อ่านบันทึกผู้เรียน หัวข้อ “ภาวนา” จากคุณอัปสร (ขวัญ) ในการอบรม “เขียนภาวนา” หลักสูตรเขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๑๘ โดยครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ www.dhammaliterary.org : : : ดนตรีประกอบ “Melody Of The Night” โดย Jin Shin
Author: admin
“ฉันตัวเล็ก แต่ภายในมีผู้ชายคนหนึ่งหลบซ่อนอยู่” | เขียนภาวนา บันทึกผู้เรียน
อ่านบันทึก “ความอ่อนน้อม” จากคุณวรวิทย์ ผู้เรียนคอร์ส “เขียนภาวนา” ในหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๑๙ โดยครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ www.dhammaliterary.org : : : ดนตรีประกอบ “Melody Of The Night” โดย Jin Shin
7 วิธีเลิกฝันกลางวัน แล้วผลักดันชีวิต (ตอนแรก)
7 วิธีเลิกฝันกลางวัน แล้วผลักดันชีวิต (ตอนแรก) ชีวิตทุกคนมีคุณค่าที่ได้เกิดมา แต่บางคราบางช่วงเวลากลับเลื่อนลอยและลับเลือนอย่างว่างเปล่า เมื่อเราใช้เวลาอย่างสูญค่า หรือบางขณะยามใจรู้สึกว่างไร้ มีบางสิ่งที่หวังอยากได้ หวังให้เป็น หรือคิดคะนึงหวนหา ฝันกลางวันยามตื่นในใจ แต่กลับมิอาจเปลี่ยนแปลงหรือทำสิ่งใดให้เกิดขึ้นในปัจจุบัน . เราทุกคนแม้แต่คนที่สุขสมหวังหรือผิดพลาดต่างก็มีความฝันกลางวันกันไม่มากก็น้อย ฝันกลางวันคือความคิดความหวังชั่วขณะในใจ และความฟุ้งซ่านกังวลใจต่างๆ อาจเป็นมโนภาพจินตนาการหรือความคิดเช่นว่า หากเป็นเช่นนั้นก็จะดีไม่น้อย หรือ ถ้าไม่…แล้วก็คง… . การฝันกลางวันหรือจะฝันกลางคืนไม่ใช่สิ่งเสียหาย แต่น่าเสียดายหากเราจะเพียงฝัน แต่มิได้ทำสิ่งใดให้สมคุณค่าเวลาที่ฝันถึง หรือปล่อยให้ความกลัวฉุดรั้งเราจากความสุขและคุณค่าที่เราพึงได้รับ . บทความนี้จะชวนเราแปรเปลี่ยนช่วงเวลาและพลังงานฝันกลางวันมาเป็นแรงผลักดันชีวิต ดังคำแนะนำทั้งเจ็ดข้อ หากคนใดมีข้อคิดหรือวิธีการแลกเปลี่ยนกันเพิ่มเติมก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้ตามช่องทางที่สะดวก . 1 หยิบแก่นแท้ในฝัน แล้วนำมันมาใช้ : ทุกความฝันกลางวันต่างเป็นความฟุ้งซ่านของจิตที่หวังชดเชยหรือเติมเต็มช่องว่างในหัวใจ ช่องว่างนั้นก็คือความต้องการที่ยังขาดการดูแล เช่น หากบางคนฝันถึงการได้เดินบนพรมของนางแบบ มีกล้องมากมายจับจ้อง ประกายแฟลสแวบวับ ความต้องการที่อยู่ลึกในใจก็คงเป็นการได้ถูกแลเห็นจากคนรอบข้าง ต้องการความชื่นชม และการนำเสน่ห์เฉพาะตัวของตนออกมาใช้ หากเราเข้าใจว่าในฝันกลางวันที่ฉายแวบในห้วงคำนึงสื่อถึงความต้องการใด เราก็เพียงแปรเปลี่ยนให้ความต้องการนั้นเป็นเป้าหมายที่เราจะดูแลในแต่ละวัน เราอาจไม่มีโอกาสเดินบนพรมนางแบบตอนนี้ แต่เราก็สามารถดูแลการแต่งกายตนให้ดี ใช้ความสามารถที่ตนมีทำสิ่งต่างๆ รอบตัวให้สำเร็จ อยู่กับคนที่เห็นคุณค่าในตัวเรา และทำสิ่งที่น่าชื่นชมอยู่เสมอ… Continue reading 7 วิธีเลิกฝันกลางวัน แล้วผลักดันชีวิต (ตอนแรก)
ความอยากและความยึด | เขียนภาวนา
