแล้ว แต่ถ้าเรามีเงินที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราได้มีกิน มีใช้ จะทำให้ชีวิตเราสมบูรณ์มากขึ้น แต่อย่างไรถ้าความฝันที่มันอาจจะไม่สำเร็จตามเป้าหมายที่ได้วางไว้… Continue reading น้ำคำชีวิต บทเรียนล้ำค่าจากข้อสอบชีวิต นักศึกษา ม.บูรพา

“ค่ายนักฝันกล้าใหม่” ผู้นำที่เติมฝันแก่ชีวิต

โครงการธรรมวรรณศิลป์ ปีที่ ๗ และ บริษัท สูตรคูณสุข จำกัด และ สถาบันยุวโพธิชน ขอชวนเยาวชนหนุ่มสาวผู้มีใจฝันและต้องการพัฒนาตนเอง ร่วมเรียนรู้ใน “ค่ายนักฝันกล้าใหม่” ผู้นำที่เติมฝันแก่ชีวิต   เนื้อหาสำคัญของการอบรม   – เรียนรู้จักตนเอง เราเรียนรู้วิชาต่างๆ มากมายในห้องเรียน แต่น้อยครั้งนักที่เราจะได้กลับมารู้จักตนเองอย่างจริงจัง ในการอบรมมีหลายกิจกรรมและกระบวนการที่พาย้อนกลับมามองและฟังตนเองอย่างเข้าใจ เพื่อตระหนักในสิ่งที่ดีงามและสิ่งที่น่าปรับปรุง รวมทั้งความรู้สึกและความต้องการในหัวใจเรา – พัฒนาภาวะผู้นำแห่งการเรียนรู้ ผู้นำนั้นมีหลายแบบ ทุกคนต่างมีภาวะผู้นำนั้นอยู่ในตน อาจเหมือนหรือไม่เหมือนใคร การอบรมครั้งนี้ให้ได้เห็นความเป็นผู้นำที่หลากหลาย และกระตุ้นเร้าให้นำภาวะนั้นมาใช้ในการทำงานกลุ่มและชีวิต โดยเฉพาะการทำงานที่ไม่เน้นตัวเองเป็นหลักอย่างเดียวแต่เป็นผู้นำที่รับฟังและกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ในกลุ่ม – ทักษะยุวกระบวนกร คือ ทักษะพื้นฐานของการเป็นกระบวนกร ไม่เพียงเราสามารถเป็นครูหรือผู้นำที่ก่อกระบวนการเรียนรู้ แต่ทักษะเหล่านี้เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับชีวิตเราได้ เช่น การฟังอย่างลึกซึ้ง การจับประเด็น การตั้งคำถาม การสรุปเชื่อมโยง สนามพลัง และการจัดกระบวนการ เราจะไม่เป็นเพียงผู้จัดกระบวนการให้แก่ผู้อื่น แต่เป็นกระบวนกรของชีวิตตนเอง – บ่มเพาะปัญญาฐานหัวคิด จิตใจ และร่างกาย ความรู้และปัญญานั้นมีหลายรูปแบบ เราไม่เน้นการเติบโตเพียงฐานคิดหรือการคิดวิเคราะห์เท่านั้น ปัญญาที่มาจากหัวใจและร่างกายก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เราอาจมองว่าตนเองคิดไม่เก่ง… Continue reading “ค่ายนักฝันกล้าใหม่” ผู้นำที่เติมฝันแก่ชีวิต

