หลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต : เรียนการเขียนบำบัด สู่การสร้างสรรค์ชีวิต

เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ 56

: เรียนการเขียนบำบัด สู่การสร้างสรรค์ชีวิต

… 12 สัปดาห์ จรดปากกาผ่าตัดหัวใจ เปลี่ยนให้เห็นคุณคนใหม่ สำรวจโลกภายในจิตใจ ด้วยการเขียนที่ไม่ธรรมดา

… เรียนการเขียนบำบัด (Writing Therapy) แล้วต่อยอดสู่การฝึกเขียนงานสร้างสรรค์ ดูแลหัวใจ ได้รู้จักตัวเอง ได้พลังเพื่อผลักดันชีวิตก้าวต่อไป

… แล้วคุณจะรู้ว่า การเขียนให้อะไรมากกว่าที่คิด และการเปลี่ยนชีวิตเริ่มได้ด้วยมือของตนเอง

 

เรียนออนไลน์ภาคกลางคืน เวลา 1 ทุ่มครึ่ง สัปดาห์ละสองครั้ง

เริ่ม 14 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป

หลักสูตรนี้เกี่ยวกับอะไร

“เขียนเปลี่ยนชีวิต” เป็นหลักสูตรสอนการเขียนบำบัด (Writing Therapy) เพื่อพัฒนาจิตใจและการเปลี่ยนแปลงตนเองในด้านต่างๆ อาทิ การรู้จักตนเอง การก้าวข้ามจากความเคยชิน การเยียวยาความรู้สึกเชิงลบ การรักและเห็นคุณค่าในตนเอง และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยได้ประยุกต์กับหลักการทางจิตวิทยา ผสมผสานเป็นหลากหลายเทคนิคการเขียนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่ตนเอง

 

สอนโดย ครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ ที่ได้เริ่มสอนเรื่องนี้เมื่อปี 2555 และได้ทำการศึกษาร่วมกับพยาบาลชำนาญการเกี่ยวกับการใช้การเขียนบำบัดเพื่อพัฒนาสุขภาวะผู้ต้องขังเรือนจำ และเผยแพร่กิจกรรมการเขียนบำบัดในช่องทางที่หลากหลาย มาอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการปัญญ์ สเปซ และกิจกรรมในความร่วมมือกับองค์กรการกุศลต่างๆ

 

หลักสูตรนี้เป็นกิจกรรมการเขียนด้วยเทคนิคที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้เรียนได้สร้างการเปลี่ยนแปลงจากภายในตนเอง การเขียนในที่นี้จะไม่ใช่การเขียนเพื่อสร้างผลงาน แต่จะเป็นการสื่อสารกับตนเองอย่างลึกซึ้ง เป็นการเขียนเพื่อให้เราได้ดูแลตนเอง สร้างพลังเชิงบวกให้แก่ใจ และเปิดมุมมองความคิดต่อตัวเองและชีวิตให้กว้างขึ้นผ่านการจรดปลายปากกา กล่าวคือการเขียนลักษณะนี้จะทำให้เราได้เป็นหมอ ครู และเพื่อนรักที่ดีของตนเอง

 

ที่ผ่านมาแบ่งแยกย่อยออกเป็น 4 เนื้อหาหลัก ได้แก่ เขียนเยียวยา, เขียนค้นตน, เด็กน้อยภายใน และ เขียน.ข้าม.ขอบ โดยมีจุดมุ่งเน้นที่แตกต่างกัน โดยในที่นี้จะเป็นการรวมทุกเนื้อหาในหลักสูตรเดียวให้เชื่อมโยงกัน และส่งท้ายด้วยการต่อยอดจากบันทึกการเขียนบำบัด สู่่การฝึกเขียนผลงานสร้างสรรค์ ในประเภทบทกวี ความเรียง และเรื่องสั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการก้าวข้าม “ขอบ” ของตนเอง และพัฒนาศักยภาพในการเขียนให้ดียิ่งขึ้น โดยอ้างอิงจากกระบวนการที่ครูโอเล่ใช้ในการพัฒนาสุขภาวะของผู้ต้นขังเรือนจำ ซึ่งเริ่มต้นด้วยการสอนเขียนบำบัดและส่งเสริมให้ลองพัฒนาสู่การเขียนสร้างสรรค์ในตอนท้ายสุด

