บทเรียนและความประทับใจ “เด็กน้อยภายใน” ประจำปี 2560 (6)

  “รู้สึกประทับใจในเนื้อหาของการเรียนรู้ตนเองในการอบรมค่ะ แม้แรกเริ่มจะไม่มั่นใจและยากลำบากซักเล็กน้อย แต่พอได้ลองทำไปแล้วกลับได้แง่คิดจากบทเรียนหลายเรื่อง ทั้งการสังเกตุตัวเองที่เกิดขึ้น ก็เกิดขึ้นมาจากการผลักดันของเนื้อหา ทำให้หลายเรื่องที่สำคัญแต่ไม่เคยมองเห็น กลับเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอย่างชัดเจน และหลังจากทำบทต่างๆไปแล้วทีละบทๆนั้น เห็นได้ชัดว่าเกิดประโยชน์กับตัวเอง ในการมีสติ คอยสังเกตุการณ์พฤติกรรม ความรู้สึกในชีวิตในปัจจุบัน และมองถึงเหตุและผล รู้สึกโอบอ้อมอารีย์กับตนเองในปัจจุบัน รวมถึงมีความรู้สึกดีๆกับเด็กน้อยที่อยู่ภายในด้วยเช่นกันค่ะ . “มีผลทำให้เกิดการตระหนักรู้ เข้าใจพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในปัจจุบันว่า มีสาเหตุมาจากความไม่เข้าใจ การไม่ถูกรับฟัง และเหตุผลที่มีไม่เพียงพอในอดีต ทำให้เมื่อพฤติกรรมรวมถึงความคิดที่เคยชินเกิดขึ้นอีกครั้ง เกิดสติ มีกระบวนการคิดคอยสนับสนุน สามารถบอกตัวเองได้ว่าสุดท้ายผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร และสามารถยับยั้งความเคยชินที่ไม่ดีได้ และมีผลทำให้การยึดติดในความหวาดกลัวสิ่งต่างๆเบาบางลง สามารถขยายขอบเขตในการทำสิ่งที่ไม่เคยทำได้มากขึ้นค่ะ” . คุณกัญญาวีร์ (วีร์) อาชีพ นักออกแบบ . . “ชอบที่สุดคือ หัวข้อ ผู้คุ้มครอง แลัวก็ นิทานหัวใจ และ เด็กน้อยที่หัวเสีย มันช่วยให้เราเห็นความเป็นตัวเองมากขึ้น หัดยอมรับในตัวตนที่แย่ๆ และค่อยระงับ รู้เท่าทัน อารมณ์ ความรู้สึก ที่จะก่อให้สิ่งต่างๆตามมา เรารู้สึกหนักแน่นมากขึ้นว่า ปม ของเรานั้นคือสิ่งใด และเมื่อทราบอย่างงั้นแล้ว เราก็จะได้เรียนรู้… Continue reading บทเรียนและความประทับใจ “เด็กน้อยภายใน” ประจำปี 2560 (6)

7 วิธีดูแลด้านลบในตัวเอง (ตอนแรก)

