สัมภาษณ์ที่มา เรามีลมหายใจ.. จำกัด

  “คนที่ใช้ชีวิตอย่างไม่มีค่า ก็คือคนที่ไม่รู้ว่าเรามีลมหายใจจำกัด… และคนที่เข้าใจสิ่งนี้จริงๆ จะไม่มองแค่ตัวเอง แต่จะมองคนอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะคนที่ต้องอยู่ต่อจากเรา” ให้สัมภาษณ์เล่าที่มา “เรามีลมหายใจ.. จำกัด” ความหมายของชื่อนี้ เส้นทางที่ผ่านมาของครูโอเล่ มุมมองต่องานการกุศล รวมถึงเหตุผลที่สนใจทำกิจกรรมกับน้องๆ ในสถานพินิจฯ อย่างต่อเนื่อง  

เสียงสะท้อนหลังเรียนจบ Journal & Inner guide 2

  หนึ่งในการอบรมส่งท้าย สถาบันธรรมวรรณศิลป์ ก่อนจะก้าวสู่ “เรามีลมหายใจ.. จำกัด” กับการเรียนรู้เพื่อสำรวจโลกภายใน ฟังเสียงนำทาง และไขความเร้นลับของโลกจิตใต้สำนึกตนเอง ผ่านความฝัน การ์ด และกิจกรรมการเขียนบนหลักจิตวิทยาที่ผสมผสานมุมมองทางจิตวิญญาณของพุทธศาสนาและการเวียนว่ายตายเกิด ขอขอบคุณเสียงสะท้อนและการร่วมเรียนรู้อย่างดีของผู้เข้าร่วมจำนวน 21 คน ในการอบรม ผู้นำทาง Journal & Inner Guide ในรอบ 2/2568 นี้ 🪄🎁✨ “เรียนแล้วรู้สึกกล้าหาญขึ้น พยายามเติบโตจากข้างใน ชอบกิจกรรมเศษขนมปัง เพราะเหมือนเรามีเพื่อนเดินข้างๆช่วยส่งเสริมให้เราทำตามเป้าหมายในใจที่ตัวเองยังทำไม่ได้ สิ่งที่ได้รับจากการอบรมคือการก้าวข้ามจุดความกังวลบางอย่าง ความไม่ชอบ ความคิดลบ อคติบางอย่างกับบุคคลที่ทำไม่ดีกับเรา ทำให้เรามองอย่างรอบด้าน เข้าใจในความต่างระหว่างกันอยู่ด้วยกันดีขึ้น และทำให้มีไฟกลับมาเดินตามฝันที่แอบบกังวลและขี้เกียจได้ รู้สึกขอบคุณที่ได้เรียนค่ะ” “รู้สึกว้าวกับจิตใต้สำนึกของตัวเอง บางคำตอบไม่คิดว่าจะออกมา ได้บางคำที่เป็นคีย์เวิร์ดที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ชอบกิจกรรมความฝัน เพราะสงสัยมาตลอดว่าทำไมชอบฝัน ตื่นมาแล้วเหนื่อย แต่พอรู้ว่ามันคือการสื่อสาร ก็ค่อยๆเข้าใจ แล้วพยายามหาคำตอบว่าต้องการสื่ออะไร” ” ได้มองเห็นภาพที่มาที่ไปของประสบการณ์ในอดีตอย่างชัดเจนอย่างเข้าใจมากขึ้น ทำให้รู้สึกอบอุ่น รู้สึกปลอดภัยจากข้างในตนเอง โลกภายในของตนเองรู้สึกไว้วางใจโลกภาพนอก เกิดความเข้มแข็ง มั่นใจมากขึ้นในการดำเนินชีวิตต่อไป” “ได้กลับมาทบทวนตัวเอง และรับรู้ถึงสิ่งที่ตัวเรากำลังเป็นมากขึ้น… Continue reading เสียงสะท้อนหลังเรียนจบ Journal & Inner guide 2

