คนเราสามารถหลอกตัวเองได้ไหม ?

    ถาม : คนเราสามารถหลอกตัวเองได้ไหม ? ตอบ : หลอกได้ และคนเราส่วนใหญ่หลอกตนเองอยู่เรื่อยๆ ตามหลักจิตวิทยาและพุทธศาสนา ที่เราบอกกันว่า “คนเราหลอกใครก็หลอกได้ แต่หลอกตัวเองไม่ได้” เป็นทั้งความจริงและไม่จริง ตราบใดที่เรามีความอยาก(ตัณหา)และความยึด(มานะและอุปาทาน) เราก็ยังคงหลอกตนเองอยู่มากบ้างน้อยบ้าง หลอกตนเองคือ การไม่ยอมรับความจริงเกี่ยวกับตนเองและชีวิตอย่างที่เป็นจริง เพราะมีความอยากให้เป็น ความอยากไม่ให้เป็น และการสำคัญมั่นหมายเอาเองว่าสิ่งต่างๆ เป็นอย่างไร ตามหลักจิตวิทยาแล้ว การหลอกตนเองถือเป็นหนึ่งในกลไกการปกป้องตนเอง ทั้งการโทษคนอื่นโดยไม่มองตนเอง ทั้งการหลบเลี่ยงปัญหาหรือข้อบกพร่องของตน หรือการกลบเกลื่อนความจริงไว้ด้วยการคิดต่างๆ เกิดจากความกลัวที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาหรือสถานการณ์ต่างๆ อย่างที่มันเป็น เพราะลืมความกล้าหาญและความเข้มแข็งที่แท้จริงในตนเองไป การหลอกตนเองนั้นยังเป็นการยึดถือเอาด้านใดด้านหนึ่งของตนเอง เช่น ติดดี หรือ จมปลักกับข้อเสียของตนเอง แต่ไม่มองตนเองให้รอบด้านว่า เราเองก็เป็นคนอีกแบบหนึ่งด้วย เราไม่ได้มีสิ่งแย่ๆ แบบนี้อย่างเดียว แล้วเราเองก็มีจุดบอดหรือสิ่งที่ต้องแก้ไขแต่ไม่เห็นด้วยเช่นกัน กรณีแบบนี้ถ้ามีคนมาว่าเราหรือเจอเหตุการณ์ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่เรายึดมั่น เราก็จะเป็นทุกข์ และพยายามกลบเกลื่อนความจริงด้วยการหลอกตนเองแบบต่างๆ ดังที่ยกตัวอย่างมา ถาม : แล้วที่บอกว่า คนเราหลอกตัวเองไม่ได้ก็เป็นความจริงด้วย ? ตอบ : เราอาจกลบเกลื่อนมันได้ แต่ในที่สุดความทุกข์ก็จะเกิดขึ้นอยู่ดี เหมือนหมักหมมปัญหาไว้… Continue reading คนเราสามารถหลอกตัวเองได้ไหม ?

วิธีจัดการความเครียดสะสม

วิธีจัดการความเครียดสะสม #บทความไกด์โลกจิต . เริ่มต้นเราต้องเข้าใจก่อนว่า ยามที่เราเผชิญปัญหาแล้วรู้สึกเครียด กังวลใจ และอารมณ์ลบต่างๆ เหล่านั้นมาจากกลไกของจิตใจที่ต้องการปรับตัวเราให้พร้อมรับมือสิ่งต่างๆ กลไกที่ว่านี้อาจเรียกว่า ปฏิกิริยาการปรับตัวปกติของจิตใจ (Adjustment reaction/ normal reaction) . สิ่งนี้ดีอยู่แล้ว ในแง่ที่เป็นเหมือนสัญญาณเตือนระวังภัยให้เรารับมือสิ่งต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที แต่ปัญหาเกิดขึ้นซ้ำเติมเราเมื่อ กลไกลการปรับตัวดังกล่าว ทำงานมากเกินไป หรือทำงานติดต่อกันมากเกินไป กลายเป็นร่องความเครียด หรือร่องอารมณ์ด้านลบ ทั้งระดับร่างกายและจิตใจ . สิ่งดังกล่าวเลยไม่ใช่ปฏิกิริยาการปรับตัวตามปกติแล้ว กลายเป็นโรคเครียด หรือเรียกว่า ภาวะ “การปรับตัวผิดปกติ” (adjustment disorder) . 7 ข้อดังต่อไปนี้ เป็นสัญญาณบอกว่า กลไกของจิตใจเราพยายามเตือนภัยมากเกินไปแล้ว 1. เครียดมาก…จนบกพร่องชัดเจนในหน้าที่การงาน หรือ การเรียน 2. เครียดมาก…จนบกพร่องชัดเจนในเรื่องความสัมพันธ์ 3. เครียดมาก…จนบกพร่องชัดเจนในการเข้าสังคม 4. เครียดมาก…จนส่งผลต่อการกิน การนอนผิดปกติ ไปหมด 5. เครียดมาก…จนวันๆ หมกมุ่น ครุ่นคิดต่อเรื่องนั้น จนไม่เป็นอันทำอะไรกันเลย… Continue reading วิธีจัดการความเครียดสะสม

