ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสอง (2)

  “ทำให้รู้จักตัวเองอย่างไร? รู้จักลักษณะตัวตนบางอย่างที่ที่เรารู้แต่บ่ายเบี่ยงที่จะยอมรับ แต่พอไพ่มาย้ำเตือนอีกที่ ก็คงต้องยอมรับแล้ว และมีส่วนที่บอกถึงตัวตนที่เราไม่เคยรู้มาก่อนค่ะ สิ่งที่ไพ่บอก ช่วยฝึกให้เรารู้จักคิดวิเคราะห์ เป็นการทบทวน สถานการณ์ ที่กำลังดำเนินอยู่ และปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่อีกครั้ง ไพ่อาจจะชี้แนะ ประเด็นที่เรามองข้าม และสุดท้ายเราเองเท่านั้นที่จะเป็นคนตัดสินใจค่ะ . “เมื่อไพ่ฝึกให้เรา เข้าใจตัวเราเอง และ เราจะเข้าใจคนอื่นด้วย เราก็จะเข้าใจพฤติกรรมของเค้า และเราจะไม่โกรธเกลียดใคร เพราะ ในบางขณะเราก็อาจมีพฤติกรรมแบบเดียวกันเขา ถ้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน . “สุดท้าย ขอบคุณคุณครูทั้งสองและเพื่อนทุกคนที่มีไมรตรีให้ต่อกัน เหมือนคนที่คุ้นเคย ทั้งๆเพิ่งได้มารู้จักกันค่ะ เพื่อนๆทุกคนก็เป็นครูสำหรับพี่นะคะ เพราะเป็นกระจกที่ย้อนให้กลับมาดูตัวเองค่ะ ขอบคุณมากๆ” . จันทร์พิมพ์ (เก๋) แม่บ้าน . . “ช่วยให้รู้จิตรู้ใจตัวเองมากขึ้น ได้ทบทวนเรื่องราวชีวิตในแต่ละช่วง ตัวตนที่ออกมาเล่นบทบาทในสถานการณ์นั้นๆ ทุกสิ่งดีงามตามที่มันเป็นอยู่แล้ว อะไรที่เคยติดก็กลับไปทบทวนทำความเข้าใจ วางไว้ แล้วไปต่อ พอเริ่มคุ้นกับไพ่ อ่านตัวเองออกก็เริ่มจะอ่านคนอื่นได้ด้วย มนุษย์เราเหมือนจะต่าง กัน จริงๆก็ไม่ต่างกันในหลากหลายเรื่องราว เข้าใจตัวเองได้ก็เข้าใจคนอื่นได้ … ไพ่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนๆหนึ่ง เป็นเพื่อนพูดคุยปรึกษาได้… Continue reading ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสอง (2)

ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสอง (1)

  “นอกเหนือจากการชี้ให้เห็นตัวตนของเราที่เรารู้เราเห็นอยู่แล้ว ยังบอกถึงสิ่งที่เราปฏิเสธ หรือสิ่งที่คิดว่าไม่มีอยู่ในตัวเราหรอก บางครั้งมันก็อยู่ในเรานี่แหละ นอกจากนี้ ไพ่ยังมีคำชี้แนะที่ดีให้กับเราด้วย เหมือนเราได้คุยกับเพื่อนที่เข้าใจเรามากที่สุด และกล้าวิจารณ์เราอย่างตรงไปตรงมา . “การอบรมเป็นการถ่ายทอดความรู้ที่เรียบง่าย ไม่เน้นการบอกทฤษฏี แต่ให้หลักหรือแก่นของการอ่านไพ่จริงๆ ตวามเข้าใจที่เป็นพื้นฐานทำให้เรียนรู้ได้เร็วขึ้น เมื่อกลับไปอิงกับตำราก็เข้าใจมากขึ้น รู้วิธีการอ่านแบบเข้าใจไพ่ (แม้บางครั้งจะเป็นการเข้าใจผิดก็เถอะ) ไว้ใจในความรู้สึกตัวเอง ชอบกระบวนการสอนที่ลื่นไหล ต่อเนื่อง เป็นธรรมชาติมากๆ มีความตื่นเต้นเมื่อได้ลองทายจริงๆ และได้รับความมุมมองที่นอกเหนือจากการอ่านไพ่จาก แขกรับเชิญ เป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ สัมผัสได้ถึงความตั้งใจในการถ่ายทอดความรู้ของครูทั้งสองคนค่ะ . “เพื่อนๆ ทั้งหมดก็ทำให้เกิดความรู้สึกสบายๆ เป็นกันเอง มีความน่ารักตามแบบฉบับตนเอง ทำให้การเรียนสนุกขึ้น และยังเห็นการอ่านไพ่ของแต่ละคนที่แตกต่างกัน เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนอีกด้วย . “อยากให้ครูเปิดคอร์สต่อเนื่องจากคอร์สนี้ค่ะ อาจเป็นการฝึกฝนหรือทบทวน หรือชี้แนะเพิ่มเติมจากที่เรียนไปแล้ว โดยผสมผสานกับการเรียนออนไลน์ค่ะ อาจเป็นแบบกึ่งออนไลน์ค่ะ . “ขอบคุณครูทั้งสองคนอีกครั้งนะคะ” . นันทวรรณ (นก) พนักงานบริษัท . . “ทำให้เรายอมรับตัวเอง เป็นผู้เตือน ชี้ช่องทาง แสดงจริงที่เป็นอยู่จริงเชื่อมโยงกับความคิดภายใจ . “ชอบกิจกรรมที่ใช้ ไม่น่าเบื่อ… Continue reading ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสอง (1)