เกมไพ่ไขเส้นทางจิตวิญญาณ รอบ 3-4

  Journey of Souls “เกมไพ่ ไขเส้นทาง จิตวิญญาณ” รอบ 3 – 4   🦋 ทบทวนเส้นทางกรรม การเติบโตทางจิตวิญญาณ และคำใบ้เกี่ยวกับภารกิจชีวิตและสิ่งที่ควรสะสางก่อนตาย โดยใช้การดูไพ่ประยุกต์ร่วมกับเกมกระดาน และกิจกรรมเชื่อมโยงกับเสียงภายใน 🥸 ออกแบบโดยครูโอเล่ ผู้สอนหลักสูตร “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” 20 รุ่น มีต้นทุนทางจิตวิญญาณใดที่ฉันได้สะสมมาและยังขาดหายไป ? สิ่งใดบ้างที่ฉันควรสะสางก่อนตาย ? เป้าหมายทางจิตวิญญาณที่ฉันควรก้าวไป ? ฉันจะดูแลการเติบโตทางจิตวิญญาณต่อไปอย่างไร ?   ⭐ รูปแบบกิจกรรม ร่วมทบทวนด้วยการใช้ไพ่กับเกมกระดาน การเขียนบันทึก และกิจกรรมเชื่อมโยงกับเสียงภายใน แล้วแลกเปลี่ยนแบ่งปันกับเพื่อนร่วมเรียน เนื้อหาเน้นการปฏิบัติไม่เน้นการบรรยาย โดยมีการเชื่อมโยงกับหลักธรรมในพุทธศาสนา โหราศาตร์กรรม และจิตวิทยากระบวนการ กิจกรรมประกอบด้วย อาทิ เกมไพ่ไขตัวตน, เกมไพ่เส้นทางบารมี, เกมไพ่นิทานจิตวิญญาณ และเกมไพ่เรือนชีวิต โดยเริ่มต้นจากการปูพื้นฐานการตีความไพ่ง่ายๆ สำหรับผู้เริ่มต้น และเน้นการทบทวนตนเองและแลกเปลี่ยนมุมมองไพ่ไปด้วยกัน … … รับจำนวนจำกัด… Continue reading เกมไพ่ไขเส้นทางจิตวิญญาณ รอบ 3-4

“เป็นดั่งแสงสว่าง” ประจำปี 2568

  ท่ามกลางความมืดมน เราจะเป็นแสงสว่างได้อย่างไร เราจะละวางตัวตนเพื่อเป็นผู้ให้และผู้นำทางอย่างไร ฝึกทบทวนอัตตาและการละวางตัวเอง เพื่อเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง ในกิจกรรมหัวข้อ   ” เ ป็ น ดั่ ง แ ส ง ส ว่ า ง “ … ที่ว่างและเป็นประโยชน์ …   การอบรมในชุด “ห้องเรียน วิถีครู” รุ่นที่ 7 – บ่มเพาะครูภายในตน เรียนทักษะสำคัญเพื่อเป็นที่พึ่งแก่ตัวเองและผู้อื่น สามารถเข้าเรียนได้ทุกอาชีพ 💡ในกิจกรรมนี้ ผู้เข้าร่วมจะได้ทบทวนเกี่ยวกับความยึดมั่นในตัวตน ความสำคัญของการละวางในการเป็นผู้ให้ และแนวทางการฝึกฝนตนเองเพื่อเป็นดั่งแสงสว่างแก่ตัวเองและผู้อื่น โดยใช้การทำสมาธิโปรแกรมจิต (Self Hypnosis Meditation) การเขียนใคร่ครวญ (Reflection Writing) และการเปิดการ์ดออนไลน์ใน 7 ชุดไพ่ไกด์ชีวิต ⏰ คืนวันที่ 24 – 26 มกราคม… Continue reading “เป็นดั่งแสงสว่าง” ประจำปี 2568