1 ยอมรับตัวเอง แต่ไม่จมปลัก : เราจะแก้ปัญหาใดได้ เราต้องมองให้เห็นปัญหาและสาเหตุของปัญหานั้นก่อน ก้าวแรกที่สำคัญของการแก้ไขพฤติกรรมและสิ่งลบในตัวเอง จึงเป็นการยอมรับสิ่งนั้นอย่างเต็มที่และเต็มใจ เริ่มจากการพิจารณาถึงผลเสียที่เคยเกิดขึ้นต่อตนและคนอื่น ใคร่ครวญด้วยหัวใจ ยอมรับความผิดพลาดที่ผ่านมา รักตัวเองให้มากพอที่จะพัฒนาตนและแก้ไขข้อบกพร่องที่ทำให้เราและคนรอบข้างเป็นทุกข์ . ความกล้าหาญที่แท้จริงอยู่ในหัวใจเราทุกคน เมื่อยืดอกเผชิญหน้าปัญหาที่เกิดขึ้นจากตน ไม่พยายามหลีกเลี่ยง เบี่ยงเบน หรือผลักไสโทษคนอื่น เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นจากตัวเราเอง หากแก้ไขอย่างขาดการยอมรับแล้ว ย่อมแก้ไม่ถูกจุด เพราะอาจพยายามโทษคนอื่นและสิ่งนอกตัว แต่ละเลยพฤติกรรมเดิมๆ ซึ่งพาให้เกิดปัญหาแบบที่เคยเกิดขึ้น . การมองโลกแง่ดีและคิดบวกต่อตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ แต่หากขาดการยอมรับด้านลบแล้ว เท่ากับยังเป็นการหลอกตัวเองและกลบเกลื่อนปัญหาไว้ ยอมรับตัวเอง หมายถึงเข้าใจตัวเองรอบด้าน ตามความป็นจริง ทั้งดีร้ายและความเคยชิน ส่งผลดีและเสียอย่างไร ไม่เฉพาะด้านที่อยากมอง . การยอมรับคือแลเห็นแต่ไม่ตอกย้ำ ยอมรับแต่ไม่ซ้ำเติมตัวเองจนเราไม่ยอมเปลี่ยนแปลง เพราะการยอมรับไม่ใช่การจมปลัก เพียงต้อง “เห็นโทษ” จากสิ่งที่ทำอย่างเข้าใจ แต่ไม่ใช่ “เฝ้าโทษ” ตัวเอง แม้รู้ว่าเรามีเสียอย่างไร มีด้านลบแบบไหน แต่หากเราเอาแต่ย้ำคิดว่า เพราะฉันเป็นคนเช่นนี้ เช่นนี้ จะยิ่งมีแต่ส่งเสริมให้เรายึดติดด้านลบนั้นเป็นตัวตน เป็นของตน ทั้งที่เรามีหลากหลายด้านในตัวเอง . ยอมรับคือแลเห็นและน้อมนำมาพิจารณาปรับปรุง เพื่อระวังไม่ให้กาย… Continue reading 7 วิธีดูแลด้านลบในตัวเอง (ตอนแรก)

อย่าถือปัญหาเป็นปัญหา

    ปัญหาไม่ได้มีไว้แก้ไขเสมอไป บางเรื่องราวเพียงผ่านพบให้เรียนรู้ บางเลวร้ายเพื่อหล่อหลอมหัวใจกล้า ปัญหาบางคราวเกิดขึ้นเพื่อยอมรับ . ความทุกข์อาจเป็นศัตรูของบางใคร แต่เป็นครูของใจที่อ่อนน้อม อย่าถือปัญหาเป็นปัญหา เราไม่จำเป็นต้องสู้กับอุปสรรคเสมอไป . อย่าถือปัญหาเป็นของฉัน อย่าถือปัญหาเป็นตัวตนฉัน ชีวิตเป็นดั่งท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ปัญหาคือคลื่นโยนครืนเคลื่อนคล้อย เราเพียงผู้แหวนว่ายเพื่อผ่านพบ . คลื่นอุปสรรคมิได้หมายทำให้ทุกข์ เธอเพียงหลงลืมธรรมชาติของท้องทะเล ปัญหาเป็นปัญหา เมื่อเธอถือให้เป็นเช่นที่คิด ขณะเด็กน้อยมีความสุขริมหาด มิได้พยายามแก้ไขสิ่งใด . . มองให้ดี ให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้น… นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นตัวเรา นั่นไม่ใช่ตัวตน . . อนุรักษ์ ครูโอเล่ ๒๔ เมษายน ๒๕๖๑ คอลัมน์ “บทภาวนา อนัตตา” ตอนที่ ๕ www.dhammaliterary.org  

รวมบทเรียน “เขียนข้ามขอบ” เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ 29

