“แสงสว่างกลางวิกฤต” คุณนก ปุณณมา ศิริพันธ์โนน งานเขียนต่อยอดจากการอบรม “เขียน = ค้นพบตัวเอง” ในหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นอีกอาทิตย์หนึ่งที่รู้สึกถึงการเข้าใกล้วิกฤตของชีวิต การได้เห็นความเจ็บป่วยของแม่ที่ทรุดลงอย่างต่อเนื่อง และการซ้ำเติมความเจ็บป่วยด้วยอุบัติเหตุล้มหัวฟาดของแม่ ภาพของแม่ที่ไร้เรี่ยวแรง มึนงง ตอบสนองช้า … มันเป็นภาพที่น่าหดหู่อย่างบอกไม่ถูก ที่ผ่านมาแม้จะรับรู้ภาวะโรคร้ายที่ปรากฎแต่ด้วยสภาพร่างกายทั่วไปภายนอกที่ดูปกติ มันทำให้เชื่อเสมอว่าแม่ยังไหว ไม่ว่าจะอยู่ในระยะที่ใครๆเค้าว่านี่คือระยะสุดท้ายแล้ว แต่ภาพที่เห็นแม่ยังทานข้าวได้ ยังอยากทานนู่นทานนี่ ยังมีความพยายามดั้นด้นลากจูงพ่อไปตระเวณตามใจปาก มันทำให้มีความหวังและรู้สึกว่าแม่แค่ผู้หญิงไม่มีผม … จากวันนั้นถึงวันนี้สามปีผ่านไป แม่อยู่ในภาวะไม่มีผม สลับกับมีผม และยังคงตระเวณหาของกินที่เห็นในรายการทีวี แต่แล้วสองเดือนที่ผ่านมาภาวะอยากอาหาร หายไป แม่ปวดท้องตลอด ทานได้น้อยลงเรื่อยๆ จนแทบจะไม่ทานเพราะกลัวคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง … สัญญาณบางอย่างปรากฎในใจ ความไม่เที่ยง … ในที่สุดสิ่งที่กลัวก็เป็นจริง โรคร้ายลุกลาม ความใจสู้ของแม่ลดลง แม่ที่อยากทานนู่นทานนี่หายไป เหลือแต่ผู้หญิงที่ผ่ายผอม ไร้เรี่ยวแรง นอนซม แล้วหมอก็ตัดสินใจให้เคมีบำบัดรอบที่สาม ร่างกายไม่พร้อมเหมือนครั้งก่อนๆ เพียงเข็มที่สองก็อยู่ในสภาพทรมาน ต้องกินยาแก้ปวดและยานอนหลับ … แม่เบลอ เชื่องช้า … และในที่สุดก็เกิดเหตุ… Continue reading “แสงสว่างกลางวิกฤต” คุณนก
Author: admin
ของขวัญที่ให้…โดย ครูนิตย์
ของขวัญที่ให้…โดย ครูนิตย์ ธรรมนนท์ กิจติเวชกุล งานเขียนต่อยอดจากการอบรม “เขียน = ค้นพบตัวเอง” ในเส้นทางการเดินทางของชีวิต ฉันเคยยึดมั่นธรรมเนียมของการซื้อของฝาก การส่งการ์ดในวาระสำคัญของชีวิต การแลกเปลี่ยนของขวัญกับคนที่เจอะเจอกัน แม้ในหลายปีที่ผ่านมาของขวัญ ของฝากที่เป็นวัตถุจางหายไปทั้งในฐานะของผู้ให้และผู้รับ แต่ฉันเชื่อว่าการมอบของขวัญยังคงมีเสมอในทุกวันของชีวิต ในวันนี้ที่ฉันเดินทางมาถึงวัยกลางคน น่าจะเป็นจุดสำคัญในการทบทวนว่าของขวัญที่ให้มันมีคุณค่าหรือความหมายต่อชีวิตของคนๆหนึ่งและผู้คนที่เกี่ยวข้องด้วยอย่างไร และอะไรคือของขวัญที่คนเล็กๆคนหนึ่งได้นำมาสู่โลกใบนี้ หลายปีก่อนเจอข้าราชการป่าไม้คนหนึ่งเดินมาทักทาย ว่าเป็นรุ่นน้องและจำได้ว่าได้รับของฝากที่ระลึกหลังจากฉันกลับจากญี่ปุ่น เขารู้สึกดีใจ ปลื้มใจมาก ฉันเองก็ปลื้มใจว่าของเล็กน้อยที่นำมาฝากผู้คนหลังเดินทางไกลยังอยู่ในความทรงจำของคนบางคน และนี่คงเป็นคุณค่าหนึ่งของของขวัญ คือการรับรู้ว่าการให้ยังคงมีความหมายในโลกใบนี้ ฉันมักให้ของขวัญกับคนที่พบเจอในช่วงเวลานั้นๆของชีวิต เมื่อถามตัวเองว่า เราหลงลืมผู้คนไปมากมายหรือ ความสัมพันธ์ที่ผ่านมามีความหมายต่อชีวิตหรือไม่ แล้วมิตรภาพที่แท้จริงควรเป็นอย่างไร การเก็บรักษามิตรภาพและความสัมพันธ์ของเราคือการสื่อสารหรือของขวัญที่ต่อเนื่องและสม่ำเสมอหรือ สำหรับบางคนมันอาจเป็นเช่นนั้น น่าแปลกที่ฉันมักหลงลืมผู้คนที่เคยพานพบบนเส้นทางชีวิต แม้หลายคนยังคงอยู่ในความทรงจำ อาจไม่มีของขวัญสม่ำเสมอเมื่อยามไกลกัน แต่ฉันมั่นใจว่า “ฉันไม่ทำร้ายใคร” “ฉันพร้อมรับฟังไม่ว่าอยู่ตรงไหน” ของขวัญหรือของที่ระลึกมอบออกไปมีความหมายเสมอในความสัมพันธ์ ณ ปัจจุบันขณะ แต่ที่ยิ่งใหญ่กว่าคือเมื่อเราอยู่ด้วยกัน นั่นคือเวลาที่เป็นของขวัญแก่กันที่ยิ่งใหญ่ ของขวัญที่ส่งไปบางชิ้นเพื่อบอกถึงการให้อภัยในทุกสิ่ง ฉันเรียนรู้ที่จะพอใจสิ่งที่ให้ หรือแม้กระทั่งการไม่ให้ก็คือการให้ เรียนรู้ที่จะยอมจำนนต่อสิ่งที่กำหนดไม่ได้ มีความศิโรราบต่อความถือตน ได้บ่มเพาะศรัทธาว่าสิ่งที่ให้ไปมันจะเป็นประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ ฉันจะไม่มีวันขาดแคลน และเมื่อเป็นผู้ให้ฉันได้รับยิ่งกว่าใคร นอกจากนั้นฉันยังได้เรียนรู้ที่จะให้ความสำคัญกับการเติบโตและการกลับสู่สมดุล เรียนรู้ที่จะรักและกรุณาต่อตนเอง… Continue reading ของขวัญที่ให้…โดย ครูนิตย์
กระบวนการบันทึกร่วมกับการออกกำลังกายต่อเนื่อง ๒๑ วัน
ผลการศึกษาทดลองของศูนย์การเขียนเปลี่ยนชีวิต โครงการธรรมวรรณศิลป์ www.youngawakening.org/write4life , facebook.com/write4life กระบวนการบันทึกร่วมกับการออกกำลังกายต่อเนื่อง ๒๑ วัน (มกราคม ๒๕๕๘) การทดลองใช้การวิ่งจ็อกกิ้ง ๑๕ นาทีขึ้นไป และกระบวนการบันทึกหลังจากพักเหนื่อย เป็นเวลา ๑๐ นาทีขึ้นไป การศึกษาทดลองพบว่า ระยะทางที่ได้จากการวัดการวิ่งมีแนวโน้มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง การบันทึกช่วยกำกับดูแลวินัยและสร้างเจตจำนงมุ่งมั่นเพียรพยายาม เวลาที่ใช้ออกกำลังกายมีแนวโน้มมากขึ้นอย่างสมัครใจ เมื่อประกอบกับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจหลังกระบวนการบันทึกพบว่า แนวโน้มอัตราการเต้นของหัวใจปรับตัวลงอยู่ในระดับสมดุล สอดคล้องการศึกษาวิจัยก่อนหน้าของ ดร. เจม เพนเนบาเกอร์ที่พบว่าการเขียนช่วยให้ร่างกายปรับสู่สมดุลภาวะ ทางโครงการฯ ยังได้ทดลองศึกษาเพิ่มเติม พบว่า หลังกระบวนการบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจปรับลดลงมา จากก่อนกระบวนการบันทึก ทั้งนี้ยังเป็นหนึ่งการทดลองศึกษาของโครงการฯ จะยังต้องมีการศึกษาต่อเนื่องในลำดับต่อไป สามารถติดตามผ่านสื่อของโครงการฯ