บันทึกนักเขียนบำบัด “ฟังเสียงร่างกาย” ตอนที่ ๒

    บันทึกนักเขียนบำบัด “ฟังเสียงร่างกาย” ตอนที่ ๒ บทสนทนาและการดูแลตนเอง ในรอยต่อระหว่างการอบรม “เขียน = ปลดปล่อยชีวิต” และ “พลังแห่งจิต กึ่งออนไลน์” โดย สุพัตรา     ฉัน… ฟังร่างกายครั้งที่ห้า 05/04/59 วันนี้ทำกิจกรรมที่เคลื่อนไหวเกือบทั้งวัน ไม่ได้คิดถึงหรือรู้สึกไม่ดีในเรื่องใดจริงจัง แต่เห็นตัวเองอารมณ์ค่อนข้างร้อน หงุดหงิดง่ายกับเรื่องเล็กๆ อาการออกทางใบหน้าไม่ค่อยยิ้ม หน้าขรึม ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเท่าไหร่ เมื่อตอนเย็นได้ไปงานเลี้ยงกินน้ำอัดลมไป 2 แก้ว และเค้ก 1 ชิ้น(-*-) ก่อนเริ่ม…ฟังเพลงผ่อนคลาย และทบทวนตัวเองในระหว่างวัน เริ่มง่วงเล็กน้อย ขณะฟังร่างกาย…หายใจเข้าออกอยู่กับตัวเองไม่ค่อยมีสมาธิมีเรื่องทั่วๆไปหลายเรื่องแว๊บเข้ามาแล้วก็หลับไปจนถึงตีสามครึ่ง ผ่านมา 5 วันแล้วยังไม่ค่อยได้คุยกับคุณร่างกาย หวังว่าคุณร่างกายจะเข้าใจว่าเราอ่อนเพลียเลยขอพักผ่อนก่อนคุณร่างกายก็ได้พักไปด้วยงัย ถ้าเรามีพลังขึ้น ———– อาจารย์… อย่างน้อยเราได้ฟังความอ่อนเพลียในตัวเรา กับเสียงสะท้อนจากคุณคอและบ่า ครั้งต่อไปนี้ไม่เพียงเราจะตั้งใจฟังเสียงร่างกายเท่านั้น แต่เราจะมอบพลังแก่เขาด้วยใจของเราด้วย เริ่มที่คอก่อนได้ครับ ทว่าครั้งนี้ถ้าเป็นไปได้ลองเปลี่ยนจากท่านอนเป็นท่านั่งนะครับ 

แม้เราไม่ได้คิดถึงสิ่งที่รบกวนใจ แต่ความร้อนหงุดหงิดที่อยู่ภายในก็แสดงถึงพลังลบหรือความคิดบางอย่างสะสมอยู่ ให้การฟังร่างกายหรือปรับพลังร่างกายทีละจุดนี้ ชำระล้างและผ่อนคลายตัวเรา ให้แสงสว่างที่เรากำหนดในใจให้เป็นการปรับเปลี้ยนพลังลบออกให้สมดุล… Continue reading บันทึกนักเขียนบำบัด “ฟังเสียงร่างกาย” ตอนที่ ๒