ทำดีอย่างไรไม่ให้ติดดี หรือใช้ความดีของเราทำร้ายผู้อื่น

ระดมบทเรียนจากน้องค่ายธรรมวรรณศิลป์ ทำดีอย่างไรไม่ให้ติดดี หรือใช้ความดีของเราทำร้ายผู้อื่น ๑ ทำดีอย่างพอดี ใช้บรรทัดฐานที่เหมาะสม ๒ เข้าใจความต่าง สื่อสารอย่างละเอียดอ่อน ๓ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่อาจตัดสินคนอื่นภายนอก ๔ สร้างเหตุที่ดีโดยไม่คาดหวังผล ๕ เข้าใจ นิยามความดีมีหลากหลาย ๖ ใช้ความดีเป็นรากฐานเพื่อต่อยอดสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าความดี ๗ ติดตามผลจากการทำดีของเราด้วย ๘ ส่งต่อความดีด้วยการทำดี ๙ สะท้อนตนเองเพื่อขัดเกลา พัฒนาตน ๑๐ มีกัลยาณมิตรสะท้อนตัวเรา ๑๑ เข้าใจว่า ดี ไม่ใช่ เอ แต่ ดี ไม่ใช่ เอฟ มันเป็นไปเช่นนั้นเอง น้องสมิทขึ้นกระดาน  

เชิญร่วมงานมอบรางวัล ธรรมวรรณศิลป์ ๒๕๕๘

เชิญผู้ผ่านการอบรม เครือข่าย และผู้สนใจ ร่วมงานมอบรางวัล ธรรมวรรณศิลป์ แก่เยาวชนที่ได้รับรางวัลจากการประกวดงานเขียน “ความทุกข์กับชีวิตของฉัน” การประกวดนี้มิใช่รางวัลเพื่อส่วนตัวแต่เป็นรางวัลและโอกาสของสังคม ท่านใดต้องการสนับสนุนรางวัล อาทิ หนังสือ สมุด หรืออุปกรณ์ สามารถติดต่อทางโครงการเพื่อร่วมสนับสนุนได้เช่นกันครับ ทั้งนี้มอบรางวัลในวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๘ ณ อาศรมวงศ์สนิท คลอง ๑๕ นครนายก ท่านใดยินดีเข้าร่วมงาน หรือสนับสนุนรางวัล โปรดแจ้งทางโครงการล่วงหน้านะครับ ได้ที่ youngawakening@gmail.com  