๔ สิ่งที่ความป่วยกายสอนหัวใจ (ตอนสอง)

    ๔ สิ่งที่ความป่วยกายสอนหัวใจ (ตอนสอง) ความจริงที่เจ็บปวด คือสิ่งที่เราควรรับฟังให้มากที่สุด ยิ่งกว่าความจริงอันหอมหวาน เวลาหัวใจเราซับซ้อนเกินไปจนก่อทุกข์แก่ตนเองหรือใครๆ ร่างกายจะยังคงตรงไปตรงมา เฝ้าส่งสัญญาณเตือนใจ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนมิตรที่ซื่อสัตย์และซื่อตรง คอยบอกคำจริงที่ไม่หวาน แม้หัวใจไม่อยากรับฟัง รวนเรเพราะความอยากและอารมณ์นานา . บทความนี้ยังคงต่อเนื่องจากตอนที่แล้ว เพิ่มเติมอีกสองหัวข้อ สำหรับบทเรียนหรือสิ่งสำคัญที่ความเจ็บไข้ได้ป่วยทางร่างกายสอนแก่หัวใจเรา . ๓ ไม่มีความเป็นตัวตนให้ยึดถือไว้ : แม้ใจเราหวังให้สิ่งต่างๆ คงอยู่ตราบนานเท่านาน หรือคิดไปเองว่าสิ่งทั้งหลายที่รักและหวงแหนจะอยู่กับเราเช่นนั้นชั่วนิรันดร์ แต่ย้อนมามองร่างกายของตัวเอง เราก็มิอาจทำให้เป็นเช่นนั้นได้เลย โรคและความป่วยไข้มักมาเยือนในเวลาที่ไม่อยากให้เกิด อวัยวะ ผิวหนัง และกล้ามเนื้อย่อมต้องหย่อนยานและเสื่อมลง แม้เราสะกดจิตตนเองมากเท่าใดก็ตาม หรือพยายามรักษาความงามและเฝ้าดูแลสิ่งที่ยึดถือไว้อย่างไร ร่างกายและแม้ตัวตนก็ต้องแปรเปลี่ยน . ด้วยความกลัวในหัวใจ คนเรามักพยายามยึดให้ทุกสิ่งคงอยู่ ทำทุกอย่างแม้อย่างน้อยแค่ได้รู้ว่าสิ่งที่รักและหวงแหนนั้นจะยังคงเป็นเช่นที่อยากให้เป็น แต่ร่างกายก็พยายามสอนธรรมอยู่อย่างนั้นให้เรารับฟัง ไม่มีสิ่งใดคงที่และเที่ยงแท้ แม้แต่หัวใจเราเองก็ตาม แต่คนเรามักไม่ค่อยได้ฟัง พยายามใช้ชีวิตและร่างกายอย่างเกินธรรมชาติเพื่อคว้ามาซึ่งสิ่งที่อยากได้และอยากเป็น จนกระทั่งวันหนึ่งความป่วยเท่าทวี เตือนเราหนัก สิ่งที่คว้ามาก็ต้องปล่อยลงแม้ใจไม่อยากก็ตาม . คนสวนไม่อาจห้ามต้นไม้มิให้ชราและตายจาก มิอาจห้ามออกผลหรือทิ้งดอกใบ แต่ทำได้ดีที่สุดที่จะบำรุงรักษาตามปัจจัย แล้วชื่นชมคุณค่าทั้งในยามงอกงามและโรยรา . คนสวนเรียนรู้ธรรมจากต้นไม้ที่ตัวเองปลูก… Continue reading ๔ สิ่งที่ความป่วยกายสอนหัวใจ (ตอนสอง)

