8 คุณค่าที่เรามีดั่ง “แม่” (ตอนที่สอง) การเป็นแม่นั้นคือครูที่ยิ่งใหญ่ หน้าที่นี้และลูกคือของขวัญล้ำค่าสำหรับผู้เป็นแม่เสมอ แต่มิใช่เพียงท่านเท่านั้น ลูกเองก็ได้รับสิ่งมีค่าอย่างเดียวกันแนบเนาในชีวิตของตน เพราะเราทุกคนมี “แม่” อยู่ในลมหายใจและตัวตนเสมอมิว่าทางหนึ่งทางใด ทั้งในความทรงจำ เลือดเนื้อ และเมล็ดพันธุ์แห่งความดีงาม . จึงกล่าวว่าแม่นั้นมี “พระคุณ” ใหญ่หลวงต่อตัวเรา ด้วยหัวใจของการเป็นแม่ เป็นดั่ง “คุณพระ” ปกปักษ์แก่หัวใจเด็กน้อยและตัวท่าน มีหัวใจแห่งธรรมของทุกศาสนาอยู่ในความเป็นแม่ ทุกเส้นทางที่เราทั้งสองได้พบเจอ คือก้าวหนึ่งของการเติบโตแห่งจิตใจ เราได้เรียนรู้ความรักที่แท้ก็ในความเป็นแม่กับลูก เราได้พบแบบฝึกใจที่สำคัญเพื่อสละละอัตตาตน ก็ในความเป็นแม่กับลูกนี้ . แม้เรื่องราวระหว่างกันจะมีความเจ็บปวด มีความผิดใจ มีความโกรธ และแม้การจากลา เรื่องราวเหล่านี้ล้วนเป็นประตูที่รอเปิดออก เพื่อค้นพบคุณค่าแท้ในสายใยระหว่างกัน คุณค่าที่จะอยู่กับเราเสมอ แม้กำแพงหรือระยะทางใดจะกั้นขวางเรา ทุกการพบเจอของทุกคนมีความหมาย แม้ชอบหรือไม่ก็ตาม การที่เราได้เป็นแม่และลูกต่อกัน ย่อมมีความหมายต่อการเติบโตทั้งสองฝ่าย มีบทเรียนและของขวัญพร้อมมอบให้แก่กัน ถึงแม้บางเรื่องอาจต้องใช้เวลายาวนานกว่าตระหนักได้ก็ตาม . บทความนี้เป็นตอนที่สองในหัวข้อ “8 คุณค่าที่เรามีดั่งแม่” เพื่อให้เรามองตนและมองแม่อย่างเข้าใจในคุณค่าต่อกัน และเรียนรู้สิ่งที่ความเป็นแม่ได้สอนเราทั้งสองฝ่าย นำไปสู่การตระหนักในบางคุณค่าที่เรามีและเป็น แต่อาจหลงลืมไป ผู้อ่านคนใดมีข้อคิดเห็นหรือความรู้สึกใดต้องการแลกเปลี่ยนเพิ่มเติม… Continue reading 8 คุณค่าที่เรามีดั่ง “แม่” (ตอนที่สอง)
Author: admin
แรงบันดาลใจและการค้นพบ เมื่อ “เขียนข้ามขอบ” รุ่นที่ ๒๑ (๒)
” รู้สึกว่าได้เขียนในหัวข้อที่หลากหลาย และแต่ละหัวข้อก็ช่วยให้เราได้ทบทวนตัวเองไปเรื่อยๆ หัวข้อชอบคือ “มองสิ่งมีค่าอย่างศิลปิน” หัวข้อนี้ทำให้ดิฉันเกิดความชัดเจนในตัวตนของตัวเองมากขึ้น ประกอบกับการเขียนในหัวข้อ มองลอดลูกกรง ทำให้เรารู้จักและเข้าใจตัวเองมากยิ่งขึ้น . ” หลังอบรมฉันจะมีสติมากขึ้น อยู่กับตัวเองมากขึ้น เมื่อมาเขียนในแต่ละหัวข้อก็พบว่า จริงๆ เราก็มีตัวตนนะ มีความยอมรับเรานะ เราเป็นที่ต้องการนะ ที่ผ่านมาตัดสินตัวเองจากมุมมองของตัวเองเท่านั้น . ” และที่สำคัญฉันจะเขียนให้มากขึ้น เมื่อเราทบทวนตัวเองบ่อยๆ ผ่านการเขียน เราก็จะได้คำตอบที่จะพัฒนาตัวเองมากขึ้น ชัดเจนขึ้น