ข้อสอบกลางภาคเขียนทบทวนชีวิตและสะท้อนบทเรียน นักศึกษา ม.บูรพา

อาจารย์ของโครงการฯ ได้รับเชิญให้จัดกระบวนการและร่วมออกแบบข้อสอบกลางภาคนักศึกษา ม.บูรพา จำนวน ๓ ห้องเรียน ในวิชาการออกแบบและการนำเสนออย่างสร้างสรรค์ บันทึกเชิงกระบวนการส่วนตัวพากลับมาทบทวนตนเอง จับประเด็นวิเคราะห์ และเรียบเรียงถ่ายทอด  ดังนี้เป็นส่วนหนึ่งจากงานเขียนข้อสอบ   “ความรู้สึกหลังบันทึก หลังบันทึกนั้นทุกอย่างก็ดีขึ้นเพราะเราได้ระบายความผิดพลาดในอดีตลงไปในกระดาษให้กระดาษแผ่นนั้นนำความรู้สึกแย่ๆของเราออกไป รู้สึกว่าตัวเองก็เก่งนะที่สามารถเก็บความรู้สึกที่บั่นทอนจิตใจของตัวเองมาเป็นเวลาเกือบ1ปี ทำให้รู้ว่าความสุขจริงๆแล้วมันไม่ได้เกิดขึ้นในเวลาที่เกิดเรื่องดีดีเท่านั้นแต่ความสุขมันเกิดได้ทุกทีขอแค่เรายอมรับในสิ่งที่เราผิดพลาดและก้าวข้ามปัญหาเหล่านั้นไปให้ได้ หลังจากได้ระบายความรู้สึกแย่ๆลงไปในกระดาษ มันเหมือนเป็นบทเรียนชิ้นนึงของเรามันเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้เราสามารถนำมันมาเป็นบทเรียนและนำมันมาเป็นแนวทางและแก้ไข้ปัญหานั้นหากปัญหานั้นกลับมาเกิดกับเราอีกครั้ง” (นายธนบดี พรกระจ่างสกุล)   “ข้อสังเกตเกี่ยวกับตัวตนเรา ฉันสังเกตได้ว่าตัวเองเป็นคนอารมณ์แบบว่าใจเย็นแต่บางสถานการณ์ก็ใจร้อนพร้อมหาเรื่องได้ตลอดถ้ามาทำให้โกรธ ไม่ชอบเข้าสังคม รักความสันโดษ สงบนิ่ง ไม่ชอบความวุ่นวาย หัวเราะง่าย เก็บกดไม่ค่อยได้แสดงออก ขี้สงสารใจอ่อนกับคนแก่ ให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับหนึ่งเป็นคนที่หัวโบราณมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่ เวลาทำงานหรือทำอะไรก็ตามจะต้องแผนมีหลักการวางขั้นตอนไว้เสร็จ เป็นคนที่อยู่ในขอบเขตเรื่องกฎระเบียบ เป็นคนตรงต่อเวลาไม่ชอบผิดสัญญา เป็นคนที่รักความอิสระเสรี ทุกคนมีสิทธิทางความคิดการกระทำเท่าๆกัน จริงจังกับงานไม่ชอบการเล่นจนเสียการเสียงาน จริงจังกับการใช้ชีวิตโดยจะท่องไว้เสมอว่าชีวิตคนเราไม่มีวันย้อนกลับได้จึงทำทุกอย่างเต็มที่และไม่ประมาทจนคนอื่นมองว่าเราเครียดเกินไป ที่จริงฉันเองก็มีมุมที่เฮฮาผ่อนคลายแต่น้อยคนนักที่จะได้เห็นถ้าไม่ใช่ครอบครัวและเพื่อนสนิทจริงๆ ชีวิตของฉันก็เป็นไปแบบเรียบง่ายอยู่ในกฎระเบียบที่ครอบครัววางไว้ ซึ่งตัวตนของฉันจะมีปรากฏอยู่ในบันทึกบางส่วนฉันไม่ได้เลือกที่จะบันทึกตัวตนทั้งหมดของฉันลงไปในบันทึกเพราะเกรงว่าจะดูแย่ไปกว่าเดิมเพราะเท่าที่ได้อ่านบันทึกของฉันทั้ง 2 ก็พอเดาได้ว่าฉันเป็นคนยังไงอาจจะไม่ตรงกับทัศนคติของคนอ่านก็เป็นได้เดี๋ยวจะพาลทำให้คนอ่านหมั่นไส้และไม่ชอบฉันขึ้นมากันพอดี ข้อสังเกตจากบันทึกอีกอย่างคือไม่มีใครรู้จักเราเท่าตัวเราเอง คงยากที่จะให้เราเป็นอย่างที่คนอื่นบอกว่าเราเป็นแบบนั้นแบบนี้ เราจะเชื่อได้ยังไงว่าสิ่งที่คนอื่นบอกมันคือตัวตนเราบางทีสิ่งที่คนอื่นบอกอาจจะเป็นสิ่งที่เขาอยากให้เราเป็น ดังนั้นเราจึงต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองแต่ก็อย่าเชื่อมั่นจนไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น” (นางสาวอลิษา แก้วบัวดี)     “คนเรามักจะใช้ชีวิตให้มีความสุขในแบบที่ต้องการ ปล่อยให้อดีตเป็นเพียงแค่ความทรงจำ จนลืมที่จะนึกย้อนกลับไปเพื่อหาบางสิ่งบางอย่างและฉันเองก็เป็นเหมือนกับคนเหล่านั้น แต่เมื่อถึงยามจำเป็นที่ต้องใช้เรื่องราวในอดีตเป็นเครื่องมือในการศึกษาเล่าเรียน… Continue reading ข้อสอบกลางภาคเขียนทบทวนชีวิตและสะท้อนบทเรียน นักศึกษา ม.บูรพา