โครงการคุณให้เขา เราให้คุณ ครั้งที่ 8

  (คุณให้เขา เราให้คุณ ครั้งที่ 8) รับสมุดอิสรภาพแห่งใจ ฟรี ! เพียงบริจาคตรงให้กับโรงพยาบาล องค์กรการกุศล หรือโครงการช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม เป็นจำนวน 199 บาทขึ้นไป ในช่วงระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2568 ส่งใบเสร็จหรือหลักฐานการโอนบริจาคให้เรา พร้อมแจ้งชื่อ-นามสกุล และอีเมล เลือกรับฟรี สมุดบันทึกอิสรภาพแห่งใจ ท่านละ 1 เล่ม สมุดการเขียนบำบัดและทบทวนตัวเองพร้อมภาพสวยงามทั้งเล่ม เราส่งให้ฟรีในประเทศไทย หรือเลือกรับส่วนลดค่าเข้าร่วมกิจกรรม “มั่นคงจากข้างใน” วันที่ 13 – 14 ธันวาคม 2568 ออนไลน์ทาง Zoom เวลา 14.30 – 18.00 น. 🍀🍀🍀 ส่งใบเสร็จบริจาคเข้าร่วม คุณให้เขา เราให้คุณ ได้ที่อินบ็อกเพจ “สถาบันธรรมวรรณศิลป์” ไลน์ @khianpianchiwit หรืออีเมล… Continue reading โครงการคุณให้เขา เราให้คุณ ครั้งที่ 8

ยามผีเสื้อจะต้องเป็นผีเสื้อ เขาไม่อาจแบกดักแด้ไว้กับตัวได้อีกแล้ว

  เราทุกคนต่างเป็นมากกว่าที่เราคิด เป็นมากกว่าที่เราเชื่อ แต่โชคร้ายที่หลายครั้งเราจำกัดตัวเองไว้ในกรอบความคิดและความคุ้นเคยชิน จนบดบังอำพรางสิ่งที่เราเป็นแท้จริงอยู่ข้างใน บ่อยครั้งที่เราตัดสินตัวเองเหมือนตัดสินหนอนแก้วตัวหนึ่งว่ามันไม่อาจมีชีวิตที่บินได้ ชีวิตของผีเสื้อ เป็นตัวอย่างของการรู้จักตน และมอบบทเรียนการเริ่มต้นให้แก่ชีวิตมนุษย์ บทความหัวข้อนี้ริเริ่มชวนเราผู้อ่าน ย้อนมองรอยทางของเขา จากชีวิตหนอนผู้คืบคลาน สู่ผีเสื้อที่ขยับปีกอันแสนสวย ไม่ได้พยายามเป็นอย่างใครอื่น แต่พยายามเป็นอย่างที่ตนเองเป็นจริง เผยคุณค่าและความงามจากข้างในสู่ภายนอก ขณะที่เราใช้ชีวิต เพียงเพื่อพยายามจะเป็นคนอื่น เราอาจไม่มีวันได้พบความสุขแท้ได้เลยในปัจจุบัน หากเรารู้สึกว่าตนเองกำลังใช้ชีวิตและทำงานไปอย่างเหนื่อยล้าและเบื่อหน่าย เราอาจต้องกลับมาตั้งคำถามที่สำคัญแก่ตนเองได้แล้วว่า อะไรคือสิ่งที่เราควรจะริเริ่มเพื่อชีวิตอย่างที่ควรเป็นอย่างแท้จริง กว่าผีเสื้อจะเป็นผีเสื้อได้นั้น เขาจะต้องเป็นหนอนเสียก่อน คลานต้วมเตี้ยม เชื่องช้า ดูไม่มีวี่แววจะบินได้เลย การเริ่มต้นใหม่และการริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ของเราก็เช่นเดียวกัน เมื่อเราเริ่มต้นสิ่งใหม่ในชีวิตหรือกระทั่งเริ่มต้นชีวิตใหม่ เราอาจพบว่าสิ่งต่างๆ มันช่างเชื่องช้าไม่ได้ดั่งใจ อาจไม่มีวี่แววชัดเจนเลยว่าจะล้มเหลวหรือก้าวหน้าได้เพียงใด อาจมีคนคอยห่วงใยถามไถ่อยู่เรื่อยๆ ว่า จะไปรอดหรือไม่ ซึ่งแม้เสียงในใจเราเองก็อาจถามด้วย เมื่อริเริ่ม หัวใจเราอาจรวนเรกับความลังเลนับไม่ถ้วน มันอาจถ่วงให้เราช้าลง รอบคอบและระมัดระวัง ช้าเชื่องอยู่บ้างแต่ดีกว่าถาโถมเทหมดหน้าตัดจนพลาดพลั้ง แต่หนอนนั้นยังสอนเราอีกว่า แม้เขาจะช้าเพียงใด เขาก็ยังคลานต่อไป จากจุดหนึ่งที่เราอาจคิดว่าต้องใช้เวลานานกว่าไปถึงอีกจุด เมื่อละสายตาไปกลับมาอีกครั้งหนอนตัวนั้นก็อาจไปไกลแล้ว ช้าเหมือนเต่าในนิทานวิ่งแข่งกับกระต่าย เมื่อไม่ละความเพียรแล้ว ย่อมไปถึงจุดหมายได้สักวันหนึ่ง ในช่วงแรกของการเริ่มต้นนั้นย่อมช้าก่อนที่จะเร็ว ระหว่างที่เราทำมันอาจดูไกลจากเป้าหมายมากมาย แต่ขอให้เราระลึกไว้ว่า เราเองก็ไม่เห็นปีกของหนอนผีเสื้อ วันนี้ไม่มีใครเห็นปีกหรือความสำเร็จในตัวเราได้… Continue reading ยามผีเสื้อจะต้องเป็นผีเสื้อ เขาไม่อาจแบกดักแด้ไว้กับตัวได้อีกแล้ว

