บันทึกนักเขียนบำบัด “ฟังเสียงร่างกาย” ตอนที่ ๑

      บันทึกนักเขียนบำบัด “ฟังเสียงร่างกาย” ตอนที่ ๑ บทสนทนาและการดูแลตนเอง ในรอยต่อระหว่างการอบรม “เขียน = ปลดปล่อยชีวิต” และ “พลังแห่งจิต กึ่งออนไลน์” โดย สุพัตรา   อาจารย์… ชีวิตที่ต้องคอยพยายามพิสูจน์ตัวเองอยู่ตลอดนี่เหนื่อยมากเลยนะครับ ยิ่งต้องคอยอยู่กับคำตัดสินและคำสั่งโดยที่ไม่ได้ตอบโต้ก็ยิ่งเหมือนคอยแบกหินไปด้วย เหนื่อยอย่างนี้ความฝัน ความตั้งใจ และการเรียนรู้ก็พลอยถูกบั่นทอน ใจแบกรับหนักอึ้งก็ยิ่งเร่งเร้าร่างกาย ก็สะท้อนมาให้เราฟังผ่านอาการที่หน้าอกและหัว จะพอช้าลงและให้โอกาสร่างกายได้พูดเสียหน่อย ได้ไหมครับ เห็นร่างกายและจิตใจเราเสียพลังไปมากพอมีช่วงเวลาให้เราลองฟังร่างกายได้ไหมครับ ผมจะแนะนำดู _ลองนั่งหรือนอน หลับตา ผ่อนคลายความคิดความกังวลใดใด หายใจอยู่กับตนเองครู่หนึ่ง _กำหนดความรู้สึก ไล่ไปตามลำดับ จากเท้าสองข้าง / หัวเข่า / ก้น / ท้องน้อย / ท้อง / หน้าอก / ลำคอ / หน้าผาก / กลางศรีษะ แต่ละส่วนใช้เวลาครู่หนึ่ง ไปตามเสียงภายในของเรา… Continue reading บันทึกนักเขียนบำบัด “ฟังเสียงร่างกาย” ตอนที่ ๑