๔ สิ่งที่ความป่วยกายสอนหัวใจ (ตอนแรก)

    ๔ สิ่งที่ความป่วยกายสอนหัวใจ (ตอนแรก)   เวลาที่เราเจ็บป่วย นั่นเป็นโอกาสที่ดีที่ตนจะได้เรียนรู้ธรรมะและความจริงจากร่างกายเรานี้เอง ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตล้วนมีความหมาย ดังนั้นแล้วโรคและความป่วยไข้ต่างเป็นแขกมาเยือนแก่เรา เพื่อมอบความตระหนักรู้ที่ล้ำค่าแก่ชีวิต ชนิดที่เราเองก็อาจหลงลืมหรือละเลยไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา . หากเราเข้าใจและฝึกใจน้อมรับสารเหล่านี้ การมีชีวิตอย่างสุขสงบและอิสระ ท่ามกลางความไม่เที่ยงแท้ต่างๆ ของโลก ก็ไม่ไกลเกินเอื้อม การป่วยไข้ในแต่ละครั้งก็จะมิใช่เพียงสิ่งที่เราพยายามหนีให้พ้น แต่เป็นการเข้าห้องสอบของชีวิต เพื่อผลปลายทางสุดท้ายคือการหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง . . ๑ คุณค่าชีวิตยังมีอยู่ตรงนี้ ไม่ใช่เพียงสิ่งที่ใฝ่หา : เราหลายคนพยายามทำงานวันแล้ววันเล่าเพื่อคุณค่าของชีวิตที่เป้าหมาย เช่น ความสำเร็จ การยอมรับจากคนรอบข้าง ทรัพย์สินเงินทอง สถานะทางสังคม การเป็นผู้ให้ หรือได้ค้นพบศักยภาพในตนเอง เราอาจมีความสุขเมื่อไปถึงเป้าหมาย หรือสุขที่ได้สัมผัสใกล้เป้าหมายมากขึ้นตามลำดับ แต่ท้ายที่สุดความทุกข์ในร่างกายก็จะฉุดชวนเรากลับมาทบทวน ไม่วันใดก็วันหนึ่งว่า ชีวิตสำคัญน้อยกว่าความสำเร็จหรือสิ่งที่หวังนั้นใช่หรือไม่ หากเราไม่มีชีวิต เป้าหมายหรือสิ่งที่หวังนั้นยังมีประโยชน์อยู่หรือไม่ . ความสุขและความพอใจที่ฉวยคว้ามาได้ จะเหลืออยู่จีรังเพียงใด เมื่อชีวิตกำลังหมดลมหายใจหรือร่างกายไม่อาจมีสมบูรณ์ครบเหมือนเดิม . เมื่อใดที่ตาชั่งคุณค่าของชีวิตเอนเอียงไปทางใดมากเกินไป เมื่อนั้นย่อมเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์และปัญหาทางสุขภาพกายกับใจติดตามมา . สำหรับบางคนแล้วคุณค่าชีวิตอยู่ที่การดูแลใส่ใจผู้อื่น จนวันหนึ่งไม่แก้ไขปัญหาของชีวิตตนเองได้เลย ขณะเที่ยวแก้ปัญหาให้ใครอื่น หรือแบกรับความคาดหวังจากใครๆ จนหัวใจอ่อนล้าและหลงลืมว่า… Continue reading ๔ สิ่งที่ความป่วยกายสอนหัวใจ (ตอนแรก)

ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๕)