“มั่นคงจากข้างใน” ประจำปี 2568

  ฝึกทักษะที่ต้องมีเพื่อรับมือความไม่แน่นอนและสถานการณ์ที่ท้าทาย ในกิจกรรมหัวข้อ ” มั่ น ค ง จ า ก ข้ า ง ใ น “ ลดทุกข์จากสิ่งนอกตัว ด้วยการกลับมามั่นคงในตนเอง กิจกรรม “ห้องเรียน วิถีครู” รุ่นที่ 7 – บ่มเพาะครูภายในตน เรียนทักษะสำคัญเพื่อเป็นที่พึ่งแก่ตัวเองและผู้อื่น (เข้าเรียนได้ทุกอาชีพ) ⏰วันที่ 13 – 14 ธันวาคม 2568 รวมสองวัน เวลา 14.30 น. – 18.00 น. ออนไลน์ผ่าน Zoom … 🌼 ในกิจกรรมนี้ ผู้เข้าร่วมจะได้หาคำตอบเกี่ยวกับความมั่นคงของชีวิต การสร้างสมดุลภายในจิตใจ รับมือกับความเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน อิทธิพลจากปมในวัยเด็ก และการฝึกความมั่นคงในการรับมือกับสถานการณ์ที่ท้าทาย โดยใช้การเขียนใคร่ครวญ (Reflection Writing) การเขียนที่เน้นการรับรู้ทางกายและปรับกิริยา… Continue reading “มั่นคงจากข้างใน” ประจำปี 2568