    รายชื่อผู้จบการอบรม “เขียนข้ามขอบ” ในชุดหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ 29 จำนวน 35 คน โดยมีจำนวนส่งการบ้านมากกว่า 514 บันทึก . “เป็นการอบรมที่ค่อยๆทำให้เราฟังเสียงความรู้สึกของตัวเอง ได้สัมผัสความคิดตัวเอง ได้เข้าใจตัวเองได้ชัดเจนขึ้น หลังอบรม ครูเอาใจใส่ ให้แนวทางที่ดี ในการแนะนำ ให้กำลังใจ รู้สึกได้พบครูที่ดีมากๆ ชี้แนะให้เรามีทางที่ดี และทำให้เราได้เรียนรู้ตัวเองจนก้าวข้ามขอบข้อจำกัดในตัวเราได้ ชอบหัวข้อ มองสิ่งเกินจำเป็นในชีวิตดั่งศิลปิน . “การมีขอบทำให้เราเกิดการจำกัดตัวเองในการที่จะทำอะไรสักอย่าง ถ้าเราก้าวข้ามขอบที่เป็นข้อจำกัดของเราได้ เราจะสามารถทำอะไร และมองอะไรได้กว้างออกไปมากโดยปราศจากเงื่อนไข ทุกอย่างเราเรียนรู้ได้ การมีครูที่ชี้แนะที่ดีช่วยให้เราได้พัฒนาตัวเองได้เร็ว การมีกำลังใจที่จะทำอะไรต่างๆ เริ่มที่ตัวเรา ถ้าเราเริ่ม เราต้องกล้าที่จะออกจากขอบตัวเองและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ด้วยใจที่เปิดกว้าง” . เสาวลักษณ์ (เฟิน) อาชีพ อิสระ . . “รู้สึกประทับใจมากๆ กับการอบรม “เขียนข้ามขอบ” ในครั้งนี้ ขอบ คืออะไร แล้วเราจะข้ามได้อย่างไร เป็นความรู้สึกแรก… Continue reading รวมบทเรียน “เขียนข้ามขอบ” เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ 29

๓ ประโยชน์ ฝึก “กราบ” กำราบใจ

  ๓ ประโยชน์ ฝึก “กราบ” กำราบใจ   บทความนี้ขอนำเสนอความหมายและคุณค่าของจริยาหนึ่งในวัฒนธรรมไทยและสังคมพุทธศาสนา คือการ “กราบ” เราไม่เพียงกราบเพื่อเคารพสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อยำเกรงหรือสร้างอภินิหาร เพราะจริยาและมารยาทของสังคมไทยมักมีธรรมะอยู่เบื้องหลัง ไม่ใช่เป็นกรอบธรรมเนียม “บังคับ” แต่เป็นหลัก “กำกับ” กายใจให้อยู่บนทางของความดี ความงาม และความจริง “กำราบ” ใจต้านทานกระแสของกิเลสและสิ่งมัวหมองทั้งหลาย . เรากล่าวได้ว่าการดำรงอยู่ใน จริยธรรม ทั้งการประพฤติปฏิบัติทั้งหลาย ด้วยกาย วาจา และใจ ซึ่งมีหลักมารยาทและการประพฤติที่เหมาะสม เป็นดั่งการปฏิบัติธรรมระหว่างการใช้ชีวิต เพื่อสกัดกั้นกายใจมิให้มีโอกาสก่อทุกข์แก่ตนเองและผู้อื่นในสังคม เป็นศีลครองตน และเป็นการภาวนาเพื่อขัดเกลาใจจากกิเลส . ทั้งนี้ในบทความได้ยกประโยชน์การ “กราบ” ในฐานะการฝึกจิตใจในชีวิตประจำวัน เป็นสามข้อ ดังนี้ . . ๑ ลดความทุกข์จากการถือมั่นอัตตาตน : การกราบนั้นเป็นมากกว่าการไหว้ เพราะเราไม่เพียงแสดงความเคารพด้วยค้อมศีรษะลงเท่านั้น แต่ยังน้อมทั้งตัวลงกับพื้นที่ต่ำกว่าตนและคล้อยต่ำลงกว่าอีกฝ่าย เป็นการค้อมกายเพื่อฝึกน้อมใจค้อมลงต่ำ ดัดจิตผ่านจริยวัตรเป็นอุบาย . จิตคนนั้นมีแนวโน้มจะใฝ่มองสิ่งสูงกว่าตนและใฝ่หาสิ่งวิเศษอันเลอค่า แล้วเป็นทุกข์เพราะลืมความเป็นธรรมชาติธรรมดาอันเป็นจริง ที่อยู่กับดินและเรียบง่าย ต้องเที่ยวมองขวนขวายไขว่คว้ามายาทั้งหลายมา จนเดือดร้อนเป็นทุกข์เพราะมิอาจรู้สึกพอใจในชีวิตอย่างแท้จริง… Continue reading ๓ ประโยชน์ ฝึก “กราบ” กำราบใจ