Writing Therapy ดีอย่างไร

“หมอในมือ เพื่อนข้างกาย ไปได้ทุกที่ มีราคาไม่แพง แฝงคุณค่ามากมาย”

การเขียนบำบัด (Writing Therapy) เป็นเครื่องมือที่ได้รับการศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวางในต่างประเทศ อาทิพบว่า การเขียนบำบัดส่งเสริมการดูแลความหลังฝังใจ ฝันร้าย และประสบการณ์ที่ไม่พึงปรารถนา และช่วยพวกเขาค่อยๆเชื่อมโยงกับกิจกรรมและสถานที่ที่พวกเขาพยายามปฏิเสธ (Klein & Boals, 2001; Sloan & Marx, 2004) ฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ผู้ที่วัยเด็กประสบกับความเจ็บป่วยเรื้อรัง (Schwartz & Drotar, 2004) และ ผู้ที่เพิ่งผ่านความสัมพันธ์ที่แตกสลาย (Lepore & Greenberg, 2002)

 

การเขียนบันทึกยังส่งผลให้ผู้ที่เพิ่งถูกขับออกจากงานได้กลับมาทำงานใหม่ (Spera et al, 1994) หยุดงานน้อยลง (Francis & Pennebaker, 1992) มีค่าเฉลี่ยเกรดสูงขึ้น (Cameron & Nicholls, 1998) ศักยภาพโดยรวมด้านกีฬาสูงขึ้น (Scott et al, 2003 และแม้กระทั่งมีความจำดีขึ้น (Klein & Boals, 2001)

 

ครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ ได้ศึกษาร่วมกับพยาบาลชำนาญการกับกลุ่มผู้ต้องขังแดนหญิงที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เมื่อปี 2566 พบกว่า ผู้เข้าร่วมโครงการการเขียนบำบัดอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนาในด้านการฟื้นตัวจากความทุกข์ในอดีต การมีมุมมองเชิงบวกกับตนเอง ความสามารถปรับตัวในการอยู่ในเรือนจำ ความสามารถในการดูแลจัดการความรู้สึกของตนเอง การยอมรับและเข้าใจคนอื่น ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับกลุ่มและสังคม และการเห็นคุณค่าของตนเองจากสิ่งที่ทำและผลกระทบต่อส่วนรวม มีความเข้าใจในคุณค่าของตนเองมากขึ้น สามารถกำหนดเป้าหมายในอนาคตและการชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่าและมีความสุข

 

โดยทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์หลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต (www.dhammaliterary.org/khianpianchiwit/)

สิ่งที่จะได้รับในการอบรม

  • ดูแลจิตใจของตนเอง เติมเต็มความสุข คลี่คลายความทุกข์ และรักตนเองมากยิ่งขึ้น
  • รู้จักตนเองในด้านต่างๆ เพื่อรู้ทัน รู้ใช้ และรู้วาง ในศักยภาพและข้อจำกัดด้านต่างๆ และตระหนักในเบื้องหลังหรือแก่นที่ซ่อนอยู่ของสิ่งที่ตนเป็น
  • เยียวยาปมในอดีต ปลดล็อกสิ่งที่ดีในช่วงวัยเด็ก และเห็นแนวทางในการเติมเต็มความต้องการที่ซ่อนอยู่ภายในจิตใจ
  • ก้าวข้ามความเชื่อ ความรู้สึกมีข้อจำกัด เห็นโอกาสในการพัฒนาตนเองและชีวิต
  • ฝึกการเขียนบำบัดในรูปแบบต่างๆ และต่อยอดสู่การฝึกเขียนงานสร้างสรรค์

พิเศษ ! ฟรี อีบุ๊ก “เขียนรักษาใจ (ฉบับสมบูรณ์)” สำหรับผู้เข้าร่วมการอบรมที่ชำระค่าลงทะเบียนเต็ม และสั่งซื้อในราคาพิเศษได้สำหรับผู้เรียนทุกคน

เวลาเข้าเรียน

เรียนออนไลน์ด้วยโปรแกรม Zoom สัปดาห์ละ 2 คืน คืนละประมาณ 2 ชั่วโมง เริ่มเวลาหนึ่งทุ่มครึ่งเป็นต้นไป ทุกคืนวันพุธและพฤหัสบดี