บันทึกนักเขียนบำบัด “ฟังเสียงร่างกาย” ตอนที่ ๑

      บันทึกนักเขียนบำบัด “ฟังเสียงร่างกาย” ตอนที่ ๑ บทสนทนาและการดูแลตนเอง ในรอยต่อระหว่างการอบรม “เขียน = ปลดปล่อยชีวิต” และ “พลังแห่งจิต กึ่งออนไลน์” โดย สุพัตรา   อาจารย์… ชีวิตที่ต้องคอยพยายามพิสูจน์ตัวเองอยู่ตลอดนี่เหนื่อยมากเลยนะครับ ยิ่งต้องคอยอยู่กับคำตัดสินและคำสั่งโดยที่ไม่ได้ตอบโต้ก็ยิ่งเหมือนคอยแบกหินไปด้วย เหนื่อยอย่างนี้ความฝัน ความตั้งใจ และการเรียนรู้ก็พลอยถูกบั่นทอน ใจแบกรับหนักอึ้งก็ยิ่งเร่งเร้าร่างกาย ก็สะท้อนมาให้เราฟังผ่านอาการที่หน้าอกและหัว จะพอช้าลงและให้โอกาสร่างกายได้พูดเสียหน่อย ได้ไหมครับ เห็นร่างกายและจิตใจเราเสียพลังไปมากพอมีช่วงเวลาให้เราลองฟังร่างกายได้ไหมครับ ผมจะแนะนำดู _ลองนั่งหรือนอน หลับตา ผ่อนคลายความคิดความกังวลใดใด หายใจอยู่กับตนเองครู่หนึ่ง _กำหนดความรู้สึก ไล่ไปตามลำดับ จากเท้าสองข้าง / หัวเข่า / ก้น / ท้องน้อย / ท้อง / หน้าอก / ลำคอ / หน้าผาก / กลางศรีษะ แต่ละส่วนใช้เวลาครู่หนึ่ง ไปตามเสียงภายในของเรา… Continue reading บันทึกนักเขียนบำบัด “ฟังเสียงร่างกาย” ตอนที่ ๑

ตัวเล็ก จึงทวนกระแสง่าย

      #ตัวเล็ก จึงทวนกระแสง่าย   ผมนึกรู้สึกขอบคุณสภาพที่เป็นอยู่ ในบ้านหลังน้อย งานเล็กๆ กลุ่มคนไม่มาก ระหว่างนั่งลำพังท่ามกลางค่ำคืน สรรพเสียงต่างๆ เดินทางมาทักทาย ถ้าเราส่งเสียงดังหรือทำตัวใหญ่โต คงยากหาโอกาสฟังเสียงจากเจ้าตัวกระจิดริดที่ร้องเพลงกล่อมดาว อีกลูกหมาที่ร้องมาแต่ไกลบอกกล่าวว่าการเกิดนั้นเป็นทุกข์ แต่เสียงก็น่ารักนัก ผมรู้สึกขอบคุณที่ยังคงตัวเล็ก… การบ่มใจให้เป็นสุขแท้ มันเป็นสิ่งที่ทวนกระแส เหมือนวิ่งต้านทานลม ผมเคยคิดว่าการทวนกระแสคือการทำตัวให้แตกต่าง และ เชื่อมั่นสิ่งที่ดีกว่าที่คนทั่วไปหลายคนไม่สนใจ แต่การทวนกระแสที่ทำให้ใจเป็นสุขและช่วยเหลือผู้คนได้มากมิใช่สิ่งเหล่านั้น แต่เป็นกระแสของจิตที่ถูกพัดพาด้วยเหตุของความทุกข์ ซึ่งเราต้องย้อนทวน เปรียบเป็นกระแสลม เราจะวิ่งฝ่าลมต้านได้ ต้องย่อตัวให้เล็ก ค้อมกายลง เพื่อลดพื้นที่ต้านทาน ถ้าเราเอาตนเป็นที่ตั้ง ฝ่าลมต้านไปทื่อๆ มันย่อมยาก ชีวิตที่เอื้อให้เราตัวเล็ก เปิดโอกาสให้เราเป็นสุขแท้จากการทวนกระแสของจิตใจ จากการถูกความอยากและการยึดมั่นโน้มนำ ให้เราว่ายวนในบ่วงทุกข์ราวไม่สุดสิ้น ตัวเล็กเพื่ออยู่อย่างทวนกระแสในตัวตน หยั่งเห็นสิ่งละอันพันละน้อยที่ใครหลายคนละเลย เพราะเราตัวเล็กจึงทำสิ่งที่ละเอียดอ่อนง่าย คิดเปรียบเปรยคนเรานี่น่าอิจฉามดแมลง เล็กกระจิ๋วแต่สามารถสำรวจชีวิตได้ลึกซึ้ง บางทีหนทางตีบตันสำหรับเราผู้ตัวใหญ่กว่า แต่พวกเขาเหล่านี้อาจเห็นช่องทางผ่านไปได้ง่าย ผมขอบคุณความตัวเล็กที่เปิดโอกาสให้ได้เรียนและได้สอนกับคนตัวเล็ก ผู้ซึ่งมีใจที่เปิดรับโลกกว้าง และพร้อมขัดเกลาตนอย่างอ่อนน้อม ความอ่อนน้อมและอ่อนโยนของผู้เรียนย่อมเป็นแบบอย่างแก่ผู้สอนด้วย รายได้เล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้เราไม่อวดโอ่ตนจนเป็นความรำคาญแก่ชีวิต นึกถึงอาจารย์ท่านบอกว่า “เอ็งนี่ดีนะ… Continue reading ตัวเล็ก จึงทวนกระแสง่าย