บทเรียน เขียนเยียวยา (รอบสอง) หลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต ๒๕๕๙ ************ “สวัสดีค่ะครูโอเล่ ชิขอแชร์สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเรียนครั้งนี้ คือ เราต้องมีความตั้งใจ เปิดใจ จริงใจกับตัวเอง วิธีการสอนและการเอาใจใส่ของครู เป็นจุดเริ่มต้น เรามีบันทึกในหัวข้อต่างๆเป็นกระบวนการในการสื่อสารระหว่างกัน ทั้งใจ ร่างกาย ความคิด และสื่อสารให้กับครูช่วยแนะนำ เราได้ผลงานที่ช่วยให้เราตอบคำถามต่างๆ ในใจเราได้ เราค้นพบเพื่อนแท้ รักแท้ ที่ให้กับตัวเอง เราเห็นคุณค่าของเราเอง ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการปรับเปลี่ยนชีวิตเราไปจากเดิม โดยมีเราเป็นคนเลือกที่จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เราจะทบทวน ระลึกถึงตัวเอง ธรรมชาติ ความเครียด สิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วย เพื่อไม่ให้ปัญหาใหม่ๆ ที่เข้ามาพาเราไปไกลจากตัวเอง ขอบคุณคุณครูมากนะคะ ชิรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของใจ ความหนักแน่น ที่ได้หลังจากการเรียนครั้งนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ / ชิ ^^” ************ www.dhammaliterary.org
Author: admin
บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๔)
บทเรียน เขียนเยียวยา (รอบสอง) หลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต ๒๕๕๙ ************ “สวัสดีค่ะ ครูโอเล่ สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้จากคอร์สกึ่งออนไลน์ เขียนเยียวยา ค่ะ คอร์สเขียนเยียวยารอบนี้นับว่ามาได้ตรงจังหวะของตัวเองในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่มากๆ คือได้ทบทวนตัวเองถึงของขวัญ สิ่งดีๆ ที่ได้รับ ได้เรียนรู้จากปีเก่า และของขวัญ สิ่งดีๆ ที่จะมอบให้กับตัวเองในปีใหม่นี้ ทำให้ได้ลงมือทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ในปีเก่าให้เสร็จเรียบร้อย และเริ่มทำสิ่งที่บ่ายเบี่ยงไม่กล้าทำมานาน ทำให้พบว่าไม่มีอะไรน่ากลัวเท่ากับการไม่ลงมือทำ ในขณะเดียวกันก็พบว่าการลงมือทำจนร่างกายเหน็ดเหนื่อยเกินพอดี อีกทั้งยังละเลยไม่ได้สนใจดูแลนั้น ก็ทำให้เกิดทุกข์ พอดีกับเจอกับบทเรียนผู้เยียวยาภายในที่สอนให้หันกลับมาใส่ใจดูแลรับฟังร่างกาย ให้ความรักกับตัวเองอย่างพอดี ทำให้ได้ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตตัวเองให้พอดีทั้งด้านการทำงานบ้าน และที่ทำงานอย่างเต็มที่ พร้อมกันก็ได้ดูแลตัวเองให้ดีและสมดุลไปพร้อมกัน ส่วนที่ประทับใจมากคือการได้ใช้เทคนิคเขียนนิทานในการผสานการสร้างสรรค์จินตนาการไปพร้อมกับการทบทวน เรียนรู้ชีวิตที่ผ่านมาของตัวเองอย่างเข้มข้นภายในไม่กี่หน้ากระดาษ ทำให้กระจ่างกับสิ่งที่พบเจอในชีวิตที่ผ่านมา เข้าใจเหตุผล การกระทำของตัวละครในนิทานแต่ละตัว เป็นดั่งเครื่องมือวิเศษที่ช่วยปลดปล่อย เยียวยา ช่วยให้ปล่อยวาง และทำให้รู้สึกอิ่มเต็มอย่างพอดี ทำให้เข้าใจคำว่าเขียนเยียวยาสมดั่งชื่อคอร์สจริงๆ ค่ะ ขอบพระคุณค่ะ เจี๊ยบ” ************* www.dhammaliterary.org
บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๓)
บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) #เขียนเปลี่ยนชีวิต . . . “เดิมก่อนได้เรียนเขียนเยียวยา เข้าใจแต่ว่าบันทึกในทุกวันของเราก็คือการบ่นทุกอย่างที่ผ่านมาในแต่แหละวัน บันทึกเป็นที่ระบาย บ่นได้ทุกอย่าง พูดมันทุกเรื่อง เขียนไปเท่าที่อยากเขียน ส่วนใหญ่ไม่ใช่เรื่องดี หรือเขียนมากไปแล้วเจอทางแก้ก็ไม่ใช่ จนรู้สึกเหนื่อยกับการเขียนบันทึก และพอเห็นเรื่องเขียนเยียวยาก็มีคำถามในใจว่าการเขียนมันจะช่วยเยียวยาได้ยังงัย ทุกวันที่ที่เขียนอยู่ก็คิดมันมันคือที่สุดแล้ว พอได้เรียนเขียนเยียวยา ทำให้รู้ว่ามีมากมายหลายวิธีในการเขียน เขียนไปดูใจเราไป เขียนไปหยุดทบทวนสิ่งที่เขียนออกไปด้วย ว่าเขียนด้วยอารมณ์ไหน ทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ได้ใหม่ถ้าเราต้องการ ชอบหัวข้อชุดที่ครูโอเล่ส่งให้ มันเหมือนเรื่องที่ค้างลึกๆอยู่ในใจเรา ก่อนจะเลือกบอกตัวเองอยู่ในใจว่าถ้าครูให้เขียนเรื่องเกี่ยวกับอะไรต้องเขียนเรื่องนั้นของเราจริงๆนะ ไม่ต้องอายครู ไม่ต้องสนใจใคร เพราะเราต้องการเยียวยาตัวเอง พอเอามาเขียน เหมือนได้เอามาทบทวน ได้เข้าใจใหม่ ชอบที่เขียนมือซ้ายและมือขวา เหมือนเถียงกับตัวเองทางตัวหนังสือ มือซ้ายต้องการความถูกต้อง ถูกใจ ให้กับตัวเอง มือขวาคอยบอกว่าอะไรดีอะไรไม่ดี “เธอลองคิดใหม่สิมือซ้าย, เหตุการณ์ไม่ได้เลวร้ายหรอกนะ หรือถ้าเธอเป็นเขาบ้างหละ” มีคำพูดเหล่านี้เกิดขึ้นในใจ แทนคำพร่ำบ่นอยู่ตลอดเวลา มือซ้ายที่อยากพร่ำบ่นแต่ด้วยความที่เขียนไม่ค่อยถนัดทำให้ความคิดเราช้าลง ได้มีเวลาทบทวนสิ่งที่ต้องการจะพรั่งพรูออกมา พอมือขวาเริ่มจะเขียนมันก็ทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้น ชอบเทคนิคนี้และคิดว่าจะเอามาใช้ตลอดหลังจากนี้ ขอบคุณครูโอเล่คะ… Continue reading บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๓)
บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๒)
บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) #เขียนเปลี่ยนชีวิต “ขอบคุณครูโอเล่ และทีมงานนะคะที่เปิดโอกาสให้กบได้เข้ามาอบรมในครั้งนี้ และได้รับการต้อนรับ การเรียนรู้ที่อบอุ่นและเป็นมิตร ขอบคุณพื้นที่ดีๆ แห่งนี้นะคะ กบขอส่งบันทึกความรู้สึกเพื่อเป็นการส่งต่อถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อการอบรมในครั้งนี้ด้วยนะคะ ขอบพระคุณที่สุดค่ะ กบ” www.dhammaliterary.org
บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๑)
บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) #เขียนเปลี่ยนชีวิต ” ทบทวนบันทึกที่ผ่านมา และสรุปการอบรม ทั้งความรู้สึก บทเรียน และการก้าวผ่านต่างๆ ในทุกบันทึกที่เขียนนำพาเราค่อยๆ พบกับแสงสว่าง ทำให้เรามองตัวเองได้ชัดเจน เห็นทั้งด้านที่ดีและด้านที่ไม่ดี ได้พบกับคุณค่าในตัวเราเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป หากมองผิวเผินแต่ละหัวข้อไม่น่าจะมีสิ่งเชื่อมโยงกันนัก แต่พอบันทึกไปเรื่อยๆ กลับพบว่าทุกหัวข้อมีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงร้อยรัดเป็นหนึ่งเดียวกัน ความทุกข์จากบันทึกหนึ่งสู่การคลี่คลายอีกบันทึกหนึ่ง สลับกับคำถามประจำวันที่เป็นเสมือนไกด์ไลน์สำคัญช่วยกระตุกความคิดให้หันกลับมาทบทวนและสังเกตสิ่งรอบตัวในช่วงเวลานั้น บันทึกที่ถือว่าเป็นการก้าวข้ามออกจากไข่แดงคือ บันทึกหัวข้อ “ฟังใจ” นับเป็นประตูบานใหญ่ที่พาเราไปสู่การคลี่คลายความทุกข์ในหัวข้ออื่นๆ เราจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้หากเราไม่กลับมาฟังเสียงหัวใจตัวเอง ตราบใดที่เราละเลยหัวใจตัวเองเราจะเป็นทุกข์ จะสับสนและรู้สึกขัดแย้งภายในตลอดเวลา และกว่าจะได้ยินสิ่งที่หัวใจอยากบอกก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ครูมีวิธีการที่แยบคายมากทำให้เราสามารถเผชิญหน้ากับหัวใจตัวเองอย่างน่าอัศจรรย์ ระหว่างที่ทำบันทึกทั้งตื่นเต้น ดีใจ เศร้าใจ สงสาร ประหลาดใจ ในจินตภาพที่เราสัมผัสได้มีทั้งภาพและเสียงชัดเจนมาก ราวกับกำลังดูละครเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว หัวใจที่อยู่กับเรามาทั้งชีวิตแต่เรากลับละเลยเขา ไม่สนใจสิ่งที่เขาต้องการสื่อสาร เมื่อกลับมาฟังเสียงหัวใจอีกครั้งเราได้ยินในสิ่งที่เราไม่คาดคิดมากมาย จนตัวเองรู้สึกหลงรักหัวใจตัวเองอย่างที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ได้ตะกอนความคิดจากหัวข้อบันทึกนี้เยอะมาก เช่น “เราอาจจะดูละครกันมาหลายเรื่อง แต่หารู้ไม่ว่าละครที่น่าติดตามที่สุดคือชีวิตของเราเอง” “ถ้าเราไม่ตกหลุมรักตัวเองก่อน แล้วใครจะมาตกหลุมรักเรา” เป็นต้น เมื่อประตูหัวใจเปิดออกแล้ว ก็ดูเหมือนว่าบันทึกหลังจากนั้นเป็นการพิสูจน์ความแข็งแรงของหัวใจ พิสูจน์ความรักของผู้ปกป้อง และค้นพบคุณค่าภายในตนเอง แต่ละหัวข้อบันทึกในช่วงหลังนั้นต้องทำงานกับตัวเองหนักมาก เรียกว่าทำสารพัดวิธีเพื่อให้ได้คำตอบ… Continue reading บทเรียน “เขียนเยียวยา” กึ่งออนไลน์ (ธันวาคม ๒๕๕๙) (๑)
บทเรียน เขียนค้นตน ๒๕๖๐ (workshop รอบแรก)
อบรมวันที่ ๑๔ – ๑๕ มกราคม ๒๕๖๐ ในหลักสูตรเขียนเปลี่ยนชีวิต หัวข้อ “เขียนค้นตน” www.dhammaliterary.org/เขียนค้นตน เปิดอ่านเพิ่มเติมได้ตามลิงค์ด้านล่าง :