แบ่งออกเป็น 4 เนื้อหา เนื้อหาละ 3 สัปดาห์ รวมทั้งหมด 12 สัปดาห์
(รวมเวลาเรียนทั้งหมด 24 คืน)

 

* สามารถเลือกเรียนบางเนื้อหาได้ แต่หากไม่เคยอบรมหลักสูตร “เขียนเปลี่ยนชีวิต” ขอให้เข้าร่วมในเนื้อหาที่ 1 อย่างน้อย 2 คืนแรก เพื่อปูพื้นฐานก่อน

กำหนดการอบรม

เนื้อหาที่ 1 (ปูพื้นฐาน) : เขียนเยียวยา – เขียนเพื่อรักษาใจตน

เรียนเขียนบำบัด (Writing Therapy) ตั้งแต่พื้นฐาน บันทึกเพื่อดูแลความรู้สึกในหัวใจ สำรวจจิตใต้สำนึก ฝึกใช้เครื่องมือหลายแบบเพื่อสำรวจความสุขและความทุกข์ในชีวิตที่ผ่านมา และใช้เทคนิคการเขียนทางจิตวิทยาเพื่อสื่อสารกับร่างกายและบ่มเพาะการรักตัวเอง

<< นักเรียนใหม่ที่ไม่เคยอบรม ต้องเข้าเนื้อหานี้ก่อนอย่างน้อย 2 คืนแรก >>>

เวลา 19.30 น. – 21.30 น.
ทุกคืนวันพุธ – พฤหัสบดี วันที่ 14-15, 21-22 และ 28-29 สิงหาคม 2567

เนื้อหาที่ 2 : เขียนค้นตน – เขียนเพื่อค้นพบตัวเอง

เรียนการเขียนแบบ Self-Reflection เพื่อสำรวจตัวตนที่หลากหลายและโลกภายในที่ซ่อนอยู่ ด้วยกิจกรรมการเขียนที่ทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น ทั้งสิ่งที่เป็นเบื้องหลังและศักยภาพที่มีในตัวเรา และกิจกรรมการเขียนร่วมกับการฝึกจินตภาพเพื่อสำรวจจิตใต้สำนึก กับแบบฝึกหัดการสนทนากับเสียงภายใน ที่ทำให้ได้ฟังเสียงหัวใจและค้นหาคำตอบจากปัญญาญาณ

เวลา 19.30 น. – 21.30 น.
ทุกคืนวันพุธ – พฤหัสบดี วันที่ 4-5, 11-12 และ 18-19 กันยายน 2567

เนื้อหาที่ 3 : เด็กน้อยภายใน – เขียนเพื่อปลดล็อกใจ

เรียนการเขียนบำบัด (Writing Therapy) ร่วมกับหลักการ Inner Child เพื่อเยียวยาปมวัยเด็ก และปลดล็อกศักยภาพแห่งความเป็นเด็กที่ซ่อนในตัวเรา ด้วยกิจกรรมการเขียนเพื่อสนทนากับเด็กน้อยที่อยู่ในตัวเรา และการเติมเต็มความต้องการภายในใจ บ่มเพาะการรักตนเอง การเข้าใจสิ่งที่ฉุดรั้งไว้ และเติบโตจากอดีตที่ผ่านมา

เวลา 19.30 น. – 21.30 น.
ทุกคืนวันพุธ – พฤหัสบดี วันที่ 25-26 กันยายน 2567
และ 2-3, 9-10 ตุลาคม 2567

เนื้อหาที่ 4 : เขียน.ข้าม.ขอบ – เขียนเพื่อข้ามเซฟโซน

เรียนการเขียนสร้างสรรค์ จรดปากกาเพื่อออกนอกกรอบความคิด สร้างแรงบันดาลใจให้กับตนเอง และต่อยอดจากบันทึกส่วนตัวสู่งานเขียน ด้วยการฝึกเขียนบำบัดด้วยเทคนิคพิเศษ ควบคู่กับการเรียนสร้างงานเขียนในรูปแบบความเรียง บทกวี และเรื่องสั้น เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในตนเองในด้านการเขียน ออกจากพื้นที่ปลอดภัย และการก้าวข้ามขีดจำกัดทางความคิดต่างๆ เป็นพลังใจไปสู่ความสำเร็จในแบบที่ต้องการ

