“รู้สึกประทับใจในกิจกรรมทุกอย่างที่ครูได้จัดประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยได้รับมาก่อนโดยเฉพาะการเขียน ซึ่งมีลักษณะพิเศษที่ดำดิ่งลึกลงไปภายใต้ความรู้สึกลึกๆที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน และไม่มีทางใดที่จะนำขึ้นมาเพื่อเผชิญกับความรู้สึกนั้นๆ กับการเขียนที่ผ่านความรู้สึกอย่างแท้จริงกับตัวเอง โดยไม่ต้องกักขังความรู้สึกใดๆไว้ภายใน ชอบวิธีการเขียนที่ไม่ต้องวางแผน หรือเตรียมตัว เพื่อให้ได้สิ่งที่เกิดขึ้นในจิตขณะนั้น แต่จุดสำคัญคือ การสร้างเวลาที่จะเข้าถึงจุดนิ่งสงบของจิตนั้น ต้องการสิ่งแวดล้อมทั้งภายในตนเอง และภายนอกตนเองที่เหมาะสม เพื่อให้ได้คุณภาพของการเขียนออกมา ซึ่งแต่ละคนมีสิ่งนี้ไม่เท่ากัน ส่วนตัวเองอาจมีน้อยกว่าคนอื่น แต่คิดว่าสิ่งที่ได้รับกับตัวเองนั้นคงไม่น้อยกว่า ดีใจที่มีโอกาสได้รู้จักวิธีการเขียนแบบนี้ ถ้ามีโอกาส ก็อยากจะต่อเนื่อง เพียงเพื่อให้ตัวเองมีสิ่งยึดเหนี่ยว และมีทางออกเมื่อต้องการเขียนถึงสิ่งที่คับข้องใจ หรืออะไรบางอย่าง . “ได้รู้จักว่าตนเองเป็นคนที่มีลักษณะเงียบ ตามบุคลิกภาพที่บอกว่าเป็นคน Introvert หมายถึงไม่แสดงออกออกทางด้ายกายภาพให้ผู้อื่นได้เห็น หรือสังเกตเป็นที่ประจักษ์ และทำให้คนอื่นจดจำได้ง่าย แต่มีการแสดงออกภายใน คือการคิดและแสดงความเห็น เท่ากับ หรือมากกว่าผู้ที่มีบุคลิกตรงกันข้าม เพียงแต่ มีการแสดงออกในกลุ่มคนที่คล้ายกัน เพื่อให้ได้รับการยอมรับในแนวคิดที่คล้ายกันมากกว่า และบางครั้งเป็นคนขาดความมั่นใจในตัวเอง เพราะความคิดเห็นที่แตกต่างจากคนอื่น แต่ก็ยังเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง ทำให้สับสน ว่าจริงๆแล้วตัวเองเป็นคนอย่างไรกันแน่ ขาดความมั่นใจ หรือเชื่อมั่นในตัวเอง . “บทเรียนในห้องเรียน สร้างความเชื่อมโยงทางความคิด การสื่อสารทั้งในรูปแบบ คำพูด และทางกาย ถึงแม้ว่าจะเป็นการแสดงละคร แต่ได้ข้อคิดที่ว่า การต้องการให้คนเข้าใจเรานั้น มีความลำบากมาก ดังนั้น… Continue reading ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๙)
Author: admin
ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๘)
“ประทับใจมากค่ะ ตลอดระยะเวลาการอบรม รู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมากขึ้น โดยปกติมีเขียนบันทึกอยู่บ้างค่ะ ชอบบันทึกเวลาที่ตัวเองมีอารมณ์ผิดปกติ (ทั้งทุกข์และสุข) แต่การเขียนในคอร์สมีหัวข้อ กำหนด ทำให้เราได้ทบทวนอย่างจริงจังถึงด้านใน และค้นลึกเข้าไปข้างในจริงๆที่ปกติเราไม่ค่อยได้เข้าไปสัมผัส เหมือนเราได้กลับเข้าหาตัวเอง ทำความรู้จักกับตัวเองมากขึ้น เข้าใจและสุดท้ายเราก็รักตัวเองมากขึ้นค่ะ . “ได้รู้จักตนเองและยอมรับตัวเองว่ามีความคาดหวังกับตัวเองสูง