ความประทับใจการอบรม เขียนเยียวยา รุ่นที่ ๒๖ (๘)

    “การอบรมเขียนเยียวยากึ่งออนไลน์ในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ตั้งใจสมัครเรียน และอยากเรียนมาก กลัวว่าจะไม่ได้ตอบรับให้เรียน พอเริ่มเรียนช่วงแรกๆ ก็รู้สึกบีบคั้นเรื่องเวลา เพราะแต่ละบทต้องใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง ซึ่งเราไม่เคยให้เวลากับตัวเองในเรื่องแบบนี้ แต่ก็สนุกและประทับใจในวิธีการเรียนการสอน ที่ทำให้เข้าใจเรื่องความรู้สึกนึกคิดของตัวเราเองมากขึ้นในหลายๆแง่มุมที่คิดไม่ถึง มองข้ามไป หรือลืมเลือนไป..ได้ข้อคิดบทเรียนที่สกัดออกมาจากเรื่องราวของเราเอง..ที่ประทับใจมากๆคือ มีอิสระที่จะคิดจะเขียนอะไรก็ได้แม้แต่สิ่งที่เป็นความลับที่สุด เพราะไม่ต้องส่งที่บันทึกให้ครูอ่าน..แต่ครูกลับให้คำแนะนำดีๆเพิ่มเติมให้ ให้ปรับให้ลองบันทึกซ้ำฯลฯ . “ในการอบรมฯนี้ทำให้ดิฉันปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ความคิด ความรู้สึกในหลายๆเรื่อง เช่น ตั้งใจดูแลตัวเองมากขึ้น ทั้งเรื่องร่างกายและจิตใจ เพราะมองเห็นถึงความสัมพันธ์ของร่างกายและจิตใจที่สัมพันธ์กันหมด ส่งผลต่อกันหมดทุกส่วน จึงตั้งใจจะรักษาสมดุลของจิตใจของร่างกาย ด้วยการมีวินัยกับตัวเอง ในการดูแลตัวเอง การออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร การพักผ่อน..ดิฉันรู้สึกเข้าใจตัวเองมากขึ้น และจะไม่นำเรื่องราวความเจ็บปวดในอดีตมาทำร้ายจิตใจตัวเองอีก . “ความสุขความทุกข์อยู่ที่เราคิด..คิดว่าสุขก็สุขคิดว่าทุกข์ก็..ทุกข์ การเขียนบันทึกเป็นการทบทวนตัวเอง..ทำให้ได้บทเรียนได้ข้อคิดมาใช้เพื่อปรับปรุงเพื่อพัฒนาตัวเราเอง” . คุณอัญชลี(อัญ) อาชีพ รับราชการ . . “บาดแผลหรือรอยร้าวในจิตใจมันคลายลงไปได้จริงๆค่ะ แค่จรดปากกาแล้วระบายความคิดออกไปในแบบที่ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น มันเป็นเหมือนการล้างๆๆๆ ขัดๆถูๆ ถึงแม้ว่าการกลับมาอ่านสิ่งที่เขียนซ้ำๆมันรู้สึกว่า เราเข้าใจตัวเองอยู่คนเดียว ก็อดอมยิ้มให้กับความบ้าคลั่งของตัวเองไม่ได้เลยจริงๆ . “รู้สึกว่าความเชื่อมั่นในตัวเองคือพลังที่ยิ่งใหญ่ ที่จะนำพาเราไปสู่เป้าหมายในชีวิตที่ตั้งใจไว้ รู้สึกว่าเรารักตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมมากๆ รักที่จะพัฒนาตนเองตลอดเวลา รักที่จะหาโอกาสให้ตัวเองได้รับสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตเสมอ… Continue reading ความประทับใจการอบรม เขียนเยียวยา รุ่นที่ ๒๖ (๘)