เวลา 19.30 น. – 21.30 น.
ทุกคืนวันพุธ – พฤหัสบดี วันที่ 16-17, 23-24 และ 30-31 ตุลาคม 2567

รูปแบบการเรียน

  • ในแต่ละคืนประกอบด้วยกิจกรรมการเขียน การฟังบรรยายจากครู และการสนทนาแลกเปลี่ยนกับเพื่อนร่วมเรียน
  • ผู้เข้าอบรมจะต้องสามารถเขียนบันทึกตามกิจกรรมที่กำหนด และสามารถร่วมแบ่งปันความรู้สึกและข้อคิดเห็นในประเด็นต่างๆ เพื่อเป็นการเรียนรู้ร่วมกันกับเพื่อนร่วมเรียน
  • โดยกิจกรรมการเขียน จะต้องใช้การเขียนด้วยมือลงสมุด (ขนาดประมาณครึ่งเอสี่ขึ้นไป) หรืออุปกรณ์แท็บเล็ตที่ใช้ปากกาสไตรัสเท่านั้น
  • สามารถส่งบันทึกเพื่อให้ครูอ่านและแนะนำรายบุคคลได้หลังจบการอบรมแต่ละสัปดาห์ โดยครูจะแจ้งรายละเอียดวิธีการส่งในการอบรม
  • เรียนครบอย่างน้อย 2 เนื้อหา รับใบประกาศจบหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต และได้รับแบบฝึกหัดออนไลน์สำหรับฝึกเขียนเปลี่ยนชีวิตต่อด้วยตนเอง ในเนื้อหาที่ได้เข้าร่วม

ค่าลงทะเบียน

ชำระเต็มจำนวน 2,900 บาท สำหรับผู้มีกำลังทรัพย์ (เฉลี่ยคืนละ 121 บาท) หรือ สนับสนุนค่าใช้จ่ายตามกำลังทรัพย์ สำหรับผู้มีกำลังทรัพย์ไม่เพียงพอ (สามารถบริจาคส่วนหนึ่งก่อนเพื่อเป็นการยืนยันการเข้าร่วม)

 

รายได้จากการอบรมนี้ เมื่อหักค่าใช้จ่ายและค่าวิทยากรแล้ว นำไปใช้ในโครงการเพื่อการกุศลต่างๆ ของสถาบันธรรมวรรณศิลป์ อาทิ โครงการประกวดงานเขียนเยาวชน รางวัลธรรมวรรณศิลป์ เพื่อมอบทุนการศึกษา, โครงการปัญญ์ สเปซ และการอบรมเพื่อการกุศล โดยเราเป็นโครงการที่ดำเนินงานด้วยรายได้จากการจัดกิจกรรม ไม่พึ่งพาการขอรับทุนจากบริษัทหรือองค์กรใด

 

อ่านรายละเอียดโครงการเพื่อการกุศลของเรา ได้ที่

www.dhammaliterary.org/โครงการเพื่อการกุศล/

สมัครเข้าร่วม

ติดต่อสอบถาม : www.facebook.com/khianpianchiwit
และอีเมล dhammaliterary@gmail.com

สิ่งที่ผู้เรียนรุ่นก่อนได้รับ

“รู้สึกว่าได้เยียวยาและปลดล็อกความหนักอึ้งที่แบกรับในช่วงปีที่ผ่านมาได้ดี ปัญหาทางความรู้สึกที่มัวๆ เป็นก้อนหนักๆ เหมือนด้ายที่ขยุ้มพันกันไปมา ได้ถูกสางลง จากการเขียน ประทับใจที่ครูมีความตั้งใจและใส่ใจในการอ่านการบ้าน และตอบอีเมลพร้อมรายละเอียดการสะท้อนกลับ ที่ทำให้ตัวเองเห็นตัวเองชัดีขึ้น และใส่ใจในทุกขั้นตอนของการเรียน” / คุณมายลี่

 