ติดอยู่ในกรอบของคำว่า ดี ทำอะไรมักคิดแต่ว่าดีพอหรือยัง (ดีพอเมื่อเทียบกับคนอื่นหรือยัง) ชอบเปรียบเทียบกับคนอื่น ตีกรอบว่าคนอื่นต้องเป็นแบบนี้…เอากรอบนั้นมาใช้กับตัวเองด้วย แต่พอเป็นตัวเองก็มักผ่อนปรนกับกรอบ ทำให้รู้สึกไม่พอใจตัวเองว่า ตัวเองไม่ดี มันเหมือนวังวน พอเรามองเห็นตรงนี้เหมือนหาทางออกจากเขาวงกตเจอค่ะ . “ข้อคิดสำคัญที่ได้คือ พอเรามองเห็นวงจรที่เกิดขึ้นทำให้ เข้าใจตัวเอง ยอมรับตัวเอง และขณะเดียวกัน เราก็เข้าใจคนอื่นมากขึ้นด้วย เหมือนกับว่าพอเรารักตัวเองได้ เราก็รักคนอื่นเป็นโดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลเลยค่ะ” . คุณวลัยทิพย์ (เปี๊ยก) อาชีพ เภสัชกรชุมชน . . “รู้สึกประทับใจกับทุกกิจกรรมสนุ๊กมากค่ะกับกิจกรรมครั้งนี้ การอบรมครั้งนี้ตั้งใจเขียนเป็นพิเศษ ใส่ใจรายละเอียดพยายามไม่รีบร้อน ได้ฝึกความใจเย็นและเห็นจิตใจตัวเองละเอียดขึ้นกระวนกระวายใจน้อยลงดื่มด่ำและหลงใหลไปกับทุกกิจกรรมการเขียนและกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น รู้สึกเต็มอิ่มในหัวใจได้ข้อคิดดีๆทุกวัน และผ่อนคลายตัวเองลงหลังจากผ่านกิจกรรมเพื่อนบันทึก . “ตอนแรกหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ไม่ชอบและไม่อยากทำก็เหมือนกับที่ครู ว่าเหมือนเราปฏิเสธบางอย่างเหมือนเราไม่ยอมรับตัวเองเราไม่อยากนึก ถึงมันพอเรารู้แบบนั้นก็ลองย้อนกลับไปดูหลายกิจกรรมที่เราไม่อยาก ทำมันก็จริงอย่างที่อาจารย์บอก… Continue reading ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๘)
ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๗)
“รู้สึกขอบคุณครูที่จัดคอร์สดีๆอย่างนี้ เเละขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจลงสมัครเรียน แต่เดิมรู้สึกไม่ค่อยสนใจอยากลงเรียนคอร์ส เขียนค้นตน นี้นัก เพราะรู้สึกว่าตัวเองรู้จักตัวเองมากพอ รู้ทั้งจุดดีเเละจุดด้อยที่เป็นปัญหาของตัวเอง พอได้เรียนเเละลองลงมือทำจริงๆ จึงได้พบว่า ความจริงยังมีอีกหลายสิ่งที่เราไม่รู้ หรือบางสิ่งถึงเรารู้เเล้ว เเต่เราก็ไม่เคยเข้าใจ เเละรู้สึกยอมรับมันได้จริงๆ การเรียนเขียนค้นตนครั้งนี้ จึงมีส่วนช่วยทำให้ตัวเองได้เรียนรู้ เเละพบกับหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตตัวเอง รู้สึกหลายเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจได้รับการคลี่คลาย รู้สึกเข้าใจเเละยอมรับตัวเองอย่างที่ตัวเองเป็นได้มากขึ้น มันเป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์มาก เเละทำให้เกิดความเปลี่ยนเเปลงหลายอย่างในตัวเอง รู้สึกว่าคอร์สนี้มีประโยชน์มาก เเละทำให้เราเติบโตขึ้นจริงๆ ขอบคุณครูอีกครั้งนะคะ ที่คอยให้คำเเนะนำให้เราก้าวต่อ เเละเติบโตขึ้นเรื่อยๆ . “ได้เห็นคุณค่า เข้าใจ เเละยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นมากขึ้น ได้เห็นว่าที่ผ่านมาที่เราคิดว่าเรารู้เเล้ว เเท้จริงเเล้วเราไม่รู้อะไรเลย ได้พบว่าเเม้ว่าภายนอกจะดูเข้มเเข็งเเต่ภายในเราก็มีความอ่อนไหว เเละเปราะบางมาก เเละก็ไม่ได้ผิดอะไรที่เราจะมีความรู้สึกเเบบนั้น หลังการทำอบรมทำให้กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ หากมีเรื่องใดที่รู้สึกค้างคาใจ หรืออยากเรียนรู้เเละทำความเข้าใจตัวเองมากขึ้นก็จะลองใช้การเขียนเป็นเครื่องมือหนึ่งในการทำงานกับตัวเอง หากมีคนที่มีปัญหามาปรึกษา ก็จะเปิดใจรับฟังผู้อื่น ยอมรับเเละเคารพในสิ่งที่เขาเป็น เเละอาจจะใช้คำถามบางคำถามที่เรียนมาในคอร์สถาม เพื่อให้เขาได้ทบทวนตัวเองอย่างที่ตัวเองได้เคยทำมา” . คุณนาถศิริ (อาร์ต) อาชีพ รับจ้างอิสระ . . “ก่อนอบรมสนใจในชื่อคือ หลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต หัวข้อ เขียนค้นตน… Continue reading ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๗)
ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๖)
“ประทับใจกับเนื้อหาการอบรมที่ทำให้ได้รู้จักตนเองมากขึ้น เกินกว่าความคาดหมาย ก่อนเข้าอบรมก็คิดเพียงแค่ลองเรียนดู แต่สิ่งได้รับผ่านการทำแบบฝึกต่าง ๆ และข้อคิดที่คุณครูตอบกลับมา สามารถเข้าใจทั้งตัวเองและผู้อื่นมากขึ้น จุดสำคัญที่สุดคือสามารถพลิกความคิดจากความขัดแย้งกับแม่ในเกือบจะทุกเรื่อง มาเป็นความเข้าใจ โดยไม่ต้องมาพูดปรับความเข้าใจกัน ประทับใจวิธีการเรียนกึ่งออนไลน์ที่เหมาะสมกับการเรียนรู้เพื่อรู้จักตนเองมาก เพราะมีเวลาได้อยู่กับตัวเอง ได้ใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการเขียนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน เช่นการเขียนไม่หยุดปากกา การเขียนสลับมือ รวมถึงการวาดระบาย ที่สะท้อนให้เราได้เข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้ . “ประทับใจความเอาใจใส่นักเรียนของคุณครู ที่พยามยามให้ทุกคนได้ลงมือทำแบบฝึกหัด ซึ่งช่วงแรกก็ผลัดไปเรื่อย ๆ ยังไม่เริ่มเขียนสักที แต่เมื่อเริ่มได้ ก็ได้ทำแบบฝึกหจรครบตามเกณฑ์ นอกจากนี้ยังประทับใจข้อคิด ความเห็นที่คุณครูตอบกลับมาหลังจากอ่านแบบฝึกหแล้ว ได้ข้อคิดที่ดี น่าสนใจ คิดไม่ถึงมากมาย (ตอนที่ส่งแบบฝึกก็คิดว่าเราคิดได้ครบแล้ว แต่พอคุณครูตอบกลับมาก ก็รู้เพิ่มขึ้นอีก) . “ชอบแทบทุกหัวข้อค่ะ โดยเฉพาะแบบฝึกระดับที่ 2 ที่ให้ผู้เรียนเลือกทำได้ตามความสนใจ เลือกอย่างที่อยากจะเขียนจริง ๆ หัวข้อบันทึกที่ทำให้ได้เข้าใจตัวเราและแม่ คือ คนกวนใจ ทำให้เราก้าวข้ามความคุ้นเคยต่าง ๆ ได้ ไม่เคยเรียนแบบกึ่งออนไลน์มาก่อน ไม่เคยวาดระบายด้วยสีเทียนมามากกว่า 40 ปี ได้ไปร่วมกิจกรรมที่มีการสนทนาโต้ตอบกับเพื่อนใหม่… Continue reading ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๖)
ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสอง (4)
“ได้รู้จักตัวเองจากการปฎิเสธค่ะ ได้รับสัญญาณตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย ยิ่งปฏิเสธยิ่งต้องให้ความสำคัญ เป็นด้านที่เราไม่อยากยอมรับแต่เราเป็น เรื่องนี้นำทุกข์มาให้บ่อยเลยค่ะ การไม่ยอมรับการผลักไส คงต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับกับทั้งตัวเองและคนอื่นๆค่ะ . “กิจกรรมสนุกมากเลยค่ะ เชื่อมโยง เข้าใจง่าย กับคนที่ไม่มีพื้นฐานเลยอย่างเรา ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากเลยค่ะ คงต้องไปทำซ้ำและเรียนรู้อีกเยอะ . “รู้สึกดีที่ได้มาเรียนคอร์สนี้ค่ะ ทั้งครูผู้สอน และเพื่อนร่วมเรียนทำให้บรรยากาศในการเรียนรู้ครั้งนี้สนุก อบอุ่น แบ่งบัน และก็มีเมตตาต่อกัน . “ขอบคุณทุกๆคนมากนะคะ การพบเจอกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ . พิศสมัย (เล็ก) รับจ้าง . . ได้รู้ศักยภาพภายในตนเอง และความเป็นไปได้ที่มากมายของชะตาชีวิตตนเอง . ผมประทับใจกิจกรรมวันแรกที่ให้จับไพ่ Oracle เพื่อบอกจุดเด่น และจุดด้อยของตนเอง เนื่องจากในวินาทีที่ตนเองเปิดไพ่ และคนอื่นเปิดไพ่ทำให้ผมสว่างว๊าบขึ้นมาว่าจริงๆแล้วจุดเด่น และจุดด้อยทุกข้อ ทุกใบของไพ่มีอยู่ในตัวเราทั้งหมด แต่ด้วยความคิดติดยึด ตัวกูของกู ที่เราสร้างขึ้นมาเองทำให้เราสร้างเกราะปิดบังความเป็นไปได้ทั้งหมดที่มีอยู่ในตัวเรา มันมีอยู่เดิมแล้ว มันตั้งอยู่ตรงนั้นตั้งนานแล้ว แต่เรามืดบอดไม่เห็นสิ่งนั้นเอง . ขอขอบคุณครูโอเล่ และครูมุข ผมคิดว่าทั้ง 2… Continue reading ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสอง (4)
ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสอง (3)
“ได้รู้จักตัวเองผ่านไพ่.. ไพ่ พาเราไปเจอปมชีวิต(ภูเขาน้ำแข็งในใจเรา) อย่างน่ามหัศจรรย์ อีกทั้งสะท้อน บอกแนะนำตัวเรา แม้ว่าเราจะยืนยันไม่ยอมรับคำแนะนำ แต่ไพ่ ก็ยังยืนยันคำตอบเดิมซ้ำๆ จนเราต้องเริ่มหันกลับมามอง และทบทวนในสิ่งที่เราปฏิเสธ( ไม่อยากจะเชื่อเลย ถ้าไม่เกิดกับตัวเอง มหัศจรรย์ใจแท้!) . และทำให้เห็นอีกอย่างคือ ไพ่ มันแม่นของมันอยู่แล้ว จักรวาล มันมีคำตอบ มันมีทางออกให้เราเสมอ อยู่ที่เราจะสังเกตเห็นหรือไม่ ไพ่มันเจ๋งมากๆ . “กิจกรรมที่ครูนำมาให้ทำ ล้วนแต่ มีความหมาย และทำให้เราได้ปล่อยวางตัวตน ปล่อยวางความรู้สึกกังวล ทำให้จิตเราให้เข้าถึง บทเรียน และเชื่อมไพ่ กะชีวิตของเราได้เป็นอย่างดี รู้สึกโชคดี ที่ได้มาเรียนคอสนี้ มาเจอ ครูมุก กะ ครูโอเล่ และ เพื่อนๆแสนใจดีในคลาสค่ะ ? . ธนภัทร (กุล) อาชีพ รับจ้าง . . “พาเราไปรู้จักตัวเองในมุมต่างๆทั้งที่เราพอจะนึกได้ และมุมอื่นๆที่เราอาจจะมองข้ามไป ทำให้เราได้ขยายมุมมองต่อตนเอง ได้รู้จักตัวเองในมุมมองที่กว้างขึ้น เห็นจุดเด่น… Continue reading ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสอง (3)
ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสอง (2)
“ทำให้รู้จักตัวเองอย่างไร? รู้จักลักษณะตัวตนบางอย่างที่ที่เรารู้แต่บ่ายเบี่ยงที่จะยอมรับ แต่พอไพ่มาย้ำเตือนอีกที่ ก็คงต้องยอมรับแล้ว และมีส่วนที่บอกถึงตัวตนที่เราไม่เคยรู้มาก่อนค่ะ สิ่งที่ไพ่บอก ช่วยฝึกให้เรารู้จักคิดวิเคราะห์ เป็นการทบทวน สถานการณ์ ที่กำลังดำเนินอยู่ และปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่อีกครั้ง ไพ่อาจจะชี้แนะ ประเด็นที่เรามองข้าม และสุดท้ายเราเองเท่านั้นที่จะเป็นคนตัดสินใจค่ะ . “เมื่อไพ่ฝึกให้เรา เข้าใจตัวเราเอง และ เราจะเข้าใจคนอื่นด้วย เราก็จะเข้าใจพฤติกรรมของเค้า และเราจะไม่โกรธเกลียดใคร เพราะ ในบางขณะเราก็อาจมีพฤติกรรมแบบเดียวกันเขา ถ้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน . “สุดท้าย ขอบคุณคุณครูทั้งสองและเพื่อนทุกคนที่มีไมรตรีให้ต่อกัน เหมือนคนที่คุ้นเคย ทั้งๆเพิ่งได้มารู้จักกันค่ะ เพื่อนๆทุกคนก็เป็นครูสำหรับพี่นะคะ เพราะเป็นกระจกที่ย้อนให้กลับมาดูตัวเองค่ะ ขอบคุณมากๆ” . จันทร์พิมพ์ (เก๋) แม่บ้าน . . “ช่วยให้รู้จิตรู้ใจตัวเองมากขึ้น ได้ทบทวนเรื่องราวชีวิตในแต่ละช่วง ตัวตนที่ออกมาเล่นบทบาทในสถานการณ์นั้นๆ ทุกสิ่งดีงามตามที่มันเป็นอยู่แล้ว อะไรที่เคยติดก็กลับไปทบทวนทำความเข้าใจ วางไว้ แล้วไปต่อ พอเริ่มคุ้นกับไพ่ อ่านตัวเองออกก็เริ่มจะอ่านคนอื่นได้ด้วย มนุษย์เราเหมือนจะต่าง กัน จริงๆก็ไม่ต่างกันในหลากหลายเรื่องราว เข้าใจตัวเองได้ก็เข้าใจคนอื่นได้ … ไพ่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนๆหนึ่ง เป็นเพื่อนพูดคุยปรึกษาได้… Continue reading ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสอง (2)
ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสอง (1)
“นอกเหนือจากการชี้ให้เห็นตัวตนของเราที่เรารู้เราเห็นอยู่แล้ว ยังบอกถึงสิ่งที่เราปฏิเสธ หรือสิ่งที่คิดว่าไม่มีอยู่ในตัวเราหรอก บางครั้งมันก็อยู่ในเรานี่แหละ นอกจากนี้ ไพ่ยังมีคำชี้แนะที่ดีให้กับเราด้วย เหมือนเราได้คุยกับเพื่อนที่เข้าใจเรามากที่สุด และกล้าวิจารณ์เราอย่างตรงไปตรงมา . “การอบรมเป็นการถ่ายทอดความรู้ที่เรียบง่าย ไม่เน้นการบอกทฤษฏี แต่ให้หลักหรือแก่นของการอ่านไพ่จริงๆ ตวามเข้าใจที่เป็นพื้นฐานทำให้เรียนรู้ได้เร็วขึ้น