มีปีใหม่ในทุกๆ วัน
มีปีใหม่ในทุกๆ วัน เมื่อยามแรกลมหนาวของปีก่อน โบกบินมาสัมผัสทักทายบ้านเรา ต้นโมกข์และบางแมกไม้ก็ปลิดใบร่วงหล่นจนต้นเปลือย และบ้างคงแต่ใบเหลืองเหี่ยวแห้ง ใครบางคนเอ่ยว่ามันไม่น่ารอดแล้ว มันกำลังจะตาย ผมมิเห็นเช่นนั้น แต่วางใจในฤดูกาลของชีวิตและสิ่งที่ต้นไม้เหล่านั้นได้เลือกแล้ว แต่ยอมให้แม่ตัดกิ่งใบของโมกข์ลงจนแคระกว่าเดิม เพื่อให้โอกาสเขาได้ต่อยอดผลิใบใหม่ ล่วงราวสองสัปดาห์ ทุกต้นในบ้านที่ปลิดทิ้งใบไม้เสียเกลี้ยงต้น ผลิใบน้อยๆ สีเขียวน่ารักขึ้นแซมเสียงามตา มีเพียงต้นไผ่หน้าบ้านที่มิยอมปลิดใบลงมากเท่าที่ควร พยายามถนอมรักษาใบที่มีอยู่จนแห้งเหลืองไปทั้งต้น ระหว่างที่ผมบันทึกสังเกตการณ์พวกเขา ปีเก่าได้เพิ่งล่วงเลยไปได้สามวัน ตนเองนั้นมิได้เดินทางไกลเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลนี้แต่อย่างใด แต่เรียนรู้อยู่กับที่อย่างไม่ปิติยินดีการมีปีใหม่ มากไปกว่าการมีอยู่ของแต่ละวันในชีวิต ต้นไม้ที่บ้านก็มิได้ดูดีใจหรือต้องจัดงานต้อนรับปีใหม่ หากแต่เขาพร้อมที่จะทิ้งใบและงอกงามใหม่อยู่เสมอแทบทุกวัน ทิ้งหนึ่งใบเพื่อเปิดโอกาสให้ใบใหม่ก่อเกิด บางต้นมีดอกไม้รอผลิบานให้เราประหลาดใจและชื่นชม มีปีใหม่อยู่เสมอในแต่ละวันสำหรับต้นไม้ มีอยู่ในคนเราด้วยเช่นกัน สำหรับผู้ที่เห็นคุณค่าในเวลาที่มีและเปิดกว้างต่อการเริ่มต้น ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว ผมตัวเล็กๆ คนนั้นเคยปลูกต้นกุหลาบจนสูงและผลิดอกน่ารัก เป็นต้นไม้แสนรักดุจดังต้นส้มของเซเซ่ จนวันหนึ่งเขาป่วยลงและแม่บอกว่าเราต้องตัดรอนกิ่งและต้นลงเพื่อรักษาชีวิต ยามนั้นใจรู้สึกกลัวและกังวล เหมือนกำลังจะสูญเสียเพื่อนคนสำคัญ ผมออกมายืนดูเขาในยามค่ำดาวพราวแสง จับต้นสัมผัสรู้สึกรู้สา ปวดร้าวในใจลึกๆ เมื่อมองลำต้นที่กุดด้วน ผมกลัวการพลัดพรากจากลา และเขาเป็นเพื่อนที่รับฟังผมมากที่สุดคนหนึ่ง รองจากสมุดบันทึกเท่านั้นเอง แต่หากเราไม่ยินยอมให้มีการลดละลงเสียบ้าง ชีวิตคงเป็นเหมือนต้นไผ่หน้าบ้านตอนนี้ ผู้มิยอมปลิดทิ้งใบลงแต่ยอมเหลืองและแห้งเพื่อรักษาใบ ผมคงมิมีโอกาสได้เป็นเพื่อนกับต้นกุหลาบต้นนั้นต่ออีกระยะหนึ่งจนหมดอายุขัยของเขา ปีใหม่จึงจะเป็นเพียงแค่เทศกาลให้เราปลดเปลื้องภาระชั่วคราว เพียงเพื่อกลับมาแบกรับและเหนื่อยหนักอย่างเก่า ปีใหม่จึงจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ให้เราสุขสันต์… Continue reading มีปีใหม่ในทุกๆ วัน
รวมบทเรียน เขียนภาวนา ประจำปี ๒๕๕๙