“ชอบมากค่ะ มันเป็นโอกาสได้ทบทวนบางอย่างในตัวตนเรา รู้สถานการณ์ตัวเองว่ากำลังเพ่งเรื่องอะไร สุขจากอะไร ทุกข์จากอะไร และได้รับคำแนะนำว่าสิ่งนี้ดีแล้ว สิ่งนั้นให้ค้นหาต่อจนพบ เป็นหลักสูตรที่ดีมาก ๆ ค่ะ ได้มุมมองการหลุดจากสิ่งที่เรายึด สิ่งที่เราคิด ได้ปล่อยวาง ได้รู้จักตัวเองจริง ๆ ในบางมุม ที่เราคิดว่าไม่ใช่ แต่จริง ๆ มันใช่ค่ะ ได้รู้ว่าตัวเองลืม หรือขาดหายอะไรไป และชอบอะไร เช่นชอบการมีเพื่อน การสนุกสนาน ทำให้กลับไปหาเพื่อนเพิ่มขึ้น โทรไปคุยกับเพื่อน ถามสุขทุกข์เพื่อน ได้เยียวยาจิตใจตนเองด้วยค่ะ” / คุณวีรมลล์

 

“กิจกรรมทำให้ฉันค้นพบว่า ตนเองมีคำตอบในทุกๆเรื่องอยู่ภายในของตัวเราอยู่แล้ว เพียงแค่เราต้องมีเครื่องมือและวิธีการที่เราจะสามารถเข้าไปพูดคุย สอบถาม และเสาะหาสิ่งเหล่านั้นจากภายในของเรา และยังทำให้ ฉันได้ค้นพบตนเองในบางมุมที่ตกหล่น หรือขาดหายไป ฉันได้กลับไปเชื่อมโยงตนเองในแง่มุมที่ดีงามเหล่านั้นอีกครั้ง มันทำให้ฉันเกิดกำลังใจที่ดีอย่างมากที่จะกลับมาใช้ชีวิตด้วยความสุข และสิ่งดีๆที่ได้รับนี้ ยังคงอยู่ ไม่ได้รู้สึกแค่ตอนที่อยู่ในคลาส นี่หลายๆวันผ่านไป ฉันก็ยังรู้สึกดีเช่นเดิม คงเป็นเพราะฉันได้เรียนรู้จากครูถึงกระบวนการ และเครื่องมือที่ดีที่ฉันจะสามารถนำพาตนเองกลับมารับพลังที่ดีจากภายในของตนได้อย่างตลอดไป” / คุณจุฑามาส

 

“สิ่งที่ได้รับจาการอบรมเขียนเยียวยาในครั้งนี้ อย่างแรกคือ การเห็นคุณค่าในการมีชีวิตอยู่ จากเดิมที่ความคิดอยากหายไปโลดเเล่นอยู่ในหัว เมื่อได้กลับมาทบทวนเเละอยู่กับตัวเองอย่างไม่ดิ้นรน ไม่สู้ไม่หนีความรู้สึกเเย่ๆที่เกิดขึ้น ฟังเสียงร่างกาย เเละปลอบโยนร่างกาย ทำให้ความคิดอยากฆ่าตัวตายหายไปในพริบตา” / คุณนาฏวดี

 

“จากการได้มาเขึยน 1. ทำให้เราเอาความคิดที่มีอยู่มาเรียบเรียงและเห็นภาพทั้งหมด ทั้งที่ทำให้เรามีความสุขและมีความทุกข์ เข้าใจชีวิตมากขึ้นว่ามีสุขและทุกข์ เราจะเลือกมองมุมไหน 2. ทำให้เราเข้าใจอารมณ์ ต่างๆที่เกิดขึ้นละเอียดขึ้น อย่างอารมณ์โกรธ ซึ่ง หลังจากเขียน แล้วทำให้เข้าใจสาเหตุที่ทำให้เกิดอารมณ์โกรธ เกิดจากเรามีความคาดหว้งและไม่ได้ตามนั้น และไม่รู้ว่าจะสื่อสารความต้องการหรือความรู้สึกเราอย่างไร หลังจากเขียนแล้ว ควบคุมอารมณ์โกรธได้ดีมาก” / คุณพุทธชาด

วิทยากร

ครูโอเล่ อนุรักษ์ เม่นหรุ่ม C.Ht

 