“สวนโมกข์กลางใจ” คุณแวว วิภา สุขพรสวรรค์
“สวนโมกข์กลางใจ” คุณแวว วิภา สุขพรสวรรค์ งานเขียนต่อยอดจากบันทึกการอบรม “เขียน = ค้นพบตัวเอง” ในชีวิตฉันมีสถานที่ที่ชอบและประทับใจอยู่มากมาย แต่คงไม่มีสถานที่แห่งไหนที่จะสะท้อนการเติบโตของตัวฉันในแต่ละช่วงของชีวิตได้ดีเท่าที่แห่งนี้… “สวนโมกขพลาราม” ฉันรู้จักสวนโมกข์ครั้งแรกเมื่อสมัยเรียนระดับมหาวิทยาลัย ตอนนั้นอาจารย์ท่านหนึ่งที่ฉันรักและเคารพมาก ท่านเห็นว่าการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยยังคับแคบอยู่มาก ด้วยความปรารถนาดีไม่อยากให้ลูกศิษย์เป็นกบในกะลา อาจารย์จึงได้นิมนต์หลวงพี่ประชา เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในฐานะคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่สนใจงานด้านศาสนากับการพัฒนา จำได้ว่าสิ่งที่ท่านกล่าวเป็นสิ่งใหม่และน่าสนใจมาก แต่กบก็ยังเป็นกบ แม้จะมีคนเปิดกะลาให้ได้เห็นท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ ก็ยังไม่กล้าที่จะก้าวออกไปเรียนรู้ในทันที เพราะในเวลานั้นยังมีช่องว่างของประสบการณ์และความเข้าใจชีวิตอยู่มาก ยังไม่รู้จักโลกภายนอกมหาวิทยาลัยสักเท่าใด แต่หลวงพี่ก็กรุณามากที่ชวนพวกเราไปเยี่ยมท่านที่สวนโมกข์ อาศัยว่ามีเพื่อนคนหนึ่งที่มีศรัทธาปสาทะในพุทธศาสนาอยู่บ้างได้ชวนโบกรถไปด้วยกัน ฉันจึงได้รู้จักและเยียบยืนบนแผ่นดินธรรมที่ชื่อว่า สวนโมกขพลารามเป็นครั้งแรกในชีวิต เมื่อหลายสิบปีก่อน สวนโมกข์เป็นวัดป่าที่ยังไม่ได้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างทุกวันนี้ คนที่มานอกจากญาติโยมรอบวัดแล้วก็มีแต่ลูกศิษย์ลูกหาและผู้ที่ศรัทธาท่านพุทธทาส บรรยากาศภายในวัดจึงค่อนข้างเงียบสงบมาก มีเพียงช่วงเวลาทำวัตรเช้าเย็นที่พระภิกษุ แม่ชี และผู้มาพักได้มาสวดมนต์ร่วมกันที่อุโบสถกลางแจ้งที่เรียกว่า ลานหินโค้ง นอกจากนั้นทุกคนจะแยกย้ายกันทำกิจและศึกษาธรรมะในกุฏิหรือที่พัก ในเวลาที่พวกเราเดินขึ้นเขาพุทธทองก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เงียบสงัด มีเพียงเสียงกิ่งไม้ใบไม้เสียดสีลู่ลมและเสียงหรีดหริ่งเรไรระงมตลอดเส้นทาง ทำให้รู้สึกเย็นเยียบและวังเวงพิกล