รู้ข้อบกพร่องของตัวเอง ” . คุณกฤตวรรณ (อุ้ย) อาชีพ อาจารย์ . . ” ก่อนที่จะเริ่มการอบรมก็ยังคิดๆนะคะว่า มันจะ เวิร์ค เหรอคะ แต่ไม่น่าเชื่อค่ะ มันโอเคมากๆเลย หนูรู้สึกได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง . ” หนูได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ หนูได้ทบทวนตัวเอง เห็นตัวเอง ได้เข้าใจ ยอมรับ หนูได้รู้จักความอิสระ แม้ในสภาวะตึงเครียส… Continue reading แรงบันดาลใจและการค้นพบ เมื่อ “เขียนข้ามขอบ” รุ่นที่ ๒๑ (๒)
แรงบันดาลใจและการค้นพบ เมื่อ “เขียนข้ามขอบ” รุ่นที่ ๒๑ (๑)
” ที่ผ่านมาเราอาจจะไม่เคยคุยกับตัวเอง หรือ การคุยกับตัวเองรวมถึงการเขียนไดอารี่ก็เป็นการเขียนแบบบอกเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นๆ แต่การเขียนในคอร์สอบรมเขียนข้ามขอบทำให้การเขียนเป็นการคุยกับตัวเองจริงๆ ได้ดึงเอาสิ่งที่อยู่ลึกๆ ในใจเราออกมา บางเรื่องเราอาจจะมองข้ามไม่ได้นึกถึง บางเรื่องเราก็มีคำตอบของเราอยู่แล้วแต่เหมือนมันซ่อนอยู่ที่ไหนสักที่ในใจเรา เขียนข้ามขอบทำให้เราตระหนักสิ่งที่มีอยู่ในตัวเรามากขึ้นค่ะ . ” ได้ค้นพบความเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง ต่อไปนี้ตั้งใจบ่มความสุขใจของตัวเองและคนรอบข้าง บ่มอิสระภาพในตัวเอง และเขียนบันทึกให้เป็นนิสัย เขียนถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้ในแต่ละวัน หากสามารถย้อนเวลาได้แต่ละเรื่องเราจะทำใหม่หรือไม่เพราะอะไร หรือ เราจะทำอะไรเพิ่มเพื่อให้เรื่องนั้นๆ ดีขึ้นไปอีก ” . > อาภรณ์ (แหม่ม) อาชีพ พนักงานบริษัท , #เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๒๑ ” ก่อนเข้าร่วม กังวลในวิธีการเรียนว่าจะเริ่มเขียนได้อย่างไรไม่มีอาจารย์สอน เราจะทำได้หรือไม่เพราะไม่มีใครบังคับเหมือนเรีบนในชั้นเรียน หลังอบรม ประทับใจรูปแบบและวิธีการมาก หัวข้อและวิธีการชัดเจน มีตัวอย่าง ชื่อหัวข้อดึงดูดความสนใจให้มีไอเดียที่เราคิด หรือลองเขียนได้จริง มั่นใจว่าการเขียนช่วยเปลี่ยนจากด้านในเราได้ . ” การทบทวน ใคร่ครวญ ทำให้เราสามารถค้นหาและกล้าวาดและระบายสิ่งที่เราไม่กล้าเปิดความคิดหรือความรู้สึกเหล่านั้นให้ใครรู้ได้ แต่ใจเราเบาลงเมื่อได้ฝึกเขียน ความรู้สึกต่าง ๆ… Continue reading แรงบันดาลใจและการค้นพบ เมื่อ “เขียนข้ามขอบ” รุ่นที่ ๒๑ (๑)
8 คุณค่าที่เรามีดั่ง “แม่” (ตอนแรก)
