“ในกงล้อมีเรา” คอลัมน์ ปัญญามีความรัก #๑

ในกงล้อมีเรา

 

 

เล็ก

ฉันได้อ่านจดหมายและงานเขียนจากเธอหลายชิ้นทีเดียวนะ ต้องขอบอกว่า ฉันวุ่นว้าใจเพียงใดที่รู้ว่าเธอช่วงนี้ ป่วยเกินกว่าจะตอบจดหมายและเขียนสิ่งใดเพื่อคนอื่นด้วยความรักที่เธอมี ฉันจึงตัดสินใจลองเขียนบ้าง เพราะเมื่อคนตื่น ย่อมปลุกสิ่งต่างๆ ให้ตื่นขึ้น เฉกเช่นดวงตะวันพาดอกไม้เปิดดวงตาแห่งความงดงาม เพราะเธอเขียน ฉันจึงลงมือขีดเขียน

วันสำคัญของศาสนาพุทธเพิ่งผ่านไปอีกครั้งแล้วนะ แต่เธอรู้ไหมว่า มีหลักธรรมลี้ลับข้อหนึ่ง ซึ่งใครๆ มักไม่ค่อยกล่าวถึง และไม่มองลึกลงไปถึงแก่นใจความสำคัญ เรารู้ชื่อแต่เราไม่ค้นหาต่อว่าสิ่งใดได้แอบซ่อนอยู่

หลักธรรมข้อนั้นกล่าวถึงกงล้อ กงล้อที่หมุนวน เคลื่อนโลกและจักรวาลไปพร้อมกับหัวใจของเรา แต่ไม่ใช่เพียงการเวียนว่ายตายเกิด และ ไม่ใช่เพียงกงล้อของจิตด้วย ทั้งสองก็เป็นส่วนหนึ่งในนี้แหละ เป็นกงล้อที่สำคัญมากทีเดียว เรารู้จักกันในนาม กงล้อแห่งธรรมอันเป็นนิรันดร์ เรียกตามภาษาบาลีว่า “ธัมมจักกัปปวัตตน”

กงล้ออันนี้ ไม่ได้สำคัญเพราะมหาบุรุษได้กล่าวหรอกนะ และมิใช่เพราะเป็นหนึ่งเทศนาแรกท่ามกลางคืนเพ็ญเดือนแปด แต่เพราะว่าฉันกับเธอต่างอยู่ในกงล้อนี้นี่แล

เช่นเดียวกับพวกเขาและพวกเธอในโลกนี้ คือส่วนหนึ่งแห่งกงล้อธรรม ผู้ที่จะพาให้กงล้อนี้หมุนเคลื่อนไปอย่างไร หมุนไปตามหัวใจและโลกเรา ดูสิ พวกเราสำคัญมากเพียงใด เราอาจเคยคิดแต่ว่าพระสงฆ์คือผู้เผยแพร่พระศาสนา หรือพระผู้เป็นเลิศหรือผู้บรรลุธรรมขั้นสูงคือมือที่จะผลักกงล้อธรรมเคลื่อนไป ทั้งที่พวกเราคือส่วนหนึ่งในธรรมจักรนี้

ในธรรมจักรอันยิ่งใหญ่ มีจักรธรรมทั้งสี่อันเป็นทิศวิถีพาเราขับล้อหมุนในหนทางที่ดีงาม อันได้แก่สิ่งที่อยู่ภายนอกตัวเราและภายในตัวเรา ดังนี้ ๑ อยู่ในที่ที่ดี เหมาะสม และถูกกาละอันเกื้อกูลต่อชีวิตกับการเติบโตมิติต่างๆของเรา ๒ อยู่ร่วมกับคนที่เหมาะสม เกื้อกูล หรือถูกวาระ ซึ่งพวกเขาหรือเธอจะเป็นดั่งมือหยิบยื่นหรือฉุดดึงไปในทิศทางที่ควร ๓ คือการตั้งตน ตั้งใจ และตั้งการกระทำในทางที่เหมาะสมแก่ชีวิตบริบทต่างๆ รักษากาย วาจา และใจในทางที่เห็นคุณค่าอย่างแท้จริง ๔ เชื่อมั่นในความดีงามและเส้นทางแห่งการเรียนรู้เก่าก่อน ทั้งในอดีตและอดีตชาติ เราต่างบ่มเพาะตนเองด้วยบทเรียนหลากหลายมาก่อนเก่า