ภาพปริศนาธรรมบางภาพที่อยู่ภายในโรงมหรสพทางวิญญานก็ดูเข้าใจยากและน่ากลัวจนไม่กล้าเดินคนเดียว ถึงกระนั้นฉันก็ยังชอบสวนโมกข์เพราะความสงบร่มรื่น ไม่มีโบสถ์วิหารอลังการเหมือนวัดทั่วไป ได้สวดมนต์แปลเป็นครั้งแรกในชีวิต ได้ฟังเทศน์สอนธรรมด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายๆ ได้นั่งเงียบๆอยู่กับตัวเองริมสระนาฬิเกร์ ได้กินข้าวก้นบาตร แม้จะรู้จักสวนโมกข์เพียงผิวเผินในระยะเวลาสั้นๆ แต่โดยรวมฉันประทับใจและรู้สึกดีกับสถานที่แห่งนี้ ผ่านไปหลายปีฉันได้กลับมาสวนโมกข์อีกครั้งในฐานะผู้เข้าอบรมอานาปานสติ การอบรมในครั้งนี้จัดให้กับนักพัฒนารุ่นใหม่ เพื่อให้นำอานาปานสติมาพัฒนาตนเองและเพิ่มศักยภาพในการทำงาน ในขณะนั้นฉันเพิ่งทำงานได้ไม่นานนัก กำลังสนุกกับการทำงานในพื้นที่และมีความเชื่อมั่นว่าตนเองมีความสามารถที่จะแก้ปัญหาความทุกข์ยากของคนที่ด้อยโอกาสได้ ตอนนั้นมีทั้งความหลงตัวเอง… Continue reading “สวนโมกข์กลางใจ” คุณแวว วิภา สุขพรสวรรค์
” ความรักของดาวลูกไก่ ” คุณนก ปุณณมา ศิริพันธ์โนน
” ความรักของดาวลูกไก่ “ คุณนก ปุณณมา ศิริพันธ์โนน / งานเขียนต่อยอดการอบรมเขียน = ค้นพบตัวเอง รับวันแห่งความรัก ในบรรยากาศของวันแห่งความรักที่มีกลิ่นไอความรักอบอวลไปทั่วโลกออนไลน์ มีความสุขสดชื่นในความรักที่มอบแก่กันและกัน ในบรรยากาศนี้ทำให้ฉันย้อนระลึกถึงเรื่องราวความรักในตำนานแห่งดวงดาวเรื่องหนึ่งที่ได้ยินได้ฟังมาแต่เด็กเรื่องราวของดาวลูกไก่นั่นเอง …เรื่องราวของตำนานนี้เป็นความรักในรูปแบบที่แตกต่างจากความรักที่ผู้คนให้ความสนใจในวันแห่งความรักเป็นความรักที่พร้อมจะให้และสละออก เพื่อให้คนที่รักมีความสุข เป็นความรักที่ไม่ต้องการการครอบครองลองมาย้อนเรื่องราวความรักของดาวลูกไก่กันอีกสักครั้งในแบบฉบับที่คุณอาจจะคาดไม่ถึง ในตำนานเล่าว่ามีตายายคู่หนึ่งอาศัยอยู่ชายป่า ตายายเลี้ยงแม่ไก่ไว้ตัวหนึ่ง ซึ่งต่อมาออกไข่และฟักออกมาเป็นลูกไก่ตัวน้อย 7 ตัว ตายายจึงคอยเลี้ยงดูให้อาหารแม่ไก่และลูกๆด้วยความเมตตา ในคราวหนึ่งมีเหยี่ยวบินโฉบมา หมายจะจับเอามาไก่และลูกไก่ไปเป็นอาหาร ตายายมาเห็นเข้าจึงคว้าไม้ไปไล่เหยี่ยว ช่วยให้แม่ไก่และลูกปลอดภัย แม่ไก่จึงยิ่งซาบซึ้งใจและสำนึกในบุญคุญของตายายเป็นอย่างมาก … อยู่มาวันหนึ่งมีพระธุดงค์องค์หนึ่งมาปักกลดอยู่ที่เชิงเขา ตายายเห็นว่าในละแวกนั้นมีเพียงบ้านของตายาย จึงเกิดความเป็นห่วงว่าพระธุดงค์จะไม่มีใครถวายภัตตาหาร แต่เมื่อค้นดูเสบียงอาหารในครัว ก็เห็นว่าไม่มีสิ่งใดเหลือเลย พืชผักที่ปลูกไว้ก็เหี่ยวแห้งเพราะอากาศแล้ง