  “เข้าเรียนคอร์สนี้เพราะรุ่นพี่ชวนมา พี่เล่าถึงคอร์สภาวนาที่เรียนมาก่อนหน้านี้ว่าทำให้เธอได้ค้นพบอะไรบางอย่าง ซึ่งมันดีมากสำหรับเธอ ก็เลยตกลงใจสมัครเรียนด้วย แรกๆ ทำด้วยความรู้สึกโลภว่า อยากทำเยอะๆ หลายๆ หัวข้อ แต่พอครูตอบกลับมา ไม่เน้นปริมาณ เน้นคุณภาพ อยากให้ค่อยๆทำ สังเกตตัวเองดีๆ จึงเปลี่ยนมาทำเมื่อรู้สึกอยากทำ ค่อยๆเขียน ให้เวลาอยู่กับตัวเอง หัวข้อบันทึกหลังๆ มักย้อนนึกถึงเรื่องราวหลากหลายที่ผ่านมาของชีวิต ได้เห็นตัวตนของตัวเองในหลายแบบ บางเรื่องราวนึกว่าลืมไปแล้ว จริงๆ ก็ยังอยู่ที่เดิม คล้ายๆกำลังรอเวลาให้เรากลับไปสงบสุขกับเรื่องราวนั้น นึกขอบคุณตัวตนที่ตัวเองเป็นในแต่ละช่วงเวลา ทุกสิ่งที่เป็นมา ดีงามที่สุดแล้ว ^^ . “เห็นตัวเองชัดเจนขึ้นในหลายๆ ด้าน ได้รู้ว่าตัวเองแสดงตัวตนด้านไหนอยู่มากที่สุดในชีวิตที่ผ่านมา ฉันต้องเข้มแข็ง จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เมื่อเราอนุญาตให้ตัวตนแสดงออกอยู่ด้านเดียว และปิดการรับรู้ตัวตนอื่นๆ ก็เหมือนกับว่าเราปฏิเสธที่จะยอมรับตัวเอง มันก็จะกลายเป็นความรู้สึกอึดอัดคับข้องใจ และอาจจะหลงลืมการดูแลตัวเอง ความต้องการของตัวเอง ชีวิตเสียสมดุล การได้เป็นตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ช่วงเวลาใด สถานการณ์อะไร มันคือ ดีที่สุดแล้ว แค่เรียนรู้ รักษาสมดุลไว้ ไปต่อได้ ก็พอแล้ว . “จงเป็นตัวของตัวเอง และอนุญาตให้คนอื่นเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน… Continue reading ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๕)

ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๔)

    “ปกติตัวเองไม่ใช่คนที่ชอบเขียนบันทึกใดๆเลย แต่คอสนี้สอนให้เขียนบันทึกโดยมีเทคนิคที่หลากหลายเช่นเขียนไม่หยุดปากกา เขียนด้วยมือที่ไม่ถนัด ทำให้ได้เรียนรู้ว่าการเขียนเป็นการระบายความรู้สึก เป็นการค้นพบตนเองในแง่มุมที่ลืมไปแล้ว ทำให้มองเห็นตนเองในอีกหลายแง่มุม ชอบมากค่ะ . “ทำให้รู้ว่าตนเองเป็นคนอย่างไร เดิมคิดว่าตนเองเป็นคนคิดดี ทำดี แต่ทำไมผู้อื่นไม่เห็นความดีของเรา เรียนคอสนี้จึงรู้ว่าจริงๆแล้วในมุมของความดีก็ยังอาจมีความไม่ดีซึ่งคนอื่นที่ไม่ชอบเรามองเห็นในแง่นั้นของเรา ทำให้ตนเองเปิดใจและความคิดให้กว้างขึ้น . “บทเรียนสำคัญ เวลาที่เราทำอะไรทุกๆอย่าง ควรคิดถึงผลกระทบของสิ่งที่ทำต่อผู้อื่นให้มากยิ่งขึ้นเพราะถ้าเราใองแต่ตัวเราฝ่ายเดียว แม้แต่สิ่งที่เราแน่ใจว่าเราทำสิ่งที่ดีๆแก่ผู้อื่น อาจเป็นสิ่งที่ผู้อื่นไม่พอใจ ไม่ต้องการ จะมองตัวเรา มองผู้อื่นด้วย พร้อมเปิดใจให้กว้าง รับฟังความคิดของผู้อื่นมากขึ้น” . คุณศรีกาญจนา (จุ๊ก) อาชีพ แม่บ้าน . . “ชอบทุกหัวข้อที่เลือก ครูให้ choice เยอะมากค่า ประทับใจในองค์ความรู้ ของครูโอเล่ การให้กำลังใจ ข้อคิดแง่คิดต่างๆ ที่นำไปสอนใจในการใช้ชีวิตได้หลากหลายสถานการณ์ . “ได้เห็นคุณค่าความแตกต่าง ของผู้คนและความจำเป็นของแต่ละคนในแต่ละสถานการณ์ ลดการตัดสินได้มาก เปิดพื้นที่ภายในในการสำรวจตน อนุญาตผู้อื่นมากขึ้น ทัศนคติกับผู้คนที่แตกต่างจากตัวเองได้เปลี่ยนไป มองเห็นข้อดีของความแตกต่างได้มากขึ้น . “บทเรียนที่ได้รับคือการให้คุณค่ากับมุมมองตนเอง โดยละเลยประสบการณ์แตกต่างของผู้คน ทำให้จิตใจร้อนรุ่มกระวนกระวายไร้ความสุข การมองเห็นคุณค่าความต่างได้ทำให้โลกในใจสว่างขึ้น… Continue reading ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๔)

ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๓)

  “เป็นความแปลกใจและทึ่งสำหรับพลังอำนาจของการเขียน สามารถทำให้ตัวเองเปลี่ยนแปลงได้ถึงขนาดนี้ รุ้สึกเหมือนการกลับมารุ้จักกับตัวเอง กลับมาเรียนรุ้ตัวเองอีกครั้ง ทำให้เราเข้าใจตัวเราเองมากขึ้น ฟังเสียงหัวใจตัวเองและที่สำคัญคือการกลับเคารพในตัวเองอีกครั้ง . “คนเราทุกคนมีจุดอ่อนแอด้วยกันทั้งนั้นไม่ว่าจะเก่งกาจเพียงใด และหากเราเข้าใจตัวเองมากพอ เราจะสามารถอยุ่บนโลกใบนี้ได้อย่างสวยงามและมีความสุข สุขจนกระทั่งสามารถแบ่งปันความสุขให้กับผู้อื่นเพียงแค่คุณรู้จักและยอมรับในตัวตนของตัวเอง” . คุณอติพร (จูน) อาชีพ Internal audit . . “จากคนที่อยู่เรื่อยๆไม่มีเป้าหมายก็ทำให้มีความใจจดใจจอเปิดเมล์ทุกวันเพื่อทำการบ้านส่ง ได้คำแนะนำดีดีจากครู ได้เห็นมุมมองความคิดอีกแบบหนึ่งที่หลงลืมไป หรือไม่ใส่ใจ ได้เรียนรู้ ได้เห็นตัวเองบางอย่างมากขึ้น ชอบหัวข้อ สายธารชีวิต ได้เขียนบรรยายความรู้สึกดีๆที่จริงๆชีวิตเราไม่ได้มีแต่เรื่องทุกข์ เรื่องดีๆมากมายก็เกิดกับชีวิตเราทำไมเราไม่จดจำสิ่งดีให้ชีวิต ชีวิตจะได้มีความสุข . “การอบรมทำให้รู้จักตัวเองและชื่นชมตัวเองมากขึ้นในความเป็นคนมีความสามารถ มีความคิดที่ดี และรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนดีระดับหนึ่ง ทำให้รู้สิ่งที่เราเคยไม่ชอบในตัวคนอื่นเพราะอะไรเพราะเขาอาจจะเป็นตัวเราในส่วนที่เราไม่ชอบตัวเองในเรื่องนั้น ทำให้ไม่โกรธ หรือเคืองคนนั้น มีแต่การให้อภัยและเข้าใจว่าเราเองก็ยังเคยทำ แล้วก็เอาข้อไม่ดีในตัวปรับปรุงจากจิดใต้สำนึกจะได้ไม่เผลอทำอะไรไม่ดีอีกโดยไม่รู้ตัว . “ทำให้เรารู้จักทั้งด้านดีและไม่ดีในตัวเองมากขึ้น และทำให้เรารู้จักอารมณ์ของตัวเองเวลาไม่พอใจใครว่าเกิดจากอะไร ทุกอย่างอยู่ที่มุมมองของเรา เอาใจเขามาใส่ใจเรา เอาใจเราใส่ใจเราอีกทีเราก็จะพบกับความสุขที่แท้จริงได้ . “เอาสิ่งที่ตัวเองเขียนสอนตัวเองตลอดๆเอาไปปฎิบัติจริงๆสักที เมื่อรู้สึกสับสนบางอย่างก็สามารถนำวิธีการเขียนนี้ไปประยุกต์ใช้เพื่อช่วยให้ความกระจ่างทางอารมณ์ ความคิดได้” . คุณอรวรรณ (เปี๊ยก) . .… Continue reading ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๓)

ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๒)

  “รู้สึกดี (ยิ้มกว้างค่ะ) รู้จักตัวเองมากขึ้น ประทับใจและขอบคุณครู นะคะ ครูคอมเมนท์เร็วมาก ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ หวังว่าจะได้พบกันอีก ขอให้ครูสุขภาพแข็งแรง ร่มเย็นเป็นสุข เป็นครูของลูกศิษย์ไปเนิ่นนาน นะคะครู ^^ . “ได้เห็นความกลัวค่ะ ก่อนอบรมเหมือนเราจะเป็นคนกล้าบ้าบิ่น..กลับไม่ใช่..ทุกครั้งที่เริ่มจะเขียนรู้สึกได้ว่า..เรากลัว…กลัวตัวตนของเราเอง กลัวอดีต..กลัวไม่ดี…กลัวผิด…แต่เมื่อทำกิจกรรมเสร็จ..เหมือนได้ปลดปล่อย…เข้าใจตัวเองได้มากและลึกซึ้งขึ้น…ทั้งในส่วนที่ดี..และส่วนที่เราต้องปรับปรุงแก้ไข . ” การมีและใช้ชีวิตอยู่ เราต้องการความสุข…ก่อนหน้านี้เรามองหาความสุขจากภายนอก..จากคนอื่น…ทำให้เราประสพทุกข์ มากกว่า ประสพสุข..หลายครั้งเราหัวฟัดหัวเหวี่ยง…ฟาดงวงฟาดงา.. บ้าบออยู่คนเดียว อยากให้คนหลายคนทำให้ถูกใจเรา …ที่สุด..การเขียนค้นตน..ทำให้พบว่าสุขที่แท้จริง..เกิดขึ้นได้จากเราเอง..มีคำสอนมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้..”ความสุขจากภายใน”แต่..หาไม่เจอ..ค้นไม่พบ..ได้เท่ากับ..เขียน ค่ะ เขียนค้นตัวตนของเราออกมาจากหลาย ๆ กิจกรรมที่ครูมอบให้…ขอบคุณครูมากนะคะ :)” . “หลายกิจกรรมที่เขียนเสร็จไป…ทำให้เราเข้าใจตัวเอง..รู้สึกดีทุกครั้งไป..ฉะนั้น.ก็จะเขียนทุกกิจกรรมของหลักสูตรนี้เลยค่ะ..ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของครู..แต่ดูเหมือนว่า..ในทุก ๆกิจกรรมเสมือนเป็นครูให้เราได้ดี …และก็ตั้งใจจะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมสนับสนุนโครงการของครูเพื่อให้อีกหลาย ๆ ชีวิต ที่ยังเป็นทุกข์..ได้พบทางออก..ได้มีชีวิตที่สุขใจมากขึ้นค่ะครู ..มีสิ่งใดให้ช่วย ถ้าสามารถทำได้..จะไม่ปฏิเสธ..บอกมาได้เลย นะคะ ครู 🙂 ” . คุณเนาวรัตน์ (ปู) อาชีพ ข้าราชการครู . . “ได้เห็นตัวตนของเราเองชัดเจนขึ้น โดยการเรียนจะไม่เร่งรัดมาก มีเวลาให้ทำแบบฝึกหัดพอประมาณ… Continue reading ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๒)

ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘

  ” ได้อยู่กับตัวเองในระบบกึ่งออนไลน์ซึ่งครั้งแรกคิดว่าอยู่ในห้องเรียนน่าจะสะดวกกว่า แต่ตอนนี้เห็นด้วยกับระบบนี้ และชอบที่มีเสริมกิจกรรมในห้อง ได้อบรมแล้วเห็นว่าทุกสิ่งมาเป็นคู่ ถ้าใจเย็นเป็นข้อดีก็ต้องยอมรับความเฉื่อยที่เป็นข้อเสีย ถ้าขยันมุ่งมั่นเป็นข้อดีก็ต้องยอมรับความใจร้อนที่จะให้งานเสร็จเร็วๆเป็นข้อเสีย เป็นการเรียนรู้ที่จะยอมรับในจุดด้อยของตนเองและผู้อื่นที่มาพร้อมกับจุดเด่น . ” ทุกครั้งที่มีปัญหาคิดไม่ออก ไม่เข้าใจ ตัดสินใจไม่ได้ จะใช้การเขียนช่วย, จะพัฒนาความสัมพันธ์กับมิตรให้ดีขึ้นด้วยการยอมรับจุดด้อยที่มาพร้อมจุดเด่น ” . คุณประภัสสร (น้อยหน่า) อาชีพ ทนายความ . . “รู้สึกดีเพราะเข้าใจตัวเองในระดับลึกขึ้นและรับรู้ปัญหาภายในที่จะทำให้จะทำให้สามารถแก้ไขได้อย่างแท้จริง ได้เห็นความกลัวความรู้สึกไม่มั่นคงเป็นสิ่งที่กำลังเผชิญมาให้เห็นในรูปแบบต่างๆทุกๆวัน บางครั้งรับรู้ได้ด้วยความรู้สึกบครั้งรับรูได้จากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นทางกายหรืออาการต่างๆ เช่นปวดหัว ซึ่งเมื่อก่อนไม่รู้สาเหตุ . “จากการอบรม ตั้งใจอยู่กับทุกความรู้สึก ร้ายดี และยอมรับไม่กดดันตัวเอง ผ่อนคลายตัวเองตังเองและทำงานให้เกิดประสิทธิภาพไปด้วยการจัดการ ให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า” . คุณณัฐรดา (กันเอง) อาชีพ งานอิสระ . . ” ได้แนวทางในหัวข้อที่จะเขียนบันทึกในการมองตนมากขึ้น ได้เห็นตัวเองมากขึ้นและรู้สึกดีที่มีผู้ช่วยชี้แนะในการบันทึก ชอบหัวข้อ ไม่ใช่ตัวฉัน , ตัวตนที่หลากหลาย . ” สิ่งที่คิดว่าไม่ใช่ตัวเรา ที่แท้ก็มีอยู่แล้วในตัวเรา อาจจะเป็นแค่๓-๕%แต่ถ้าได้ฝึกฝนก็น่าจะทำได้ดีขึ้นเพื่อจะได้เห็นตัวเองในแบบที่อยากเป็น… Continue reading ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘

ตัวตนที่เลวร้ายไม่เคยมีอยู่ แค่ความมืดอำพราง

      ความมืดมิใช่ตัวตนของเธอ โลกหม่นเศร้ามิใช่นิยามของหัวใจ ด้านมืดคือส่วนที่แสงส่องฉายไปไม่ถึง ตัวเราในแง่ลบร้าย เพียงด้านที่แสงสว่างแห่งรัก ส่องสว่างไปไม่พอ ถูกเราและใครทอดทิ้งอยู่ตรงนั้น . โลกอันมืดมิดมิใช่ที่ซึ่งสีสันอันแท้จริงจะปรากฏ เราจะเจอกันและกันแท้จริง เมื่อเราอยู่ข้างกันตรงนี้ เมื่อกลางวันและราตรีมาบรรจบ ความเลวร้ายไม่ใช่ของเรา กิเลสตัณหาไม่ใช่ของใคร ความเศร้ามิใช่เนื้อกาย เพียงเงาที่แสงไปไม่ถึง สิ่งลบทั้งหลายเพียงมุมเงาของความทรงจำ ที่แอบซ่อนใจจากความเจ็บปวด . ด้านสว่างก็มิใช่ตัวตน เพียงขับเน้นสิ่งที่เป็นอยู่แล้ว ตัวตนที่เลวร้ายไม่เคยมีอยู่ แค่ความมืดอำพรางเธอที่เป็นจริง ความเศร้าและความสุข มิใช่ตัวเธอ แสงกับเงาแค่ตกกระทบ มิได้บ่มตัวตนหรือหัวใจ ตัวเธออันแท้จริงอยู่ตรงนั้น มิได้เห็นด้วยตา รู้ด้วยโอบกอดทุกสิ่ง . . มองให้ดี ให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้น… นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นตัวเรา นั่นไม่ใช่ตัวตน . . อนุรักษ์ ครูโอเล่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ คอลัมน์ “บทภาวนา อนัตตา” www.dhammaliterary.org