กิจกรรมกับน้องๆ สถานพินิจฯปทุมธานี เดือนที่ 7/2568

  จัดกิจกรรมครั้งที่ 7 ให้กับน้องๆ สถานพินิจฯ ปทุมธานี โดยธีมครั้งนี้คือ “สมาธิและความมุ่งมั่น” เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 พร้อมมอบขนมและนมให้กับน้องๆ และทางสถานพินิจฯ สอนการมีสมาธิและความมุ่งมั่นตั้งใจในชีวิตด้วยกิจกรรมผ่านประสบการณ์ นำการเขียนภาวนามาอยู่ในรูปแบบกิจกรรม และสอนเขาถึงความตั้งใจไปสู่เป้าหมายของชีวิตผ่านกิจกรรมกลุ่มที่ต้องช่วยกันทำให้ถึงจุดหมายอย่างมีสมาธิ เมื่อพูดว่าวันนี้จะสอนสมาธิ เด็กบางคนก็เตรียมนั่งสมาธิ ก่อนที่ครูจะบอกว่าสมาธิไม่ใช่แค่การนั่งหลับตาเท่านั้น แต่สมาธิอยู่ในชีวิตของเรา เช่น ตอนเล่นเกม ตอนที่เราตั้งใจจนเหมือนนกับว่าโลกนี้เหลือแค่สิ่งเดียวเท่านั้น แทนที่เราจะเทศน์ธรรมะที่เป็นนามธรรมให้เขาฟัง เราใช้กิจกรรมเพื่อเขาเห็นรูปธรรมและเชื่อมโยงความเข้าใจในนามธรรมมากขึ้น กิจกรรมของเรามุ่งส่งเสริมให้เกิดการเห็นคุณค่าในตัวเองของน้องๆ ในสถานพินิจ ควบคู่กับการทบทวนชีวิตตนเองและการพัฒนาจิตใจ     ติดตามกิจกรรมของเรา ตารางกิจกรรม  

จบการอบรม “โอบกอดด้านมืดแห่งตัวตน” รุ่นที่ 10

  ความรู้สึกและสิ่งที่ผู้เรียนได้รับหลังเข้าร่วม “โอบกอดด้านมืดแห่งตัวตน” รุ่นที่ 10 🦋กิจกรรมออนไลน์ 6 คืน โดยครูโอเล่ และทีมงาน ขอบคุณทุกท่านที่มาโอบกอดตนเองและด้านมืดของกันและกัน เพื่อร่วมสร้างสรรค์ชีวิตและสังคมที่ดีมากขึ้น …”รู้สึกอึ้งกับหลาย​ ๆ​ อย่าง​ ที่ไม่คิดว่า​ ตัวเองก็เป็นอย่างนั้น” “ได้กลับมาคุยกับตัวเอง​ โอบกอดตัวเองและรับฟังเสียงหัวใจที่กำลังอยากบอก​เรามานาน แต่เราละเลยและปฏิเสธ​เขา” “ปกติเป็นสาย feeling มาก ประทับใจที่คุณครู เด็ดขาดและยึดหลักการค่ะ 5555 เพราะตรงข้ามกับตัวเอง และรู้สึกว่าหลายครั้งการที่เราติดอยู่ในวังวนความรู้สึก เราจะก้าวข้ามไปเห็น facts ไม่ได้ เหมือนได้ฝึกตกตะกอนในสภาวะแวดล้อมแบบใหม่ที่ไม่คุ้น ประทับใจค่ะ” “ได้เห็นเครื่องมือ tools ใหม่ๆ ในการตกตะกอนตัวเอง ปกติเขียนไดอารี่อยู่แล้ว และรู้จักตัวเองมานิดหน่อย แต่พอได้เรียน ก็เห็นว่าสิ่งที่เรายังไม่รู้ยังมีอีกมาก สิ่งที่เราไม่เคยได้ตั้งใจมองในตัวเองก็มีอีกมากกว่า ถ้ายิ่งตกตะกอนตัวเองได้ชัดเท่าไร เราน่าจะเป็นอิสระจากทุกข์มากเท่านั้น เบียดเบียนทั้งตัวเราและคนอื่นน้อยลง น่าจะมีความสุขมากขึ้นค่ะ (:” “เห็นภาพที่กว้างขึ้นในความทุกข์ในใจตัวเอง รู้สึกว่า ถ้าเราอยู่ในสภาวะที่ใจเป็นกลางพอ มองเห็นความจริงได้ในทุกด้าน เราจะเข้าใจตัวเอง เข้าใจความทุกข์ ความสุข ทั้งของตัวเองและคนอื่น… Continue reading จบการอบรม “โอบกอดด้านมืดแห่งตัวตน” รุ่นที่ 10