แม้เราจะทำดีบ้าง ไม่ดีบ้างก็ตาม แต่สิ่งดีงามและบทเรียนเดิมยังมีอยู่เป็นแรงผลักดันหนุนนำชีวิต เมื่อจักรธรรมชีวิตเราแต่ละคนหมุนไป ธรรมจักรอันยิ่งใหญ่ก็กำลังหมุนตาม โลกหมุนไปพร้อมกับหัวใจของพวกเรา

เมื่อเธอตั้งตน ตั้งใจ และตั้งการกระทำอยู่บนพื้นฐานของข้อสี่แห่งจักรธรรม สองข้อท้ายนั้นคือเท้าสองข้างหรือมือสองแขน จะพาเธอแปรเปลี่ยนสองข้อแรกแห่งจักรธรรมชีวิต ได้อยู่กาลเทศะที่เหมาะสมกับการเรียนรู้และการเติบโตของเธอในแต่ละช่วงชีวิตและบทเรียนกรรม ได้เจอหรืออยู่ร่วมกับบางคนบางใครที่ลึกเร้นในดวงวิญญาณ ปรารถนาสอนบทเรียนสำคัญแก่ชีวิตเธอ และผลักดันดวงใจน้อยให้ก้าวหน้าไปในทางดีงามด้วยวิธีสอนหลายแบบ ทั้งด้วยดอกไม้และก้อนหิน นั้นเอง เธออาจนึกถึงครูนะ ครูก็มีวิธีสอนเธอด้วยไม้เรียวบ้าง ด้วยวาจาอ่อนหวาน หรือบางทีก็ใช้สื่อช่วยสอน ธรรมชาติก็สอนบทเรียนกรรมนานาแก่เราด้วยวิธีการหลากหลาย

ใครคนนั้นที่ทำร้ายเธออาจมอบบทเรียนความจริงที่เธอไม่กล้ารับ ใครคนนั้นที่พาน้ำตาไหลริน อาจสอนความเมตตาและใจอ่อนโยน ขณะที่ความคิดจากสมองอาจทำใจเราแข็งทื่อตื้อตัน ใครเหล่านั้นที่ทำร้ายกันและกันอาจกำลังหมุนจักรธรรมชีวิตตนในรูปแบบแตกต่างจากเราผู้รักสงบ แต่เชื่อเถอะนะ มิมีใครอยู่นอกกงล้อใหญ่ เขาและเธอย่อมกำลังเดินทางเพื่อรู้จักรักแท้และความสงบชั่วกาลบนเส้นทางของตนเอง

เมื่อสองข้อท้ายแห่งจักรธรรมตั้งมั่น คือเธอทำกายใจอย่างเห็นคุณค่าในตัวเอง และเชื่อมั่นในความดีงามและเส้นทางการเรียนรู้ที่ผ่านมา ด้วยศรัทธาและปัญญาของตน เธอย่อมพบว่า ทุกๆคนที่ผ่านมาในชีวิตเธอคือเนื้อนาบุญของโลก ทุกสถานที่ที่เธอไปคือที่ที่เธอจะหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งรัก

ไม่ว่าเธอจะต้องอยู่ในที่แบบใด ไม่ว่าเธอเรียนหรือทำงานที่ไหน มิว่าเธอกำลังอยู่กับใครก็ตาม เพียงเธอเชื่อมั่นในสองข้อท้าย เมื่อเธอใช้หัวใจหยั่งคิดถึงกงล้อแห่งเรา เธอย่อมไม่หลงทาง เพราะเธอคือกงล้อแห่งธรรม

ระหว่างที่เธอกำลังเดินทาง ทุกๆคนบนโลกก็กำลังย่างก้าว กงล้อธรรมอันเป็นนิรันดร์ก็กำลังเคลื่อนไปพร้อมกับเธอ ระหว่างก้าวย่างเธอสืบเท้า ฉันอยู่ตรงนี้แล้วใกล้เพียงใจ

 

 

รุณา

๗ สิงหาคม ๒๕๕๘ ตีสามสามสิบสาม