8 คุณค่าที่เรามีดั่ง “แม่” (ตอนแรก) ในลมหายใจนี้มีแม่อยู่เสมอ เมื่อเราหันหลับมาให้สิ่งที่ดีแก่หัวใจตนเอง หัวใจของแม่ก็ได้รับด้วยเช่นกัน เมื่อใดที่เรารู้รักตัวเองอย่างแท้จริง เมื่อนั้นเรากำลังแสดงความกตัญญูและรักแก่แม่เราด้วย เมื่อใดก็ตามที่จิตใส่ใจลมหายใจ เรากำลังให้ความเคารพกับชีวิตที่เราได้รับมา ร่างกายนี้ส่วนหนึ่งเดินทางมาจากท่าน เราทั้งสองเป็นหนึ่งเดียวของกันอยู่เสมอ ไม่ว่าท่านอยู่ไกลจากเราเพียงไหน หรือกำแพงหนึ่งใดกั้นใจของเราเป็นบางคราวก็ตาม . การระลึกถึงพระคุณแม่นั้น มิใช่เพียงให้เราได้แสดงความรักและความเคารพเท่านั้น แต่เพื่อให้เราตั้งใจน้อมนำสิ่งที่ดีแบบท่าน ซึ่งซ่อนอยู่ในตัวเราด้วยเช่นกัน ทำให้ได้ดั่งท่าน และน้อมนำมาเป็นแบบอย่าง . มิว่าเราเป็นชายหรือหญิง คุณสมบัติและคุณค่าที่ดีในความเป็นแม่ ต่างเป็นเมล็ดพันธุ์ที่มีอยู่ในตัวเราอยู่แล้ว เมื่อใดที่เราเพาะบ่มเมล็ดเหล่านี้และปลูกมันลงบนแผ่นดินของชีวิต เรากำลังทำหน้าที่ลูกด้วยการนำของขวัญที่ดีที่สุดจากแม่ มอบให้แก่ตนเองและผู้คนรอบข้าง . บทความนี้เป็นตอนแรกของหัวข้อ คุณค่าที่เรามีดั่ง “แม่” ผู้อ่านคนใดต้องการแลกเปลี่ยนข้อคิดและความรู้สึกอื่นๆ นอกเหนือจากเนื้อหาดังต่อไปนี้ สามารถแบ่งปันกันได้ตามช่องทางที่เหมาะสม . . 1 เราทุกคนคือผู้ให้กำเนิด ผู้มอบของขวัญแก่โลกใบนี้ : พระคุณของแม่ที่ล้ำค่าที่สุดอย่างหนึ่งคือการมอบโอกาสให้เรามีลมหายใจบนโลก ให้กำเนิดเด็กน้อยคนนี้ย่างก้าวบนผืนแผ่นดินเพื่อมอบดอกไม้นานาคืนแก่ผืนดินเกิดในวันข้างหน้า . ในความเป็นแม่นั้นมีพลังสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ ท่านเป็นเหมือนศิลปินที่วาดตัวเราขึ้นมา ดุจงานศิลป์ที่มีสีสันหลากหลาย ความสร้างสรรค์นี้เองก็มีอยู่ในตัวลูกเช่นกัน… Continue reading 8 คุณค่าที่เรามีดั่ง “แม่” (ตอนแรก)
ฉันกับเขียนข้ามขอบ… บทเรียน #เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๒๒
ฉันกับเขียนข้ามขอบ… บทเรียน #เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๒๒ บทเรียนและบันทึกประสบการณ์การอบรม “เขียนข้ามขอบ” ในหลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๒๒ (workshop สองวัน) โดย ครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ www.dhammaliterary.org
5 ข้อคิด เปลี่ยนความเชื่อ เปลี่ยนชีวิต (ตอนที่สอง)