…ลูกช่วยปลดปล่อยเด็กน้อยในใจแม่…

  สวัสดีค่ะอาจารย์หลังจากที่เรียนกลับไปก็มีเรื่องราวบางอย่างที่ทำให้น่ายินดีมากเลยค่ะ ต้องเล่าก่อนเลยว่า หลังจากเรียนวันที่1 คืนนั้น น้อทตื่นมาตี2 และกำลังจะเคลิ้มหลับอีกครั้งปรากฏว่าเด็กน้อยประมาณวัยรุ่นตอนต้นก็โผล่ขึ้นมาในหัว เธอตะโกนโวยวายเรียกร้อง เธอพูดๆๆๆไม่หยุด เหมือนคับแค้น อัดอั้นนมานานมาก แล้วก็มีภาพซ้อนของการกินเร็วๆของตัวเองเข้ามา เพื่อเฉลิมฉลองความสุขที่ขาดหายไปนาน  อาการอัดอั้นคับแค้นใจมันทำให้ปวดแปล๊บที่อกข้างขวาเป็นระยะ น้อทรู้สึกเหนื่อยและเผลอหลับไป  เช้าตื่นขึ้นมาเรารับรู้ได้ว่าเด็กคนนั้นกำลังตัดพ้อเราด้วยที่เรามองข้ามเค้าไป แล้วก็ไปเรียนวันที่2 ด้วยอาการเจ็บอกเป็นระยะเช่นเดิม เรียนจบกลับมาก็ยังเป็นอยู่ มีอารมณ์กรุ่นๆเป็นพักๆ ที่ผ่านมาระยะหลังน้อทมีอาการอยากตะโกนอยากกรีดร้องออกมา อยากบอกเค้าว่า”อย่ามาทำ อย่ามาพูดกับฉันแบบนี้!!!!!”กับใครก็แล้วแต่ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนถูกล้ำเส้น จนเมื่อคืนนี้มันเหมือนตะกอนความโกรธอะไรก็ไม่รู้มันพุ่งขึ้นมาเหมือนเราแค้นใครอยู่แล้วเราทำอะไรเค้าไม่ได้ ลูกเข้ามาถูกจังหวะพอดี น้อทตะคอกใส่ลูก แล้วลูกก็แหงนหน้ามองด้วยแววตาที่เจ็บปวด มีภาพเด็กน้อยของเราซ้อนไปที่ลูก แล้วเขาก็เปร่งเสียงออกมาด้วยความเสียใจ เจ็บปวด คับแค้นข้องใจ “ทำไมผู้ใหญ่ต้องมาดุหนู ต้องมาไล่หนูด้วย!!!!!! ฮืออออ เสียงดังมาก  แต่น้อทรู้สึกโล่งอกเหมือนได้ปลดปล่อยจากการกระทำของลูก เด็กน้อยของน้อทกับลูก เหมือนเราได้พูดออกไปแล้วพร้อมๆ กัน  วินาทีนั้นเด็กน้อยของน้อทผ่อนคลายขึ้น ทันทีที่น้อทเห็นภาพซ้อนของตัวเองที่ลูก มันเป็นอัตโนมัติมาก น้อทรู้เลยว่าเด็กน้อยภายในและตรงหน้าต้องการคนกอด น้อทลูบหลังเค้า สงบโดยไม่พูดอะไร ปล่อยให้เค้าระบาย ร้องไห้ออกมา  ลูกน้อทและเด็กน้อยของน้อทกำลังร้องไห้ระบายและน้อทก็ได้กอดเค้าไว้ทั้งสองคน  ลูกน้อทสงบลง ตัวน้อทเองรู้สึกผ่อนคลายขึ้น  น้อทได้ดูแลลูกก็เปรียบเหมือนได้ดูแลเด็กน้อยของเราด้วยเช่นกัน วินาทีที่ลูกตะโกนถามน้อท มันเปรียบเหมือนเด็กน้อยของเราได้ตะโกนถามคนอื่นด้วยเช่นกัน มันเหมือนฉันทำได้ ฉันกล้าที่จะพูดออกไปแล้ว… Continue reading …ลูกช่วยปลดปล่อยเด็กน้อยในใจแม่…

สนทนากับเจ้าตัวเล็ก…เมื่อฉันอิจฉา…

  สนทนากับเจ้าตัวเล็ก…เด็กน้อยภายใน ตอน  …เมื่อฉันอิจฉา… โดย สุพัตรา   ฉัน : เด็กน้อยฉันมาแล้ว มาคุยกันเถอะ! เ ด็ ก น้ อ ย ภ า ย ใ น : ฉันก็มาแล้ว เย้! คิดถึงเธอจัง ฉัน : ฉันก็คิดถึงเธอ เ ด็ ก น้ อ ย ภ า ย ใ น : เธอเป็นอะไรรึปล่าว ? ฉัน : ปล่าว ฉันไม่เป็นไร แต่คือ…วันนี้ฉันรู้สึกอิจฉาเพื่อน  เ ด็ ก น้ อ ย ภ… Continue reading สนทนากับเจ้าตัวเล็ก…เมื่อฉันอิจฉา…