ตายายจึงปรึกษากันว่าคงจะต้องฆ่าแม่ไก่มาเพื่อปรุงอาหารถวายพระ แม่ไก่บังเอิญมาได้ยินเรื่องราวจึงตัดสินที่จะยอมสละชีวิตตน เพื่อตอบแทนบุญคุญตายายที่ชุบเลี้ยงและปกป้องมาตลอด แม่ไก่จึงเรียกลูกทั้งเจ็ดมาล่ำลาสั่งเสียให้ลูกๆรักใคร่ปรองดอง ดูแลกันและกัน พอรุ่งเช้าตาจึงเชือดแม่ไก่เพื่อให้ยายปรุงอาหาร ขณะที่ยายกำลังก่อเตาไฟเพื่อปรุงอาหาร เจ้าลูกไก่ทั้งเจ็ดต่างวิ่งเข้ามาดูร่างอันไร้วิญญาณของแม่เป็นครั้งสุดท้าย ยิ่งได้เห็น ลูกไก่ทั้งเจ็ดยิ่งเศร้าโศกเสียใจร่ำไห้คิดถึงแม่ที่จากไปน้ำตาแทบเป็นสายเลือด ลูกไก่ตัวน้อยตัวหนึ่งตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว แล้วหันไปบอกพี่ๆว่า ฉันทนอยู่ต่อไปโดยไม่มีแม่ไม่ได้ ฉันไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ หากขาดแม่ที่ฉันรัก ฉันจะโดดเข้ากองไฟตายตามแม่ไป … แต่แล้วเจ้าพี่ใหญ่ก็เข้าห้ามและปลอบใจน้องน้อยว่า น้องเอ่ย… Continue reading ” ความรักของดาวลูกไก่ ” คุณนก ปุณณมา ศิริพันธ์โนน
รายชื่อเยาวชนที่ได้รับรางวัล ธรรมวรรณศิลป์ ประจำปี ๒๕๕๗ – ๒๕๕๘
รายชื่อเยาวชนที่ได้รับรางวัล ธรรมวรรณศิลป์ ประจำปี ๒๕๕๗ – ๒๕๕๘ ในหัวข้อ “ความทุกข์กับชีวิตของฉัน” โดย โครงการธรรมวรรณศิลป์ สถาบันยุวโพธิชน การประกวดในครั้งที่ ๗ ของโครงการฯ เราได้เปลี่ยนแปลงกระบวนการเพื่อเน้นย้ำเป้าหมาย ไม่ใช่การแข่งขันเพื่อรางวัลเพียงอย่างเดียว แต่มุ่งหมายเป็นกระบวนการใคร่ครวญตนของผู้ส่งงานและเพื่อสร้างสรรค์วรรณศิลป์ชนิดที่งอกงามจากจิตใจ ด้วยการประกาศการประกวดงานเขียนที่ไม่มีรางวัลเป็นทุนการศึกษาส่วนตัว ผลงานที่ส่งเข้าร่วมประจำปีนี้จึงลดน้อยกว่าปีก่อนๆ ที่ผ่านมา ซึ่งเดิมมีจำนวนมากกว่า ๘๐๐ ชิ้นงาน แต่เราถือว่านี่เป็นกระบวนการคัดเลือกเยาวชนที่จะเข้าร่วมโครงการฯอีกทางหนึ่งด้วย ทางเรารู้สึกชื่นชมเยาวชนคนหนึ่งที่ส่งผลงานไม่ทัน แต่ได้เล่าให้ทางเราฟังว่า “ขอขอบคุณที่มีโครงการดีๆแบบนี้ขึ้นมา เพื่อให้หนูได้เรียบเรียงความ คิดหาตัวเองอย่างจริงจัง ว่าความทุกข์ในชีวิตหนูเกิดจากอะไร ตอนนี้หนูได้คำตอบแล้วค่ะ แม้ว่าจะไม่ได้รางวัล แต่โครงการนี้ ทำให้หนูได้ค้นพบตัวเอง และเข้าใกล้เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ไปอีกก้าวหนึ่ง ขอขอบคุณจริงๆค่ะ ” (นางสาวณัฐฐิกา คุ้มสี, โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย พิษณุโลก) แม้เยาวชนคนนี้ไม่ได้รับรางวัล ทางเราถือว่าได้บรรลุเป้าหมายของกิจกรรมนี้แล้วและเห็นควรส่งเสริมให้ได้เติบโตตามจังหวะของตน