ผู้อำนวยการ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ วิทยากร นักเขียน นักสะกดจิตบำบัด ผู้สอนการเขียนบำบัดในชื่อชุดหลักสูตร “เขียนเปลี่ยนชีวิต” สอนการสะกดจิตบำบัดและการโปรแกรมจิตตัวเองในชุดหลักสูตร “ห้องเรียน พลังแห่งจิต” (30 รุ่น) นอกจากนี้ก็ยังเปิดอบรมในเนื้อหาต่างๆ อาทิ การรู้จักตนเอง การเจริญสติภาวนา การพัฒนาครู และภาวะผู้นำ แก่บุคคลหลากหลายอาชีพ โดยได้รับ Certified Hypnotherapist

 

เป็นผู้เขียนคอลัมน์ออนไลน์ “ไกด์โลกจิต” ผู้ร่วมศึกษาการเขียนบำบัดเพื่อส่งเสริมสุขภาวะผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ HIV (เสนอผลการศึกษาสองครั้ง) และผู้ศึกษาค้นคว้าเรื่องการเขียนภาวนา (เปิดสอน 14 รุ่น และกำลังอยู่ระหว่างศึกษาวิจัยการเห็นคุณค่าในตัวเองผ่านการเขียนภาวนา)

เงื่อนไขและข้อตกลง

  • ผู้สมัครมีความตั้งใจร่วมกิจกรรมการอบรมอย่างเต็มที่ โดยได้อ่านรายละเอียดทั้งหมดและสมัครด้วยตนเอง พร้อมมีส่วนร่วมในขั้นตอนต่างๆ กับการทำกิจกรรมในการอบรมโดยทางโครงการไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • เนื่องจากการอบรมจะต้องมีการปฏิบัติเกือบทุกช่วง ดังนั้นจึงขอให้งดเว้นการเรียนคอร์สนี้พร้อมกับการทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น การขับรถ การทำงาน หรือการเรียนซ้ำซ้อน
  • เมื่อชำระค่าลงทะเบียนแล้วไม่มีการยกเลิก ขอเลื่อน หรือคืนเงินมิว่ากรณีใดๆ เพื่อรักษาสิทธิ์ในการเข้าร่วมการอบรมของผู้สมัครคนอื่นๆ มิให้ถูกกันที่ไว้ ยกเว้น กรณีที่ชำระค่าลงทะเบียนแล้วทางโครงการมีการยกเลิกหรือเต็มจำนวนรับสมัครจะมีการคืนค่าลงทะเบียนเต็มจำนวน
  • หากมีความประพฤติไม่เหมาะสมหรือส่งผลเสียต่อผู้เข้าเรียนคนอื่นๆ และอาจารย์ผู้สอน ทางโครงการจะเชิญออกจากการอบรมโดยไม่มีการชดเชยใดๆ เพื่อความเรียบร้อยและความสำรวมระวังในการฝึกฝน
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว ต้องทานยา หรือต้องพึ่งพาการดูแลเป็นกรณีพิเศษ โปรดแจ้งปรึกษาโครงการก่อนสมัครเข้าร่วมเพื่อพิจารณาถึงความเหมาะสมร่วมกัน

ติดต่ออบรมให้กับองค์กร/กลุ่มบุคคล

ทางโครงการรับเชิญอบรมให้กับองค์กรหรือกลุ่มบุคคลตามระยะเวลาและเป้าหมายที่ต้องการ โดยอาจมีการประยุกต์ร่วมกับเครื่องมืออื่นเพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย เช่นการเขียนแบบ Visual Notes, กิจกรรมฝึกการทำงานเป็นทีม, การทำสมาธิและการเจริญสติ ผ่านศิลปะและการเขียน เป็นต้น

องค์กรและกลุ่มบุคคลที่เราได้เคยอบรมให้ : เจ้าหน้าที่เครือข่ายองค์กรงดเหล้า สคล., กิจกรรมการอบรมของ มูลนิธิกัลยาณการุณย์ (5 รอบ), กลุ่มเพื่อนรัก (ผู้ป่วย) โรงพยาบาลบางบ่อ, ผู้ต้องขังแดนหญิงเรือนจำสมุทรปราการ (2 รอบ) กลุ่มพยาบาล ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี, พนักงานบริษัท Bangkok Pacific Steel  (2 รอบ), คณะครูโรงเรียนอนุบาลช้างน้อย (3 รอบ) ฯลฯ

 

ติดต่อได้ที่ ครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์

เฟสบุ๊ค : www.facebook.com/khianpianchiwit/

เว็บไซต์ : www.dhammaliterary.org

อีเมล : dhammaliterary@gmail.com