รวมสรุปการเรียนรู้ การอบรม เขียนค้นพบตัวเอง ๒๕๕๘

รวมบทเรียนการเรียนจักตนและการเรียนรู้ จากการอบรมกึ่งออนไลน์ “เขียน = ค้นพบตัวเอง”   ดาวน์โหลดได้ที่ http://www.ebooks.in.th/ebook/32504/รวมบทเรียนการเรียนจักตนและการเรียนรู้_%22เขียน_=_ค้นพบตัวเอง%22_๒๕๕๘/   คุณหญิง อาชีพ พยาบาล “กลับมาเห็นความสำคัญของด้านตรงข้ามที่อยู่ในตัวเรา ที่จะช่วยให้เราได้ปรับใช้กับบางสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมค่ะ ทุกสิ่งอย่างเป็นการเรียนรู้และช่วยให้เราเติบโตได้จริงๆค่ะ เพียงแต่เรามีสติกับสิ่งเหล่านั้นหรือไม่ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ ที่ช่วยเตือนให้มีสติกลับมา และบ่งบอกว่าต้องเจริญสติให้มากขึ้น สิ่งหนึ่งที่ก้าวข้ามขอบของตัวเอง คือการยอมรับและเปิดเผยตัวตน โดยเฉพาะด้านร้ายของตัวเอง ก้าวข้ามความกลัวจากการปรุงแต่งไปล่วงหน้า ยอมรับการเสียหน้า ความผิดพลาด และล้มเหลว (แต่ยังทำได้ไม่ดี เพียงแค่คิดว่า ไม่ใช่ปัญหา…แต่คือการเรียนรู้) ”   คุณปวี อาชีพ วิศวกร “ผมคิดว่าหลังจากจบหลักสูตรนี้แล้ว ผมจะใช้เวลาครุ่นคิดเกี่ยวกับตัวเองให้น้อยลงนะครับ เพราะรู้สึกเลยว่าลึกๆแล้วตัวเองอยากจะลงมือทำแล้ว รู้สึกว่าคิดทบทวนเรื่องตัวเองโดยไม่ได้ทำอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรมมานานเกินพอละ และก็จะพยายามมองหาความสุขรอบๆตัวให้มากขึ้น อยากที่จะตื่นขึ้นมาทุกวันโดยรู้ตัวว่าวันนี้เราอยากทำอะไร ไม่ใช่ว่าตื่นมาพร้อมกับความเบื่อหน่ายที่ว่าวันนี้เรามีสิ่งที่ไม่อยากทำ แล้วมานั่งคิดถึงสิ่งที่อยากจะเป็นในวันพรุ่งนี้ บางทีแล้ว เราอาจจะได้มาซึ่งสิ่งที่เราต้องการได้ โดยที่เราไม่ต้องแก้ไขอะไรมากมายเลยก็ได้”   คุณกอบกุล  อาชีพ แม่บ้าน ” การบันทึก เป็นสิ่ง มหัศจรรย์ทำให้เรา เจอปม อะไรบางอย่าง… Continue reading รวมสรุปการเรียนรู้ การอบรม เขียนค้นพบตัวเอง ๒๕๕๘