เมื่อกลับไปอิงกับตำราก็เข้าใจมากขึ้น รู้วิธีการอ่านแบบเข้าใจไพ่ (แม้บางครั้งจะเป็นการเข้าใจผิดก็เถอะ) ไว้ใจในความรู้สึกตัวเอง ชอบกระบวนการสอนที่ลื่นไหล ต่อเนื่อง เป็นธรรมชาติมากๆ มีความตื่นเต้นเมื่อได้ลองทายจริงๆ และได้รับความมุมมองที่นอกเหนือจากการอ่านไพ่จาก แขกรับเชิญ เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ สัมผัสได้ถึงความตั้งใจในการถ่ายทอดความรู้ของครูทั้งสองคนค่ะ . “เพื่อนๆ ทั้งหมดก็ทำให้เกิดความรู้สึกสบายๆ เป็นกันเอง มีความน่ารักตามแบบฉบับตนเอง ทำให้การเรียนสนุกขึ้น และยังเห็นการอ่านไพ่ของแต่ละคนที่แตกต่างกัน เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนอีกด้วย . “อยากให้ครูเปิดคอร์สต่อเนื่องจากคอร์สนี้ค่ะ อาจเป็นการฝึกฝนหรือทบทวน หรือชี้แนะเพิ่มเติมจากที่เรียนไปแล้ว โดยผสมผสานกับการเรียนออนไลน์ค่ะ อาจเป็นแบบกึ่งออนไลน์ค่ะ . “ขอบคุณครูทั้งสองคนอีกครั้งนะคะ” . นันทวรรณ (นก) พนักงานบริษัท . . “ทำให้เรายอมรับตัวเอง เป็นผู้เตือน ชี้ช่องทาง แสดงจริงที่เป็นอยู่จริงเชื่อมโยงกับความคิดภายใจ . “ชอบกิจกรรมที่ใช้ ไม่น่าเบื่อ… Continue reading ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสอง (1)
๔ สิ่งที่ความป่วยกายสอนหัวใจ (ตอนสอง)
๔ สิ่งที่ความป่วยกายสอนหัวใจ (ตอนสอง) ความจริงที่เจ็บปวด คือสิ่งที่เราควรรับฟังให้มากที่สุด ยิ่งกว่าความจริงอันหอมหวาน เวลาหัวใจเราซับซ้อนเกินไปจนก่อทุกข์แก่ตนเองหรือใครๆ ร่างกายจะยังคงตรงไปตรงมา เฝ้าส่งสัญญาณเตือนใจ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนมิตรที่ซื่อสัตย์และซื่อตรง คอยบอกคำจริงที่ไม่หวาน แม้หัวใจไม่อยากรับฟัง รวนเรเพราะความอยากและอารมณ์นานา . บทความนี้ยังคงต่อเนื่องจากตอนที่แล้ว เพิ่มเติมอีกสองหัวข้อ สำหรับบทเรียนหรือสิ่งสำคัญที่ความเจ็บไข้ได้ป่วยทางร่างกายสอนแก่หัวใจเรา . ๓ ไม่มีความเป็นตัวตนให้ยึดถือไว้ : แม้ใจเราหวังให้สิ่งต่างๆ คงอยู่ตราบนานเท่านาน หรือคิดไปเองว่าสิ่งทั้งหลายที่รักและหวงแหนจะอยู่กับเราเช่นนั้นชั่วนิรันดร์ แต่ย้อนมามองร่างกายของตัวเอง เราก็มิอาจทำให้เป็นเช่นนั้นได้เลย โรคและความป่วยไข้มักมาเยือนในเวลาที่ไม่อยากให้เกิด อวัยวะ ผิวหนัง และกล้ามเนื้อย่อมต้องหย่อนยานและเสื่อมลง แม้เราสะกดจิตตนเองมากเท่าใดก็ตาม หรือพยายามรักษาความงามและเฝ้าดูแลสิ่งที่ยึดถือไว้อย่างไร ร่างกายและแม้ตัวตนก็ต้องแปรเปลี่ยน . ด้วยความกลัวในหัวใจ คนเรามักพยายามยึดให้ทุกสิ่งคงอยู่ ทำทุกอย่างแม้อย่างน้อยแค่ได้รู้ว่าสิ่งที่รักและหวงแหนนั้นจะยังคงเป็นเช่นที่อยากให้เป็น แต่ร่างกายก็พยายามสอนธรรมอยู่อย่างนั้นให้เรารับฟัง ไม่มีสิ่งใดคงที่และเที่ยงแท้ แม้แต่หัวใจเราเองก็ตาม แต่คนเรามักไม่ค่อยได้ฟัง พยายามใช้ชีวิตและร่างกายอย่างเกินธรรมชาติเพื่อคว้ามาซึ่งสิ่งที่อยากได้และอยากเป็น จนกระทั่งวันหนึ่งความป่วยเท่าทวี เตือนเราหนัก สิ่งที่คว้ามาก็ต้องปล่อยลงแม้ใจไม่อยากก็ตาม . คนสวนไม่อาจห้ามต้นไม้มิให้ชราและตายจาก มิอาจห้ามออกผลหรือทิ้งดอกใบ แต่ทำได้ดีที่สุดที่จะบำรุงรักษาตามปัจจัย แล้วชื่นชมคุณค่าทั้งในยามงอกงามและโรยรา . คนสวนเรียนรู้ธรรมจากต้นไม้ที่ตัวเองปลูก… Continue reading ๔ สิ่งที่ความป่วยกายสอนหัวใจ (ตอนสอง)
๔ สิ่งที่ความป่วยกายสอนหัวใจ (ตอนแรก)
๔ สิ่งที่ความป่วยกายสอนหัวใจ (ตอนแรก) เวลาที่เราเจ็บป่วย นั่นเป็นโอกาสที่ดีที่ตนจะได้เรียนรู้ธรรมะและความจริงจากร่างกายเรานี้เอง ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตล้วนมีความหมาย ดังนั้นแล้วโรคและความป่วยไข้ต่างเป็นแขกมาเยือนแก่เรา เพื่อมอบความตระหนักรู้ที่ล้ำค่าแก่ชีวิต ชนิดที่เราเองก็อาจหลงลืมหรือละเลยไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา . หากเราเข้าใจและฝึกใจน้อมรับสารเหล่านี้ การมีชีวิตอย่างสุขสงบและอิสระ ท่ามกลางความไม่เที่ยงแท้ต่างๆ ของโลก ก็ไม่ไกลเกินเอื้อม การป่วยไข้ในแต่ละครั้งก็จะมิใช่เพียงสิ่งที่เราพยายามหนีให้พ้น แต่เป็นการเข้าห้องสอบของชีวิต เพื่อผลปลายทางสุดท้ายคือการหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง . . ๑ คุณค่าชีวิตยังมีอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่เพียงสิ่งที่ใฝ่หา : เราหลายคนพยายามทำงานวันแล้ววันเล่าเพื่อคุณค่าของชีวิตที่เป้าหมาย เช่น ความสำเร็จ การยอมรับจากคนรอบข้าง ทรัพย์สินเงินทอง สถานะทางสังคม การเป็นผู้ให้ หรือได้ค้นพบศักยภาพในตนเอง เราอาจมีความสุขเมื่อไปถึงเป้าหมาย หรือสุขที่ได้สัมผัสใกล้เป้าหมายมากขึ้นตามลำดับ แต่ท้ายที่สุดความทุกข์ในร่างกายก็จะฉุดชวนเรากลับมาทบทวน ไม่วันใดก็วันหนึ่งว่า ชีวิตสำคัญน้อยกว่าความสำเร็จหรือสิ่งที่หวังนั้นใช่หรือไม่ หากเราไม่มีชีวิต เป้าหมายหรือสิ่งที่หวังนั้นยังมีประโยชน์อยู่หรือไม่ . ความสุขและความพอใจที่ฉวยคว้ามาได้ จะเหลืออยู่จีรังเพียงใด เมื่อชีวิตกำลังหมดลมหายใจหรือร่างกายไม่อาจมีสมบูรณ์ครบเหมือนเดิม . เมื่อใดที่ตาชั่งคุณค่าของชีวิตเอนเอียงไปทางใดมากเกินไป เมื่อนั้นย่อมเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์และปัญหาทางสุขภาพกายกับใจติดตามมา . สำหรับบางคนแล้วคุณค่าชีวิตอยู่ที่การดูแลใส่ใจผู้อื่น จนวันหนึ่งไม่แก้ไขปัญหาของชีวิตตนเองได้เลย ขณะเที่ยวแก้ปัญหาให้ใครอื่น หรือแบกรับความคาดหวังจากใครๆ จนหัวใจอ่อนล้าและหลงลืมว่า… Continue reading ๔ สิ่งที่ความป่วยกายสอนหัวใจ (ตอนแรก)