การเขียนภาวนา สลับกับการบรรยายในหัวข้อ “ความอยากและความยึด” โดยครูโอล่ ส่วนหนึ่งของเนื้อหาในการอบรม “เขียนภาวนา” หลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต สถาบันธรรมวรรณศิลป์ www.dhammaliterary.org/
ความกลัวกับการเขียน | เขียนภาวนา
เรียนรู้ก้าวข้ามความกลัวผ่านการเขียน บรรยายไปพร้อมเขียนภาวนา โดยครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ ส่วนหนึ่งของหลักสูตร “เขียนเปลี่ยนชีวิต” www.dhammaliterary.org
การเริ่มต้นคือทุกสิ่ง : เขียนภาวนา
เขียนภาวนาและบรรยายหัวข้อ “การเริ่มต้นคือทุกสิ่ง” โดย ครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ เพื่อประกอบการสอน “เขียนภาวนา” ในหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต และเผยแพร่สำหรับบุคคลที่สนใจ โดยครั้งนี้ได้เขียนภาวนาในเวลาตามวิดีโอและเพิ่มเติมคำบรรยายในภายหลัง . เว็บไซต์สถาบันธรรมวรรณศิลป์ www.dhammaliterary.org
3 ระดับของการเขียนภาวนา | เขียนภาวนา เบื้องต้น
บรรยาย 3 ระดับของการเขียนภาวนา เพื่อกำหนดเป็นเป้าหมายในการปฏิบัติขัดเกลาจิตด้วยการเขียน ผ่านหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต หัวข้อ “เขียนภาวนา” โดยทั้งนี้ยังสามารถนำหลักดังกล่าวมาสะท้อนตรวจทานการปฏิบัติธรรมในระบบอื่นๆ ได้ตามความเหมาะสม … โดยครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ www.dhammaliterary.org
เขียนภาวนา | พื้นฐาน
คลิปแนะนำการเขียนภาวนา โดยการเขียนภาวนาจริงจากครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ สำหรับผู้เรียนในหลักสูตร และบุคคลทั่วไปที่สนใจ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ www.dhammaliterary.org
รวมบทเรียน พลังแห่งจิต กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๖ (๕)
“ตอนระลึกถึงความรัก ตอนแรกที่บอกว่ามันแวบความรู้สึกโดดเดี่ยวขึ้นมา แต่ไม่นานภาพแม่ก็ขึ้นมาแทน นัยน์ตารื้นขึ้นทันที ยิ่งนึกยิ่งคิดถึงน้ำตาก็ไหลออกมา รับสัมผัสตรงนี้มันลึกมากค่ะ เข้าไปถึงหัวใจ เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่มาก เขียนมาถึงตอนนี้เลยนึกขึ้นได้ว่าเราไม่ค่อยได้ดึงพลังแห่งความรักของแม่มาเป็นพลังหล่อเลี้ยงใจเราเท่าไร ทั้งที่ดูน่าจะเป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุด และสำหรับตัวเองจุดนี้ (จักระ)ก็ค่อนข้างจะอ่อนแอเปราะบางด้วย . ตอนครูให้กำหนดใจบริเวณหน้าผาก ตรงกลางเหนือหว่างคิ้ว จินตนาการถึงแสงสีน้ำเงิน สว่างบริเวณนี้ครู่หนึ่ง แล้วพาใจนึกถึง ช่วงเวลาที่เราได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง หรือเกิดไอเดียที่ดีขึ้น ตอนนั้นนิ่งไปนิดนึงค่ะ บริเวณหว่างคิ้วเหมือนมีแรงดึงดูด ไม่เห็นสีน้ำเงิน แต่เห็นความคิดตนแวบนึงว่า ในห้วงที่ผ่านมาดูเหมือนเราจะว่างเปล่ามาก ไม่มีสิ่งใดดีๆเกิดขึ้นกับชีวิตเลย แล้วภาพในห้องเรียนก็ปรากฏขึ้นมาแทนค่ะ แล้วความรู้สึกที่หว่างคิ้วก็หายไป เห็นเป็นภาพในกรอบสีทองที่ครูพาจินตนาการ ตอนนั้นในใจก็ย้อนความรู้สึกในห้องเรียนขึ้นมา คือเป็นความอบอุ่นที่อาจารย์ที่เคารพรักท่านมองเห็นเรา