5 ข้อคิด เปลี่ยนความเชื่อ เปลี่ยนชีวิต #ไม่ต้องเข้าคอร์สหรูก็รู้ได้ (ตอนที่สอง) หนทางไม่เคยมืดมน ยกเว้นเราจะ “ปิดตา” ตนเสียเอง เราทุกคนเกิดมาพร้อมกับเมล็ดพันธุ์หรือศักยภาพที่ไม่จำกัด ยกเว้นเราจะ “ปิดกั้น” ตนไว้ด้วยความเชื่อว่า …ฉันทำไม่ได้… หรือ …ฉันเป็นแค่… . เมื่อเรา “ปิดใจ” ต่อตัวเอง ปีกที่ซ่อนอยู่ในตัวเราก็ไร้โอกาสได้กางออก เราจึงรู้สึกว่าชีวิตไม่มีหนทางเลือกเอาเสียเลย ทั้งที่เราเป็นผู้เลือกหันหลังให้ . เราอาจมีวันสับสน แต่ไม่มีวันอับจน ตราบใดใจไม่ “ปิดประตู” ทางออกไว้ด้วยการคิดและความเชื่อที่เฝ้าย้ำตอกตำชีวิตจนตรอก ทางออกอยู่ที่ใจเราเสมอ อำนาจวิเศษและการอบรมสะกดจิตใดใด เพียงชี้ทางหวนกลับมาที่ใจของเรา . อย่า “ปิดบัง” ตัวเองจากความจริง และสิ่งที่เราทำได้แม้ไม่สมบูรณ์แบบ ด้วยการตัดสินและการคาดคั้น ให้ชีวิตเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างให้เราหายใจและกางปีกของตนออกได้ อยู่อย่างไรจึงมีความหมายโดยไม่ต้องมีเงื่อนไข มิใช่ให้ชีวิตคือพื้นที่ “ปิดฉาก” ลมหายใจด้วยข้อผูกรัดที่เราคล้องหัวใจตนเอง . บทความนี้นำเสนอต่อเนื่องอีกสองข้อสุดท้ายจากตอนที่ผ่านมา เป็นข้อคิดเพื่อการเปลี่ยนความเชื่อและความคิด เพื่อเปลี่ยนชีวิตของเรา ผ่านส่วนหนึ่งของแก่นความรู้การสะกดจิตและพลังแห่งจิตใจ มิว่าคอร์สราคาแพงหรือการอบรมเพื่อการกุศลต่างมีหลักการร่วมอย่างเดียวกัน ผู้อ่านคนใดต้องการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเพิ่มเติมในหัวเรื่องเดียวกันนี้อย่างไรก็สามารถบอกเล่าได้ตามช่องทางที่เหมาะสม . .… Continue reading 5 ข้อคิด เปลี่ยนความเชื่อ เปลี่ยนชีวิต (ตอนที่สอง)
5 ข้อคิด เปลี่ยนความเชื่อ เปลี่ยนชีวิต (ตอนแรก)
5 ข้อคิด เปลี่ยนความเชื่อ เปลี่ยนชีวิต #ไม่ต้องเข้าคอร์สหรูก็รู้ได้ (ตอนแรก) เผยเบื้องหลังคอร์สสะกดจิต อำนาจที่เรามีอยู่แล้วในตนเอง ไม่ว่าเราเข้าอบรมคอร์สถูก คอร์สแพง หรือเรียนด้วยตนเอง หากเข้าใจแก่นหลักอย่างถ่องแท้ เราย่อมไม่ตกอยู่ใต้อำนาจการสะกดจิตจากใคร แม้แต่สิ่งที่แอบซ่อนอยู่ในตัวเองก็ตาม . บ่อยครั้งที่เราใช้ชีวิตอย่างหุ่นชักใย เราไม่มีอิสระและความสุขอย่างแท้จริง ถูกชักพาไปทางโน้นทางนี้ที เดี๋ยวก็เป็นความคาดหวังจากคนอื่น เดี๋ยวก็สิ่งกระตุ้นเย้าแหย่จากสื่อหลายๆ ทาง หรือบางครั้งเราอาจนึกสงสัยว่า เพราะอะไรเราจึงทำสิ่งต่างๆ ไม่ได้เต็มที่ หรือเหตุใดชีวิตถึงต้องมาติดอยู่แบบนี้ เราถูกผูกมัดด้วยหลายสิ่ง โดยเฉพาะข้างในตัวเราเอง . คนต่างต้องการ “อิสรภาพ” และความสุข แต่หัวใจกลับพาทำสิ่งที่ตรงข้าม สร้าง “เงื่อนไข” มากมายให้แก่ตัวเองเพื่อจะมีความสุข แต่ผลยิ่งทำให้เราไกลจากความพอใจในตนเองมากขึ้นทุกที จนกว่าเราจะหันหลับมาดูแล นัก “สะกด” จิตในตัวเอง ที่ “สกัด” กั้นศักยภาพและอำนาจที่มีอยู่แล้ว . อำนาจที่จะมีความสุขและอิสระอยู่ใจเราเสมอ . บทความนี้นำเสนอ 3 ข้อคิดแรกซึ่งเป็นทั้งแง่คิดและวิธีการ ก้าวข้ามพ้นไปจากขอบความเชื่อที่ตนติดอยู่ หากผู้อ่านมีข้อคิดเห็นหรือมีเทคนิคใดเพิ่มเติมจากบทความ สามารถแลกเปลี่ยนได้ตามช่องทางที่เหมาะสม .… Continue reading 5 ข้อคิด เปลี่ยนความเชื่อ เปลี่ยนชีวิต (ตอนแรก)