บันทึกกิจกรรมและความรู้สึกหลังการเรียน ## ปอง

บันทึกกิจกรรมและความรู้สึกหลังการเรียน ## ปอง หลักสูตร ห้องเรียนนักกล้าฝัน เดือนแรก     วันที่ 5 กันยายน 2558 หัวข้อ “พื้นที่ชีวิต ความปลอดภัย และ ความไว้วางใจ” โดย อ.อนุรักษ์ เม่นหรุ่ม ประสบการณ์และความรู้สึกหลังการเรียน   ประทับใจมาก เมื่อเทียบกับการเรียนกระบวนกรชั้นต้นในสถาบันอื่น กิจกรรมที่อ.โอเล่ให้ลองทำในวันแรกนี้ สัมผัสได้ถึงความตั้งใจที่จะฝึกฝนผู้เข้าร่วมให้เข้าใจในงานกระบวนกร และสร้างกระบวนการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์และการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ข้อสังเกต บทเรียน และ การประยุกต์ กิจกรรมที่ชื่นชอบมากที่สุดคงเป็นในส่วนของกิจกรรมกล้องถ่ายรูป แม้จะเป็นกิจกรรมเพียงสร้างความคุ้นเคยและยังไม่ได้สรุปมาก แต่สัญญาณร่างกาย ณ ขณะร่วมกิจกรรมให้ความรู้สึกของการปล่อยวาง การไว้วางใจ และที่รับรู้ได้ คือ ทุกครั้งที่เปิดตาจะเกิดความรู้สึก ละมุน wow! สัมผัสได้ถึงความใส่ใจในรายละเอียดของภาพที่เห็นมากขึ้น ทั้งๆที่ภาพเหล่านี้ก็เคยเห็นมาก่อนแล้ว นอกจากนี้ยังสัมผัสได้ถึงความใส่ใจในช่างภาพที่ตั้งใจสร้างภาพที่สวยงามให้กับผู้ชม การขมวดประเด็นที่ชื่นชอบจะเป็นเรื่องของการเขียนเพื่อทดสอบทิฐิปาทานในใจตนเอง สามารถมองเห็นว่าเรามีมากหรือ น้อย การสร้างหน้ากระดาษในส่วน “ฉันเคย ฉันมี และ ฉันเป็น” ที่ใหญ่จนแทบไม่เหลือพื้นที่รับความคิด “… Continue reading บันทึกกิจกรรมและความรู้สึกหลังการเรียน ## ปอง

บันทึกคุณป๋อง การอบรมเด็กน้อยภายใน ๒๕๕๘

บันทึกจากคุณป๋อง ผู้เข้าร่วมการอบรมเด็กน้อยภายใน ๒๕๕๘ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อ่านแล้วเห็นความเป็นเด็กน้อย ความกล้าที่จะรับฟังเขา และความเข้าใจที่แผ่ขยายมานอกพื้นที่หัวใจ ขอบคุณคุณป๋องที่อนุญาตแบ่งปันให้พวกเราได้อ่านครับ    

บันทึกบทเรียน เขียน = ปลดปล่อยชีวิต ๒๕๕๘

บันทึกบทเรียน คอร์สกึ่งออนไลน์  เขียน = ปลดปล่อยชีวิต ๒๕๕๘   ” ผมได้เขียนบันทึกทั้ง 2 ชุดไป นี้ ผมรู้สึกว่า ตัวเองเริ่มกลับมาเป็นตัวของตัวเองมาขึ้นครับ โดยเราเริ่มที่จะตัดสินใจทำในสิ่งที่ เราได้คิดถึงสิ่งที่จะส่งผลกระทบถึงตัวเองและเป้าหมายของตัวเองมากขึ้นครับ ซึ่งตอนนี้ผมเริ่มมองเห็นเป้าหมายในชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่เรารู้สึกว่าเราอยากทำ และจริงๆมันก็เป็นสิ่งที่เราฝันไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่เพราะเรามีความคิดที่ว่าเรื่องที่เราฝันนนั้นมันไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆจริงๆหรอก แต่ตอนนี้ผมเราสามารถเชื่องโยงสิ่งที่เราฝันนั้น ให้เป็นระบบมากขึ้นและเชื่อมโยงมันกับกลับประสบการณ์ใหม่ๆของเรา”   (วิสวะ  กาย ,  นักศึกษา)   ” โลกภายในของเธอนั้นช่างยิ่งใหญ่เกินคาดเดาได้ และการเดินทางครั้งนี้ก็ไม่รู้ได้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด การเดินทางยังคงดำเนินต่อไป ถ้าหากหัวใจเธอยังเรียกร้อง เธอก็ยังคงสรรค์สร้างหนทางสู่โลกภายในของเธอต่อไป และด้วยบทสนทนาแห่งชีวิต ที่จะนำพาเธอไปพบความมหัศจรรย์ และความยิ่งใหญ่ของชีวิตต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แล้วสักวันหนึ่งเธอทุกคนจะเข้าใจชีวิต…ชีวิตที่แท้จริงของเธอเอง ……………………………………………………………………………………………. ขอบคุณคุณครูโอเล่สำหรับการเรียนรู้ร่วมกันในครั้งนี้ ครูผู้บุกเบิกและนำทางการเดินทางสู่โลกภายใน คอยให้คำแนะนำและกำลังใจ การเรียนรู้ครั้งนี้มีคุณค่าและทรงพลังมาก อย่างน้อยก็เป็นก้าวแรกของความกล้าหาญ ที่เราจะได้ก้าวเข้าไปสำรวจโลกภายในของเรา และได้ทำความรู้จักตัวเราที่แท้จริงอีกครั้ง   สุดท้าย…ครูเป็นเพียงผู้นำทาง แต่เราเองจะต้องเป็นผู้ก้าวเดินต่อไปอย่างกล้าหาญ”   (ชาญชัย , พนักงานบริษัท)   ”… Continue reading บันทึกบทเรียน เขียน = ปลดปล่อยชีวิต ๒๕๕๘