รวมบางบทเรียน “เขียนภาวนา:กึ่งออนไลน์” กันยายน ๒๕๕๙ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ ครูคะ ขวัญได้อ่านบันทึกของคนอื่นแล้ว ได้เห็นว่าทุกคนต่างมีทุกข์และกําลังหาทางพ้นทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น เห็นความเข้มแข็ง ความกล้าหาญ ในคนอื่น ทําให้เห็นความเข้มแข็ง และ ความกล้าหาญในตัวเองด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะครู ___ ฉันไม่จำเป็นต้องยึด ฉันสามารถ ครั้งที่2 ฉันไม่จำเป็นต้องยึดในแบรนด์กระเป๋า นาฬิกา รองเท้า เสื้อผ้า ที่ฉันคิดว่าทำให้ฉันดูดี มีคุณค่า ไม่รู้สึกต้อยตํ่า ฉันสามารถรู้สึกมีคุณค่าได้เมื่อฉันหิ้วกระเป๋าที่ฉันชอบโดยไม่ต้องมีแบรนด์ ฉันสามารถใส่นาฬิกาที่ฉันชอบโดยที่ไม่ต้องมีแบรนด์ ฉันสามารถซื้อในเวลาที่ฉันจำเป็นต้องใช้เท่านั้น ฉันสามารถเห็นในเวลาที่ฉันอยากซื้ออยากได้ในเวลาที่ฉันไม่จำเป็นต้องใช้ ฉันสามารถให้กระเป๋า นาฬิกา รองเท้า ที่เกินความจำเป็นแก่คนที่จำเป็นกว่าฉัน ฉันสามารถขายกระเป๋า นาฬิกา ที่เกินความจำเป็น เพื่อนําเงินมาจุนเจือ เพื่อความภาคภูมิใจ ในการที่ฉันสามารถละ ลด เรื่องนี้ได้ ฉันสามารถอยู่ได้โดยไม่มีแบรนด์ ฉันไม่จำเป็นต้องยึดในแบรนด์ที่คนอื่นใส่ ฉันไม่จำเป็นต้องใส่ใจมองหาว่าคนอื่นใส่แบรนด์อะไร ของจริงหรือของปลอม ฉันไม่จำเป็นต้องคอยเปรียบเทียบว่าแบรนด์ที่ฉันใส่ดีกว่าหรือด้อยกว่าเค้า ฉันไม่จำเป็นต้องตัดสินคนจากแบรนด์ที่เค้าใส่ ฉันสามารถมองเห็นคนอื่นจากความดีงาม บุคลิคภาพ การพูดจา… Continue reading รวมบทเรียน เขียนภาวนา ประจำปี ๒๕๕๙
บันทึกวันที่พ่อจากไป
” พ่อไม่อาจอยู่กับลูกได้นานกว่านี้แล้ว พ่อจำเป็นต้องปล่อยมือเพื่อกายใจลูกจักเข้มแข็งและเติบใหญ่ พ่อมิอาจเดินต่อกับลูกไกลกว่านี้ ทั้งหมดคือนิ้วที่พ่อชี้ทาง แต่ลูกจะก้าวไปไหม . ลูกรักพ่อ หากแต่เวลานี้ได้มาถึง ดังสัญญาณที่แสงอุทัยล่วงลับ ลูกอย่าได้ฝากศรัทธาไว้ที่พ่อลำพัง หัวใจน้อยจงเป็นดวงดาว เปล่งแสงแห่งคุณค่าแก่แผ่นดินนี้ เพื่อที่สิ่งที่ดีที่สุดของพ่อ จักยังคงอยู่ในลูกทุกคน และดำรงอยู่ในบ้านที่พ่อแสนห่วงใย . ถึงเวลาลูกต้องเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองดังคำสอน พ่อจากไปเป็นสัญญาณ ว่าหมดเวลาแล้วที่ลูกจะย่ำก้าวซ้ำกับที่เดิม ลูกจำเส้นทางที่พ่อชี้ให้เห็นไหม ความดีของพ่อจักเคียงข้างทุกก้าวย่างของลูกบนทางนี้ แรงใจและแรงกายที่พ่อลงแรงเพื่อแผ่นดิน คือความเข้มแข็งในทุกมือและหยาดเหงื่อที่ลูกทำเพื่อบ้านเรา ลูกจำดวงตาที่พ่อมองต่อลูกทุกคนได้ไหม ขอให้ลูกมองพี่น้องของตนเช่นนั้น ให้รักของพ่อมีลมหายใจในลูกทุกคนเสมอ . และพ่อจักอยู่ที่นั่น ท่ามกลางหัวใจที่งดงาม ” บันทึกวันพ่อจากไป… ครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ ติดตามอ่านคอลัมน์ “บันทึกนักเขียนบำบัด” ได้ที่ https://www.dhammaliterary.org/?page_id=3904
สัมภาษณ์ “การเขียนบำบัด” กรุงเทพธุรกิจ
หลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต https://www.dhammaliterary.org/khianpianchiwit/