ความประทับใจการอบรม เขียนเยียวยา รุ่นที่ ๒๖ (๗)

    “ดีใจที่ได้เข้าร่วมการอบรมครั้งนี้ เป็นการอบรมเพื่อการพัฒนาภายในตัวเองในรูปแบบใหม่(กึ่งออนไลน์) รู้สึกประหลาดใจที่ได้รู้จักตัวเองมากขึ้นในมุมที่บางครั้งตัวเองก็นึกไม่ถึง ได้เรียนรู้เปิดมุมมองทางความคิด ทบทวนประสบการณ์ในอดีต ได้บทเรียน และแรงบันดาลใจบางอย่างเกิดขึ้น แต่อย่างไร ยังรู้สึกเสียดายที่ไม่สามารถเรียนรู้แบบฝึกหัดตามที่ครูให้ตามเป้าที่ตัวเองหวังไว้ ด้วยข้อจำกัดเรื่องเวลา ยังอยากที่จะเรียนต่ออีกค่ะ . “ชอบหัวข้อจดหมายร่างกาย สนทนากับอุปสรรค และชอบเนื้อหาความรู้เพิ่มเติมที่อาจารย์แทรกมาให้ รวมถึงคำแนะนำดีๆจากครูที่สะท้อนให้เรารับทราบว่า ครูได้อ่านสิ่งที่เราเขียน และพยายามทำความเข้าใจและแนะนำในสิ่งที่จะช่วยเต็มเติมการเรียนรู้ให้เรามากขึ้น รวมถึงกำลังด้วยถ้อยคำดีๆที่อ่านแล้วรู้สึกมีพลัง การอบรมทำให้ได้กลับมาดูแลร่างกายของเราเอง ดูแลความรู้สึกของคนที่เรารัก คนที่รักเรา อยากมอบคำขอบคุณและดอกไม้ให้แก่ร่างกายตัวเอง ได้เยียวจิตใจของตัวเองจากการทบทวนสิ่งต่างๆเหตุการณ์ที่ผ่านมาในชีวิต ทั้งที่เรารู้สึกดี และไม่ดี ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้ได้เรียนรู้และเติบโตขึ้นต่อไป . “เราควรได้สื่อสารกับตัวเอง สื่อสารกับหัวใจของตัวเองมากขึ้น การได้ทบทวนตัวเอง แบบที่ไม่ต้องใช้เหตุผลมากมายมาประกอบ แต่ระบายในสิ่งที่เราคิด และรู้สึก ณ ขณะนั้น ทำให้เท่าทันในความคิดและจิตสำนึก อุปสรรคบางอย่างในชีวิตเป็นเรื่องที่เราพยายามเลี่ยงทำเป็นไม่สนใจ หรือบางทีก็คิดมากมายจะทำให้ร่างกายล้า แต่ความจริงแล้ว เราสามารถสื่อสารทำความเข้าใจกับอุปสรรคนี้ได้ ฟังหัวใจมากขึ้นในมุมที่เราไม่เคยมอง เหมือนการให้มือซ้ายที่เราไม่ถนัดเขียนโต้ตอบกับตัวเราเอง” . คุณแพรว อาชีพ พนักงานรัฐ . . “เป็นการอบรมที่เปิดประตูและมอบความกล้าให้กลับไปพูดคุยกับตัวเองได้อีกครั้ง คำสั่งที่เป็นโจทย์ของแต่ละบันทึกให้กุญแจที่จะสื่อสารกับตัวเองในรูปแบบต่างๆ อย่างสร้างสรรค์และหลากหลาย ประทับใจที่ได้รับการแนะนำจากครูอย่างใส่ใจ… Continue reading ความประทับใจการอบรม เขียนเยียวยา รุ่นที่ ๒๖ (๗)

ความประทับใจการอบรม เขียนเยียวยา รุ่นที่ ๒๖ (๖)