บันทึกบทเรียนอบรม ๖ เดือนผู้ต้องขังเรือนจำ ๒๕๕๘

บันทึกบทเรียนอบรม ๖ เดือนผู้ต้องขังเรือนจำ ๒๕๕๘   การเขียนบำบัดและจิตปัญญาพัฒนาชีวิต ณ เรือนจำสมุทรปราการ แดนหญิง แก่ผู้ต้องขังและผู้ติดเชื้อภูมิคุ้มกันบกพร่อง เรียนรู้จักตนและเพื่อน ความไว้วางใจ ทักษะชีวิต และคุณค่าของตน   ชมภาพทั้งหมดได้ที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.901582619907106.1073741856.205984142800294&type=3&uploaded=19  

รวมสรุปการเรียนรู้ การอบรม เขียนค้นพบตัวเอง ๒๕๕๘

รวมบทเรียนการเรียนจักตนและการเรียนรู้ จากการอบรมกึ่งออนไลน์ “เขียน = ค้นพบตัวเอง”   ดาวน์โหลดได้ที่ http://www.ebooks.in.th/ebook/32504/รวมบทเรียนการเรียนจักตนและการเรียนรู้_%22เขียน_=_ค้นพบตัวเอง%22_๒๕๕๘/   คุณหญิง อาชีพ พยาบาล “กลับมาเห็นความสำคัญของด้านตรงข้ามที่อยู่ในตัวเรา ที่จะช่วยให้เราได้ปรับใช้กับบางสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมค่ะ ทุกสิ่งอย่างเป็นการเรียนรู้และช่วยให้เราเติบโตได้จริงๆค่ะ เพียงแต่เรามีสติกับสิ่งเหล่านั้นหรือไม่ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ ที่ช่วยเตือนให้มีสติกลับมา และบ่งบอกว่าต้องเจริญสติให้มากขึ้น สิ่งหนึ่งที่ก้าวข้ามขอบของตัวเอง คือการยอมรับและเปิดเผยตัวตน โดยเฉพาะด้านร้ายของตัวเอง ก้าวข้ามความกลัวจากการปรุงแต่งไปล่วงหน้า ยอมรับการเสียหน้า ความผิดพลาด และล้มเหลว (แต่ยังทำได้ไม่ดี เพียงแค่คิดว่า ไม่ใช่ปัญหา…แต่คือการเรียนรู้) ”   คุณปวี อาชีพ วิศวกร “ผมคิดว่าหลังจากจบหลักสูตรนี้แล้ว ผมจะใช้เวลาครุ่นคิดเกี่ยวกับตัวเองให้น้อยลงนะครับ เพราะรู้สึกเลยว่าลึกๆแล้วตัวเองอยากจะลงมือทำแล้ว รู้สึกว่าคิดทบทวนเรื่องตัวเองโดยไม่ได้ทำอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรมมานานเกินพอละ และก็จะพยายามมองหาความสุขรอบๆตัวให้มากขึ้น อยากที่จะตื่นขึ้นมาทุกวันโดยรู้ตัวว่าวันนี้เราอยากทำอะไร ไม่ใช่ว่าตื่นมาพร้อมกับความเบื่อหน่ายที่ว่าวันนี้เรามีสิ่งที่ไม่อยากทำ แล้วมานั่งคิดถึงสิ่งที่อยากจะเป็นในวันพรุ่งนี้ บางทีแล้ว เราอาจจะได้มาซึ่งสิ่งที่เราต้องการได้ โดยที่เราไม่ต้องแก้ไขอะไรมากมายเลยก็ได้”   คุณกอบกุล  อาชีพ แม่บ้าน ” การบันทึก เป็นสิ่ง มหัศจรรย์ทำให้เรา เจอปม อะไรบางอย่าง… Continue reading รวมสรุปการเรียนรู้ การอบรม เขียนค้นพบตัวเอง ๒๕๕๘