กรรมการตัดสินรอบสุดท้ายได้บอกเล่าว่า รู้สึกยินดีที่ได้อ่านงานเขียนเหล่านี้ ทำให้ได้ทบทวนความทุกข์วัยหนุ่มสาวที่ล่วงมา และเห็นภาพสะท้อนทางสังคมที่ยังผลิตซ้ำสร้างความทุกข์แบบเดิมๆ ไม่รู้จบสิ้น กรรมการท่านหนึ่งเล่าว่าน้ำตาซึมกับบางชิ้นงาน รู้สึกอยากร้องไห้กับผลงานเหล่านี้ด้วยหัวใจของคนเป็นแม่ ภาพรวมการปรับปรุงผลงานที่ส่งเข้าร่วมการประกวดได้แก่เรื่องการใช้ภาษาที่หลายชิ้นชิ้นงานขาดการขัดเกลา ใช้ภาษาไม่เหมาะสมบ้าง… Continue reading รายชื่อเยาวชนที่ได้รับรางวัล ธรรมวรรณศิลป์ ประจำปี ๒๕๕๗ – ๒๕๕๘
เขียน = ปลดปล่อยชีวิต คอร์สกึ่งออนไลน์ เขียนเปลี่ยนชีวิต ชุดที่ 7@2558
การอบรมกระบวนการเขียนทางจิตวิทยาเพื่อการเยียวยาและดูแลกายใจ ในหัวข้อ “เขียน = ปลดปล่อยชีวิต” (Active Journal for Self-Healing and Transformation) คอร์สกึ่งออนไลน์ เขียนเปลี่ยนชีวิต ชุดที่ 7 @2558 โดย ศูนย์การเขียนเปลี่ยนชีวิต โครงการธรรมวรรณศิลป์ ในความร่วมมือกับ มูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ผู้ริเริ่มคอร์สกึ่งออนไลน์การเขียนบันทึกเพื่อพัฒนาชีวิตแห่งแรกในประเทศไทยและมุ่งมั่นการจัดกิจกรรมเนื้อหาเชิงลึกและการให้คำปรึกษาที่ค่าใช้จ่ายน้อยและนำไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างยั่งยืน “กลับมารับฟังตัวเองด้วยการเขียนเชิงกระบวนการ ไม่เน้นเขียนดี ไม่เน้นเขียนเก่ง เขียนเพื่อดูแลสุขภาพกายและใจ” ปิดรับสมัครแล้วสำหรับการอบรมรอบเดือนมีนาคม ๒๕๕๘ เนื้อหาโดยสรุป การเขียนบันทึกและการเขียนลักษณะพิเศษเพื่อดูแลและพัฒนาสุขภาวะทางจิตใจและร่างกาย ปรับเปลี่ยนมุมมองต่อตนเองและความเข้าใจชีวิต โดยไม่ต้องอาศัยทักษะการเขียนและทักษะด้านศิลปะ พร้อมกระบวนการกลุ่มการเรียนรู้แบบผ่านประสบการณ์อย่างมีส่วนร่วม ควบคู่กับกระบวนการเรียนรู้แบบจิตปัญญาศึกษา มีกิจกรรมให้ความรู้เครื่องมือการเขียนบันทึกเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตแบบพื้นฐานกับการประยุกต์ใช้ และกิจกรรมชวนเขียนชวนบันทึกดูแลความรู้สึก ทบทวนตนเอง ย้อนมองชีวิตด้านความสุขและด้านความทุกข์ บ่มพลังสร้างสรรค์ จินตนาการ และปัญญา รูปแบบการอบรม การอบรมแบ่งเป็น 3 รูปแบบ ดังนี้ 1.… Continue reading เขียน = ปลดปล่อยชีวิต คอร์สกึ่งออนไลน์ เขียนเปลี่ยนชีวิต ชุดที่ 7@2558
ประกาศรายชื่อเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย
ประกาศรายชื่อเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย การประกวดงานเขียนเพื่อสร้างสรรค์ผู้นำรุ่นใหม่ รางวัลทุนจิตอาสา ธรรมวรรณศิลป์ ครั้งที่ ๖ งานเขียนเข้ารอบสุดท้ายนี้จะได้รับการพิจารณาคัดเลือกและวิจารณ์โดยกรรมการสองท่าน หนึ่งท่านคือบรรณาธิการสำนักพิมพ์มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง และ นักเขียน/นักเดินทางผู้ทำงานใกล้ชิดกับเด็กๆ ประกาศผลภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ นายนฤพนธ์ สุริฉาย โรงเรียน กมลาไสย นายสมิธ คำเจริญ โรงเรียน สุโขทัยวิทยาคม นางสาวณัฐฐาวรรณ บัวเพชร โรงเรียน ศรียาภัย นางสาวลภัสรดา รัตนรัตน์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง นางสาวณัชชาพร มีสัจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ นางสาวสัจจกร วงศ์ตระกูลยนต์ โรงเรียน อัสสัมชัญคอนแวนต์ นางสาวไปรยา สงภักดี โรงเรียน ชัยนาทพิทยาคม นางสาวรุ่งระพี อรภาพ จบการศึกษามัธยมศึกษาปีที่6 นางสาวเบญจมาศ แสนหลวง โรงเรียน กบินทร์วิทยา นางสาวพิสุทธิรัตน์ วิบลุสันติ โรงเรียน พิงครัตน์ นางสาวอคิราภ์ รวมจิตต์ โรงเรียน แม่ลาน้อยดรุณสิกข์ นางสาวณัฏฐ์ธยาน์ เทียมเศวต โรงเรียน… Continue reading ประกาศรายชื่อเยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย
หนังสือ จดหมายสู่อนาคต ส.ค.ส. จากตัวเรา
คำแนะนำน้อยๆ การเขียนบันทึก “อนุทินเพื่ออนุสติ” ก่อนเริ่มปีใหม่ของชีวิต ศูนย์การเขียนเปลี่ยนชีวิต โครงการธรรมวรรณศิลป์ เมื่อปลายปี 2557 บันทึก ส.ค.ส. นี้ จะ “ส่งถ้อยคำอันสร้างสรรค์ หรือ สำคัญยิ่ง” แก่ตัวเราในอนาคต คลิกเพื่ออ่านหรือดาวน์โหลด จดหมายถึงอนาคต2557
หนังสือ ก้าวน้อยๆ หันย้อนมองตัว
หนังสือ ก้าวน้อยๆ หันย้อนมองตัว “ชีวิตเรามีอะไรที่มากกว่าในความคิด มีสิ่งที่มากกว่าที่เราเคยเชื่อ เช่นเดียวกับภายในตัวเรา ราวจักรวาลรวมอยู่ในความเป็นเรานี้ สิ่งใดที่หน่วงเหนี่ยวกักขังเราไว้ สิ่งภายนอกตัวในสังคมที่ยากจะเปลี่ยนแปลง สิ่งภายในตัวเราที่ฉุดรั้ง “เมื่อเรารู้ว่าข้างนอกนั่นมีสิ่งที่มากกว่าในพื้นที่แคบของหัวใจที่เราใช้ชีวิตอยู่ในนี้เรื่อยไป ไยเราจึงไม่ยอมออกมา … “เราปราถนาความเข้าใจ ส่วนเขา คนอื่นก็เช่นเดียวกัน ต่างฝ่ายต่างเรียกร้อง เพราะขาดพร่องในตัวตน ไฉนเลยเราจึงไม่ยอม เป็นผู้สร้างความเข้าใจขึ้นก่อน เริ่มจากเข้าใจตนเอง” ส่วนแรกจากหนังสือ ก้าวน้อย ๆ หันย้อนมองตัว บทความสั้นใจต่อใจก่อนปีใหม่ชีวิต จาก 2557 สู่ 2558 แจกฟรี เป็นของขวัญปีใหม่ ก้าวน้อยๆหันย้อนมองตัว คลิกเพื่ออ่านหรือดาว์โหลด ศูนย์การเขียนเปลี่ยนชีวิต www.youngawakening.org/write4life facebook.com/khianpianchiwit