มองโลกมุมใหม่ผ่านใจตากล้อง

มองโลกมุมใหม่ผ่านใจตากล้อง คุณแวว วิภา สุขพรสวรรค์ งานเขียนต่อยอดจากบันทึกการอบรม “เขียน = ค้นพบตัวเอง”     20 ธ.ค. 2545  เป็นอีกวันหนึ่งที่คงจะอยู่ในความทรงจำของฉันไปอีกนาน  วันนั้นเป็นวันที่ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างโรงแยกก๊าซและท่อส่งก๊าซไทยมาเลย์นัดหมายเดินทางไปยื่นข้อเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีที่สัญจรมาประชุมที่หาดใหญ่ทบทวนโครงการดังกล่าว ฉันเคยมีประสบการณ์เข้าร่วมการชุมนุมเพื่อเรียกร้องสิทธิในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของประชาชนในท้องถิ่นต่างๆ  ทั้งในฐานะผู้สังเกตการณ์และในฐานะผู้เกี่ยวข้องโดยตรง  ฉันจึงเข้าใจความรู้สึกเจ็บปวดและคับแค้นใจของประชาชนที่ถูกแย่งชิงทรัพยากรจากผู้มีอำนาจโดยไม่เป็นธรรม   ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจทำให้ฉันพร้อมที่จะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปด้วยกัน ก่อนหน้านี้เคยมีการจัดทำประชาพิจารณ์โครงการนี้มาแล้วถึงสองครั้ง  และจบลงด้วยการที่ชาวบ้านล้มเวทีทุกครั้ง  ทั้งนี้เนื่องจากชาวบ้านมีความเชื่อว่าการจัดประชาพิจารณ์ดังกล่าว  จะเป็นเพียงการสร้างความชอบธรรมให้กับโครงการมากกว่าการรับฟังเสียงประชาชนอย่างแท้จริง   ฉันเองได้ช่วยถ่ายวีดีโอทั้งสองครั้ง  ครั้งนี้เพื่อนจึงโทรมาขอให้ช่วยถ่ายวีดีโอให้อีก  แต่เพราะมีงานที่นัดหมายล่วงหน้าแล้วจึงปฏิเสธ  แต่ตกลงจะให้เพื่อนยืมกล้องไปถ่ายเอง  บังเอิญวันนั้นมีนักพัฒนารุ่นน้องสองคนที่มาช่วยงานอยากไปร่วมชุมนุมด้วย  ฉันจึงตัดสินใจขับรถไปส่งและถือโอกาสเอากล้องวีดีโอให้เพื่อน  ตั้งใจว่า เมื่อเสร็จภารกิจแล้วจะเดินทางกลับบ้านทันที   เราถึงหาดใหญ่ก่อนเวลานัดหมาย  จึงรับรุ่นพี่อีกคนเพื่อไปกินข้าว  แต่ยังไม่ทันได้กินก็มีโทรศัพท์จากเพื่อนบอกว่า  ตอนนี้ตำรวจตั้งด่านสกัดไม่ให้ชาวบ้านเดินทางเข้ามาในหาดใหญ่  ด้วยความเป็นห่วงพวกเราจึงขับรถไปยังจุดดังกล่าว  แต่เลือกเส้นทางลัดเนื่องจากคาดว่าเส้นทางปกติคงมีตำรวจสกัดอยู่  เมื่อไปได้ราวครึ่งทางเพื่อนโทรมาบอกว่าตำรวจยอมเปิดเส้นทางแล้ว  ชาวบ้านกำลังเดินทางเข้าหาดใหญ่ให้พวกเราไปรอที่ทางเข้าโรงแรมซึ่งนายกฯ และคณะรัฐมนตรีพัก  เรารีบกลับมายังจุดนัดหมาย  ฉันตัดสินใจจอดรถห่างจากจุดนัดหมายราวสองร้อยเมตร  เพราะเห็นว่าเริ่มมีรถยนต์จอดหลายคัน  หากไปด้านหน้าแล้วไม่มีที่ว่างจะต้องขับรถเวียนหาที่จอดทำให้เสียเวลามากขึ้น  เมื่อพวกเราทั้งสี่คนเดินไปถึงก็พบว่ามีตำรวจนับสิบนายใช้แผงเหล็กกั้นปิดเส้นทางเข้าโรงแรม  พวกเราจึงรอดูสถานการณ์อยู่ในบริเวณนั้น กว่าขบวนรถของชาวบ้านจะมาถึงก็เกือบสองทุ่ม  เมื่อเจอแผงกั้นขบวนจึงหยุดรอให้แกนนำชาวบ้านและ นักพัฒนาเจรจากับตำรวจเพื่อขอให้เปิดเส้นทาง  ระหว่างรอการเจรจาชาวบ้านบางส่วนนั่งลงกินข้าว  บ้างก็ทำละหมาด บางส่วนก็ยืนจับกลุ่มติดตามสถานการณ์… Continue reading มองโลกมุมใหม่ผ่านใจตากล้อง