เมื่อประชาชนลืมศรัทธาของเกิดมาเป็นมนุษย์และศรัทธาของการฝึกตนเอง

  …หากเราหวังพึ่งพารัฐจอมพลังมากเกินไป เราอาจจะได้รัฐสังคมนิยมเผด็จการและรัฐมาเฟีย …หากเราหวังพึ่งพาบุคคลจอมพลังมากเกินไป เราอาจจะได้ศาลเตี้ยและลัทธิบูชาฮีโร่ …หากเราหวังพึ่งพาสถาบันทางจิตวิญญาณจอมพลังมากเกินไป เราอาจจะได้ยุคมืดแบบยุโรปหลายศตวรรษก่อน และสติปัญญาของประชาชนจะถูกขังอยู่ในกรงของศรัทธา . สิ่งที่เหมือนกันในสามอย่างนี้ คือการที่ประชาชนหลงลืมว่า ตนเป็นที่พึ่งแแห่งตน และเราทุกคนต่างมีส่วนรับผิดชอบต่อสังคม ความเป็นไปของการบริหารบ้านเมือง นักการเมือง บุคคลหรือสถาบันที่มีอำนาจในสังคม ต่างเป็นกระจกเงาสะท้อนจิตใต้สำนึกโดยรวมของประชาชนในสังคมนั้น …เพราะความโลภ โกรธ และหลงที่เรามี ต่างช่วยส่งเสริมให้นักการเมืองที่โลภ โกรธ และหลงแบบเดียวกันนั้นเข้ามาบริหารบ้านเมือง ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม และพวกเขาที่กุมอำนาจในสภาก็จะดำเนินงานไปตามความโลภ โกรธ และหลงแบบที่เราส่งเสริม นโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมจริงๆ ก็อาจไม่ถูกผลักดันเท่าที่ควร ถ้าขัดกับความเคยชินและความติดสบายของประชาชน ที่มิได้ฝึกขัดใจตนเองจากกิเลส เพราะเราก็จะไม่ได้ช่วยกันผลักดันนโยบายเหล่านั้น มากเท่ากับนโยบายแจกเงินหรือความสะดวกสบายชั่วคราว …ช่องว่างในจิตใจ การขาดความเคารพคุณค่าในตนเอง และความรู้สึกไร้อำนาจของประชาชน ต่างเป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้เกิดบุคคลจอมพลังและศาลเตี้ย ซึ่งแง่หนึ่งก็เหมือนเป็นกลไกตามธรรมชาติทื่เกิดขึ้นเพื่อถ่วงดุลความอยุติธรรมในสังคม แต่เมื่อประชาชนยกเอาคุณค่าของตนเองและความรู้สึกไร้อำนาจ ไปคาดหวังบุคคลสำคัญของคนในสังคมมากเกินไปแล้ว บุคคลสำคัญเหล่านั้นก็จะเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง กำหนดความผิดถูกหมุนรอบอัตตาตนและเสียงของแฟนคลับ กอบโกยผลประโยชน์จากชื่อเสียง ทำให้เงินและโอกาสไหลไปหาบุคคลบางกลุ่มมากเกินไป จนบั่นทอนโอกาสของประชาชน และเมื่อนั้นเราก็อาจบั่นทอนให้รัฐและกระบวนการยุติธรรมอ่อนแอลง เพราะรัฐและกระบวนการยุติธรรมก็จะหวังพึ่งพาบุคคลเหล่านี้ มากกว่าส่งเสริมการปฏิรูปตนเอง …การขาดความมั่นคงทางจิตใจ และความไม่สามารถยอมรับหรือจัดการกับความทุกข์ของชีวิตในจิตใจประชาชนนั้น ต่างเป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้สถาบันทางจิตวิญญาณเติบโตขึ้นเป็นจอมพลัง เมื่อนั้นความศรัทธาก็จะไหลทะลักเข้าไปในสถาบันเหล่านั้น และปล่อยให้พวกเขาสร้างอิทธิพลทางความคิดและค่านิยมในสังคม แต่ประชาชนจะหลงลืมศรัทธาที่สำคัญบางอย่างไป นั่นคึอศรัทธาของการเกิดมาเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน… Continue reading เมื่อประชาชนลืมศรัทธาของเกิดมาเป็นมนุษย์และศรัทธาของการฝึกตนเอง