เชื่อมั่นในตัวเราและปรารถนาให้เรามีความสุข ประสบความสำเร็จในชีวิตทุกเรื่อง เป็นภาพที่ชัดเจน พอมาระลึกอีก ก็เหมือนดูหนังซ้ำย้ำเตือนตนเองอีก แถมยังได้บอกกับตนเองในใจอีกว่า “เราเก่ง เราทำได้ เราประสบความสำเร็จได้” . เมื่อจบกิจกรรมจึงรู้สึกอบอุ่นใจค่ะครู มาถึงตอนนี้ก็มีความคิดเพิ่มจากการบันทึกแลกเปลี่ยนนี้ว่า ความสามารถเรามีอยู่ในตน อาจห่างหายไปเพราะสถานการณ์บางอย่าง ขอให้เรารู้ตัวและระลึกรู้ถึงสิ่งนั้นอย่างที่เขามีอยู่ในตัวเราตลอดเวลาไม่เคยทิ้งเราไปไหน เราควรสื่อสารกับเขาให้มากสัมผัสเขาบ่อยๆ และเมื่อเรารู้สึกเหนื่อยท้อให้นึกถึงพลังความรักของแม่และครูอาจารย์ที่ปรารถนาดีต่อเราเสมอมา” . บทเรียนจากกิจกรรมปรับพื้นฐาน หลักสูตร #ห้องเรียน #พลังแห่งจิต… Continue reading รวมบทเรียน พลังแห่งจิต กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๖ (๕)
รวมบทเรียน พลังแห่งจิต กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๖ (๔)
บทเรียนการอบรม “#ห้องเรียน #พลังแห่งจิต” รุ่นที่ ๖ กี่งออนไลน์ * * * * * “วันนี้ลองทำซ้ำกิจกรรมเดิม แต่ก่อนทำได้ทำกิจกรรมเสริม 6-7 พร้อมและต่อเนื่องกันไปเลย เพราะคิดว่สทั้งสองกิจกรรมเอื้อต่อกันค่ะครู พอได้เริ่มรู้สึกว่าจิตเราสงบไม่ส่งออกนอกมีความรู้สึกผ่อนคลายจิตออกไป ตอนที่บอกกับตัวเองว่าเรารับพลังเข้ามา และตอนหายใจออกบอกว่าเราได้ทำในสิ่งที่มีคุณค่านั้นรู้สึกมีพลังบางอย่างวิ่งอยู่ในกาย ทำให้รู้สึกอิ่มเอมบอกไม่ถูกค่ะ . สำหรับกิจกรรมปล่อยวางพอได้ทำซ้ำแล้ว บทเรียนที่ได้จากการทำกิจกรรมนี้คือ ร่างกายหรือความรู้สึกของเรามันบอกกับเราว่าบางอย่างที่มันผ่านมาแล้ว บางทีเรายังเก็บไว้อยู่ในใจ พอเราได้ย้อนกลับไประลึกถึงทั้งสิ่งที่พอใจและไม่น่าพอใจ ทั้งสิ่งของ ทั้งความรู้สึกขณะทำนั้น ไม่ว่าความเจ็บปวดหรือความเมื่อยต่างๆก็ดี หากเราเอาจิตไปจับไปให้ความสำคัญกับมัน เราจะรู้สึกทุกข์กับมันมาก การพยายามนึกถึงสิ่งที่ทำให้ไม่พอใจ มันทำให้จิตรู้สึกอึดอัดแน่น ต่อเมื่อใจ้ราคลายออกได้ ไม่ยึดไม่เกาะเกี่ยวบอกดับตัวเองให้ให้ปล่อยวางมันไป เรารู้สึกเลยว่าใจโล่งเบาไม่อึดอัด แม้แต่ความเจ็บปวดของร่สงกายพอเราไม่ใส่ใจบอกตัวเองว่าปล่อยวางอาการนี้ซะมันกลับไม่ทุกข์ทรมานแม้เราจะรู้สึกว่า อาการนั้นยังคงอยู่แต่มันไม่อาจเข้ามาทำร้ายจิตใจเราได้ มันทำให้เราตระหนักว่าทุกวันที่เราเป็นทุกข์เพราะเราเอาปัญหาหรือสิ่งที่รู้ว่าทำให้ทุกข์เอามาเก็บไว้ จริงๆถ้าเราแค่รู้ว่ารู้สึกทุกข์ โดยไม่ต้องไปจมจ่อมอยู่กับมัน ความทุกข์มันก็ทำร้ายเนาไม่ได้แล้ว ทุกอย่างอยู่ที่ความคิ อยู่ที่มุมมองของเราจริงๆนะคะครู . ขอบคุณครูอีกครั้งที่ให้ทำหัวข้อนี้ซ้ำทำให้เข้าใจและรู้ว่าการปล่อยวางคือการวางใจไม่ไปยึดกับสิ่งใดที่ทำให้ใจเป็นทุกข์นั่นเอง วันนี้รู้สึกโล่งๆเบาใจค่ะ” . จากคุณเพียงใจ (จุ๋ม) อาชีพ พนักงานรัฐวิสาหกิจ *… Continue reading รวมบทเรียน พลังแห่งจิต กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๖ (๔)