  “ชอบในทุกหัวข้อที่เขียน ทุกหัวข้อล้วนนำพาเราไปพบสิ่งมหัศจรรย์ของตัวเราเอง ถือเป็น “ของขวัญหลากสีสัน” ทั้งสิ้น และเมื่อเราได้เปิดเข้าไปสัมผัส ก็จะให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกัน หากเปรียบเป็นอาหารก็มีหลายเมนูให้เลือก และให้รสชาติไม่เหมือนกัน อยู่ที่เราเข้าไปลิ้มลอง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็สร้างเส้นใยให้สมองและหัวใจได้รับการเยียวยา หล่อเลี้ยงให้เติบโตได้ต่อไป . “อยากขอบคุณชีวิตที่ได้ให้โอกาสมาพบสถาบันฯ นี้และเข้าอบรมถึง 2 ครั้ง และครั้งนี้พยายามจัดสรรเวลาให้มากขึ้น เพราะรู้ว่า การเขียนเป็นการเยียวยาภายในตัวเราได้ดีวิธีหนึ่ง โดยที่เราจะได้สนทนากับตัวเราอย่างแท้จริง ได้ทำความรู้จักและเข้าใจตัวเรามากขึ้น มันเยี่ยมมาก ประทับใจคุณครูผู้ให้วิชา ทำให้เราได้มีโอกาสเรียนรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้มาก่อน ได้หันกลับมาโลกภายในตัวเรา แม้จะไม่เคยรู้จักกับคุณครูมาก่อน แต่ครูที่มีความเป็นครูด้วยหัวใจที่จริงแท้ ย่อมสร้างความประทับใจแก่ศิษย์เสมอ ที่ทำให้ศิษย์ได้รู้จักตนเองและก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคงขึ้น ในการดูแลและให้คำแนะนำ ชี้แนะในแต่ย่างก้าวต่อไป . “จากการอบรมเราได้กลับมาดูแลตนเอง คือ ความเมตตาที่มีให้กับตัวเรามากขึ้น มีความเข้าใจและ เห็นคุณค่าของตัวเราเอง รู้สึกรักและเคารพตนเองในความอดทนและความกล้าหาญที่ได้เผชิญสิ่งต่างๆที่ผ่านมาได้อย่างดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ณ เวลานั้น แต่หลังจากติดอาวุธทางปัญญาในการอบรมครั้งนี้ไปแล้ว บาดแผลต่างๆ ได้รับการเยียวยา เกิดความสดใหม่ในหัวใจคิดว่าจะได้นำความรู้ที่ได้รับไปเป็นประโยชน์ต่อตนเองและโลกใบนี้ได้มากขึ้น หวังไว้เช่นนั้น” . คุณณิชาภา (ชมพู่) อาชีพ รับราชการ . . “ได้ฟังตัวเอง… Continue reading ความประทับใจการอบรม เขียนเยียวยา รุ่นที่ ๒๖ (๖)

เมื่อแสงสว่างถูกโอบล้อม เมื่อนั้นแสงก็กลับกลายเป็นเงามืด

    อย่าถือความดีเป็นตัวตนฉัน อย่าถือให้สิ่งดีๆ เหล่านั้นเป็นของฉัน อย่ากอดแสงสว่างไว้เป็นตัวตนให้ยึดมั่น . เมื่อแสงสว่างถูกโอบล้อม เมื่อนั้นแสงก็กลับกลายเป็นเงามืด . เมื่อถือความดีเป็นตัวฉัน ฉันย่อมทุกข์เพื่อรักษาความดีนั้น พะวงภาพลักษณ์ ปล่อยปละสิ่งลบในตนแผ่ขยาย มองแต่ดอกไม้ในหัวใจ มิเหลียวแลวัชพืชพัวพัน เมื่อถือให้สิ่งดีๆ เป็นของฉัน และเมื่อถือความดีเป็นตัวตน ความคาดหวังย่อมผูกมัด จ้องควบคุมหมายเป็นดังใจ มิยอมให้เปลี่ยนแปลงตามวาระ วิวาทกับผู้อื่นเพราะความดีที่แตกต่าง . มุ่งทำดีเพื่อใจสงบวาง แสงสว่างเป็นแสงสว่าง เมื่อไม่มีอัตตาใดขวางไว้ เราทำความดีเพื่อให้ความดีงอกงาม มิใช่บ่มเพาะตัวตนให้เติบใหญ่ การดูแลสิ่งลบในตน เป็นการทำความดีที่สำคัญ . . มองให้ดี ให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้น… นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นตัวเรา นั่นไม่ใช่ตัวตน . . อนุรักษ์ ครูโอเล่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๑ คอลัมน์ “บทภาวนา อนัตตา” www.dhammaliterary.org    

ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๑๐)

    “ความรู้สึกที่ได้เขียนหัวข้อต่างๆ ที่หลากหลายทำให้ได้ค้นพบปมแห่งปัญหา ในขณะเขียนเมื่อปล่อยใจให้เป็นอิสระและเขียนโดยไม่มีความกลัวใดๆ สภาวะต่างๆ จะหลั่งไหลออกมา ทำให้เกิดการเรียนรู้ ได้เห็นทั้งข้อดีและข้อด้อยของตัวเอง ยิ่งเขียนมาก ยิ่งได้ค้นลึกลงในในจิต ในใจ บางเหตุการณ์ได้ลืมไปแล้ว แต่ขณะเขียนจู่ๆ เหตุการณ์นั้นก็ปรากฏขึ้นมา ทำให้ได้ใคร่ครวญเรื่องราวต่างๆ อีกครั้ง เป็นการใคร่ครวญที่อยู่บนพื้นฐานของการพิจารณาอย่างละเอียด ก่อให้ปัญญา เห็นปมปัญหาและสามารถแก้ไขจนได้คำตอบในที่สุด หลังจบการเขียน..เกิดความโล่ง โปร่ง เบาสบายเหมือนได้ปลดล๊อคความคับข้องใจให้บรรเทาเบาบางลง เหมือนได้พูดคุยกับเพื่อนที่รู้ใจที่พร้อมจะรับฟังทุกเรื่องราว ทุกอารมณ์อย่างไม่มีเงื่อนไข . ” ได้รู้จักตัวเองจากการอบรมในการเขียนหัวข้อต่างๆ ได้พบทั้งข้อดีและข้อด้อย ข้อที่ดีก็ทำให้มีกำลังใจ ส่วนข้อด้อยก็เห็นชัดเจนขึ้นจากการเขียน โดยเฉพาะเรื่องการหลงผิดคิดว่า ตัวเองเก่ง ตัวเองแน่และมีความมั่นใจเกิน 100 ทำให้ได้บทเรียนจากการอหังการเกินการของตัวเอง ทำให้ยอมรับว่า..เราเก่งบางเรื่อง ถนัดบางอย่าง ไม่ได้เก่งทุกเรื่องเสมอไป เมื่อยอมรับความเป็นได้ก็กลับมาพิจารณาตัวเองและแก้ไขความหลงผิดต่างๆ ยอมรับว่า เมื่อเราไม่สามารถทำอะไรบางอย่างให้ดีได้ก็ต้องยอมรับข้อจำกัดนั้น และไม่ต้องลงโทษตัวเอง แค่เปิดใจยอมรับตามความเป็นจริงก็เท่านั้นเอง . “ข้อคิดที่ได้จากการเขียน ทำให้เห็นตัวเองอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องให้ใครมาบอก การเขียนที่ซื่อสัตย์กับตัวเองจะทำให้ได้บทเรียนอันล้ำค่า หากถึงตอนที่จะปอกเปลือกและลอกคราบตัวเองก็ต้องซื่อสัตย์มองตามความเป็นจริง เมื่อนั้นจะได้เห็นตัวเองอย่างแจ่มชัด บทเรียนที่ได้คือ การเขียนในหลายๆ เรื่องได้ช่วยเยียวยาและรักษาแผลใจให้เราได้อย่างน่าอัศจรรย์ บางเรื่องเป็นความเจ็บปวดในใจที่ไม่สามารถบอกเล่าหรือขอความเห็นจากใครได้ เมื่อได้ใช้วิธีการเขียนโดยใช้มือที่ไม่ถนัดทำให้เกิดความคิด… Continue reading ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๑๐)