7 คุณค่าชีวิตดั่ง “ดวงตะวัน” (ตอนที่สอง)
7 คุณค่าชีวิตดั่ง “ดวงตะวัน” (ตอนที่สอง) เราจะเป็นคนที่เปี่ยมด้วย “คุณค่าชีวิต” ตน หรือผู้ที่เป็น “คุณฆ่าชีวิต” ตัวเอง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าได้ครอบครองสิ่งที่เราและคนอื่น “เห็นค่า” มากเพียงใด ในทางกลับกันยิ่งเราถือครองเป็นเจ้าของและเป็นตัวตน ยิ่งสูงยิ่งมากเข้าก็ยิ่งทุกข์เท่านั้น เพราะนั่นทำให้เรา “เป็นข้า” หรือทาสแก่สิ่งเหล่านั้น รวมทั้งแก่กิเลส ซึ่งเปรียบเสมือนรูรั่วของหัวใจ ต่อให้เราประสบความสำเร็จและวิ่งไล่ตามทันดวงดาวของสังคม เราก็ไม่สุขอย่างแท้จริง ยิ่งโหยหายิ่งรู้สึกขาดแคลน แม้จะมีชื่อเสียงในสังคมเพียงใดก็ตาม . การมีคุณค่าในชีวิต เป็นคนละเรื่องกับความสำเร็จ และไม่เกี่ยวข้องกับการมีลาภ ยศ และสรรเสริญ ไม่ว่าทางสังคมหรือทางจิตใจ เหล่านั้นเป็นความพอใจชั่วคราวเท่านั้น คนรวยและผู้มีความสำเร็จสูงส่ง น้อยนักที่มีความสุขและความสงบอย่างแท้จริงในชีวิต แต่มักกลบเกลื่อนความรู้สึกขาดพร่องในตนเอง ด้วยทำสิ่งต่างๆ ที่พาให้คนอื่นอยากคล้อยตาม ซึ่งก็กำลังตามหาสิ่งที่เป็นคุณค่าแท้ของชีวิตด้วยเช่นกัน . เราจะรู้สึกถึงคุณค่าในตนเองอย่างจริงจัง เราต้องกลับมารู้จักตนเองเท่านั้น มิใช่ไขว่คว้าอำนาจวิเศษจากสิ่งอื่นหรือบุคคลอื่นแต่อย่างไร ดั่งการจะเห็นคุณค่าในหนังสือเล่มหนึ่ง เราต้องพลิกอ่านบทแล้วบทเล่า ต้องมองตนให้รอบด้านและหยั่งลึกกว่าผิวเผิน เราจึงจะเข้าใจตัวเองจนนำมาสู่การรักตนอย่างเต็มเปี่ยม ชนิดที่เงินเท่าใดก็ไม่อาจซื้อหาได้ . บทความนี้ เป็นตอนสุดท้ายของหัวเรื่อง คุณค่าชีวิตดั่ง “ดวงตะวัน”… Continue reading 7 คุณค่าชีวิตดั่ง “ดวงตะวัน” (ตอนที่สอง)
7 คุณค่าชีวิตดั่ง “ดวงตะวัน” (ตอนแรก)
7 คุณค่าชีวิตดั่ง “ดวงตะวัน” (ตอนแรก) หลายครั้งที่เราใช้ชีวิตโดยที่ไม่ได้คำนึง “คุณค่า” ของตัวเรา แต่ใช้ชีวิตดั่ง “คุณฆ่า” ตัวเอง ด้วยการใฝ่หวังสิ่งที่บั่นทอน หรือลดเลี้ยวหนทางชีวิตไปยังทิศที่ไม่เหมาะสม ทั้งการเฝ้าเติมเต็มหรือตักตวงใส่ตัวตน แต่ยิ่งเปล่ากลวงมิเห็นค่า เพราะคุณค่ามิใช่สิ่งที่เราได้มาจากภายนอกตัว ทว่าบ่มเพาะก่อเกิดจากข้างใน . จะเห็น “ค่าชีวิต” เราต้องกลับมามองสบตากับตัวเอง ที่ผ่านมาเรามองไปยังสิ่งต่างๆ นอกตัวเกินไป จึงหลายครั้งสิ่งที่ทำไม่ได้ “สอดคล้อง” กับคุณค่าของตนเลย แต่เป็นการ “ผูกรัด” ให้ตัวเองขาดความมั่นคงอย่างแท้จริง กับคุณค่าปลอมและสิ่งฉาบฉวย จน “ฆ่าชีวิต” เราทีละวันละวัน . ต่อไปนี้คือข้อคิดและมุมมอง คุณค่าชีวิตเราที่มีเหมือนดวงตะวัน โดยเป็นสามข้อแรกของบทความ หากผู้อ่านมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติม หรือบทเรียนรู้คุณค่าตัวเองเฉกเช่นดวงตะวันนอกเหนือที่บทความกล่าวถึง ก็สามารถแลกเปลี่ยนและต่อยอดตามช่องทางที่เหมาะสม . . 1 ใครชอบใครชัง แสงตะวันไม่เปลี่ยนแปลง : มิว่าคนอื่นจะรักหรือรังเกียจเรา คุณค่าชีวิตที่เรามีนั้นมิเคยเปลี่ยนแปลง ไม่เคยมากขึ้นหรือลดลงเลย เหมือนการทำหน้าที่ของดวงตะวันทุกๆ วัน ย่อมมีบ้างที่คนเราจะตำหนิ หรือชื่นชมยินดีกับแสงสว่างและความร้อนจากบนฟากฟ้า แต่เสียงจากคนเรานั้นก็ไม่เคยส่งผลให้การทำหน้าที่ของตะวันผันแปร… Continue reading 7 คุณค่าชีวิตดั่ง “ดวงตะวัน” (ตอนแรก)
บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๒๐ (๒)
” สิ่งที่รบกวนใจในแต่ละหัวข้อนั้น มีจุดร่วมกันอยู่เพียงอย่างเดียว คือ ความรู้สึกว่าทำได้ไม่ดีพอ เหมือนที่ครูสรุปมาให้ . เอาเข้าจริง จุดใหญ่ที่รบกวนใจเสมอมา คือการประเมินตัวเองว่า”ด้อย” ไม่มั่นใจในการเริ่มต้นทำ และกลัวกับการถูกตัดสินเมื่องานนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว . การรับทราบและยอมรับความจริงว่า ธรรมชาติของตัวเราเป็นเช่นนี้ จึงหันกลับมาพิจารณตัวเอง ด้วยใจเป็นกลาง ทำให้กลับมารักตัวเองได้มากขึ้น จากที่ละเลยการดูแลจิตใจตัวเองมานาน ยอมให้อภัยในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ เมตตาตัวเอง ปลอบโยนตัวเองในเวลาที่อ่อนแอ อ่อนไหว ไม่กล่าวโทษ หรือจับผิดตัวเองอยู่ตลอดเวลา อย่างเคย . ซึ่ง มันดีค่ะ ครู รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก ก่อนหน้านี้ ใช้ชีวิตเพื่อไปให้ถึงสิ่งที่เรียกว่า ความสมบูรณ์แบบ วันนี้ เข้าใจ และตระหนัก แล้วว่า ความสมบูรณ์แบบในโลกนั้น ไม่มีอยู่จริง . ทุกเรื่องราวต่อจากนี้ จะทำอย่างมีสติ รู้เท่าทัน รู้ตัวทั่วพร้อม ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ทำให้เต็มที่ในเวลานั้น และยอมรับกับผลที่จะเกิดขึ้น . เพราะ เราเป็นเพียงคนตัวเล็ก ๆ ของโลกใบนี้… Continue reading บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๒๐ (๒)