มองโลกมุมใหม่ผ่านใจตากล้อง

มองโลกมุมใหม่ผ่านใจตากล้อง คุณแวว วิภา สุขพรสวรรค์ งานเขียนต่อยอดจากบันทึกการอบรม “เขียน = ค้นพบตัวเอง”     20 ธ.ค. 2545  เป็นอีกวันหนึ่งที่คงจะอยู่ในความทรงจำของฉันไปอีกนาน  วันนั้นเป็นวันที่ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างโรงแยกก๊าซและท่อส่งก๊าซไทยมาเลย์นัดหมายเดินทางไปยื่นข้อเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีที่สัญจรมาประชุมที่หาดใหญ่ทบทวนโครงการดังกล่าว ฉันเคยมีประสบการณ์เข้าร่วมการชุมนุมเพื่อเรียกร้องสิทธิในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของประชาชนในท้องถิ่นต่างๆ  ทั้งในฐานะผู้สังเกตการณ์และในฐานะผู้เกี่ยวข้องโดยตรง  ฉันจึงเข้าใจความรู้สึกเจ็บปวดและคับแค้นใจของประชาชนที่ถูกแย่งชิงทรัพยากรจากผู้มีอำนาจโดยไม่เป็นธรรม   ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจทำให้ฉันพร้อมที่จะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปด้วยกัน ก่อนหน้านี้เคยมีการจัดทำประชาพิจารณ์โครงการนี้มาแล้วถึงสองครั้ง  และจบลงด้วยการที่ชาวบ้านล้มเวทีทุกครั้ง  ทั้งนี้เนื่องจากชาวบ้านมีความเชื่อว่าการจัดประชาพิจารณ์ดังกล่าว  จะเป็นเพียงการสร้างความชอบธรรมให้กับโครงการมากกว่าการรับฟังเสียงประชาชนอย่างแท้จริง   ฉันเองได้ช่วยถ่ายวีดีโอทั้งสองครั้ง  ครั้งนี้เพื่อนจึงโทรมาขอให้ช่วยถ่ายวีดีโอให้อีก  แต่เพราะมีงานที่นัดหมายล่วงหน้าแล้วจึงปฏิเสธ  แต่ตกลงจะให้เพื่อนยืมกล้องไปถ่ายเอง  บังเอิญวันนั้นมีนักพัฒนารุ่นน้องสองคนที่มาช่วยงานอยากไปร่วมชุมนุมด้วย  ฉันจึงตัดสินใจขับรถไปส่งและถือโอกาสเอากล้องวีดีโอให้เพื่อน  ตั้งใจว่า เมื่อเสร็จภารกิจแล้วจะเดินทางกลับบ้านทันที   เราถึงหาดใหญ่ก่อนเวลานัดหมาย  จึงรับรุ่นพี่อีกคนเพื่อไปกินข้าว  แต่ยังไม่ทันได้กินก็มีโทรศัพท์จากเพื่อนบอกว่า  ตอนนี้ตำรวจตั้งด่านสกัดไม่ให้ชาวบ้านเดินทางเข้ามาในหาดใหญ่  ด้วยความเป็นห่วงพวกเราจึงขับรถไปยังจุดดังกล่าว  แต่เลือกเส้นทางลัดเนื่องจากคาดว่าเส้นทางปกติคงมีตำรวจสกัดอยู่  เมื่อไปได้ราวครึ่งทางเพื่อนโทรมาบอกว่าตำรวจยอมเปิดเส้นทางแล้ว  ชาวบ้านกำลังเดินทางเข้าหาดใหญ่ให้พวกเราไปรอที่ทางเข้าโรงแรมซึ่งนายกฯ และคณะรัฐมนตรีพัก  เรารีบกลับมายังจุดนัดหมาย  ฉันตัดสินใจจอดรถห่างจากจุดนัดหมายราวสองร้อยเมตร  เพราะเห็นว่าเริ่มมีรถยนต์จอดหลายคัน  หากไปด้านหน้าแล้วไม่มีที่ว่างจะต้องขับรถเวียนหาที่จอดทำให้เสียเวลามากขึ้น  เมื่อพวกเราทั้งสี่คนเดินไปถึงก็พบว่ามีตำรวจนับสิบนายใช้แผงเหล็กกั้นปิดเส้นทางเข้าโรงแรม  พวกเราจึงรอดูสถานการณ์อยู่ในบริเวณนั้น กว่าขบวนรถของชาวบ้านจะมาถึงก็เกือบสองทุ่ม  เมื่อเจอแผงกั้นขบวนจึงหยุดรอให้แกนนำชาวบ้านและ นักพัฒนาเจรจากับตำรวจเพื่อขอให้เปิดเส้นทาง  ระหว่างรอการเจรจาชาวบ้านบางส่วนนั่งลงกินข้าว  บ้างก็ทำละหมาด บางส่วนก็ยืนจับกลุ่มติดตามสถานการณ์… Continue reading มองโลกมุมใหม่ผ่านใจตากล้อง

“แสงสว่างกลางวิกฤต” คุณนก

“แสงสว่างกลางวิกฤต” คุณนก ปุณณมา ศิริพันธ์โนน งานเขียนต่อยอดจากการอบรม “เขียน = ค้นพบตัวเอง”   ในหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นอีกอาทิตย์หนึ่งที่รู้สึกถึงการเข้าใกล้วิกฤตของชีวิต การได้เห็นความเจ็บป่วยของแม่ที่ทรุดลงอย่างต่อเนื่อง และการซ้ำเติมความเจ็บป่วยด้วยอุบัติเหตุล้มหัวฟาดของแม่ ภาพของแม่ที่ไร้เรี่ยวแรง มึนงง ตอบสนองช้า … มันเป็นภาพที่น่าหดหู่อย่างบอกไม่ถูก ที่ผ่านมาแม้จะรับรู้ภาวะโรคร้ายที่ปรากฎแต่ด้วยสภาพร่างกายทั่วไปภายนอกที่ดูปกติ มันทำให้เชื่อเสมอว่าแม่ยังไหว ไม่ว่าจะอยู่ในระยะที่ใครๆเค้าว่านี่คือระยะสุดท้ายแล้ว แต่ภาพที่เห็นแม่ยังทานข้าวได้ ยังอยากทานนู่นทานนี่ ยังมีความพยายามดั้นด้นลากจูงพ่อไปตระเวณตามใจปาก มันทำให้มีความหวังและรู้สึกว่าแม่แค่ผู้หญิงไม่มีผม … จากวันนั้นถึงวันนี้สามปีผ่านไป แม่อยู่ในภาวะไม่มีผม สลับกับมีผม และยังคงตระเวณหาของกินที่เห็นในรายการทีวี แต่แล้วสองเดือนที่ผ่านมาภาวะอยากอาหาร หายไป แม่ปวดท้องตลอด ทานได้น้อยลงเรื่อยๆ จนแทบจะไม่ทานเพราะกลัวคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง … สัญญาณบางอย่างปรากฎในใจ ความไม่เที่ยง … ในที่สุดสิ่งที่กลัวก็เป็นจริง โรคร้ายลุกลาม ความใจสู้ของแม่ลดลง แม่ที่อยากทานนู่นทานนี่หายไป เหลือแต่ผู้หญิงที่ผ่ายผอม ไร้เรี่ยวแรง นอนซม แล้วหมอก็ตัดสินใจให้เคมีบำบัดรอบที่สาม ร่างกายไม่พร้อมเหมือนครั้งก่อนๆ เพียงเข็มที่สองก็อยู่ในสภาพทรมาน ต้องกินยาแก้ปวดและยานอนหลับ … แม่เบลอ เชื่องช้า … และในที่สุดก็เกิดเหตุ… Continue reading “แสงสว่างกลางวิกฤต” คุณนก