ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๕)

  “เข้าเรียนคอร์สนี้เพราะรุ่นพี่ชวนมา พี่เล่าถึงคอร์สภาวนาที่เรียนมาก่อนหน้านี้ว่าทำให้เธอได้ค้นพบอะไรบางอย่าง ซึ่งมันดีมากสำหรับเธอ ก็เลยตกลงใจสมัครเรียนด้วย แรกๆ ทำด้วยความรู้สึกโลภว่า อยากทำเยอะๆ หลายๆ หัวข้อ แต่พอครูตอบกลับมา ไม่เน้นปริมาณ เน้นคุณภาพ อยากให้ค่อยๆทำ สังเกตตัวเองดีๆ จึงเปลี่ยนมาทำเมื่อรู้สึกอยากทำ ค่อยๆเขียน ให้เวลาอยู่กับตัวเอง หัวข้อบันทึกหลังๆ มักย้อนนึกถึงเรื่องราวหลากหลายที่ผ่านมาของชีวิต ได้เห็นตัวตนของตัวเองในหลายแบบ บางเรื่องราวนึกว่าลืมไปแล้ว จริงๆ ก็ยังอยู่ที่เดิม คล้ายๆกำลังรอเวลาให้เรากลับไปสงบสุขกับเรื่องราวนั้น นึกขอบคุณตัวตนที่ตัวเองเป็นในแต่ละช่วงเวลา ทุกสิ่งที่เป็นมา ดีงามที่สุดแล้ว ^^ . “เห็นตัวเองชัดเจนขึ้นในหลายๆ ด้าน ได้รู้ว่าตัวเองแสดงตัวตนด้านไหนอยู่มากที่สุดในชีวิตที่ผ่านมา ฉันต้องเข้มแข็ง จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เมื่อเราอนุญาตให้ตัวตนแสดงออกอยู่ด้านเดียว และปิดการรับรู้ตัวตนอื่นๆ ก็เหมือนกับว่าเราปฏิเสธที่จะยอมรับตัวเอง มันก็จะกลายเป็นความรู้สึกอึดอัดคับข้องใจ และอาจจะหลงลืมการดูแลตัวเอง ความต้องการของตัวเอง ชีวิตเสียสมดุล การได้เป็นตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ช่วงเวลาใด สถานการณ์อะไร มันคือ ดีที่สุดแล้ว แค่เรียนรู้ รักษาสมดุลไว้ ไปต่อได้ ก็พอแล้ว . “จงเป็นตัวของตัวเอง และอนุญาตให้คนอื่นเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน… Continue reading ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๕)

ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๔)

    “ปกติตัวเองไม่ใช่คนที่ชอบเขียนบันทึกใดๆเลย แต่คอสนี้สอนให้เขียนบันทึกโดยมีเทคนิคที่หลากหลายเช่นเขียนไม่หยุดปากกา เขียนด้วยมือที่ไม่ถนัด ทำให้ได้เรียนรู้ว่าการเขียนเป็นการระบายความรู้สึก เป็นการค้นพบตนเองในแง่มุมที่ลืมไปแล้ว ทำให้มองเห็นตนเองในอีกหลายแง่มุม ชอบมากค่ะ . “ทำให้รู้ว่าตนเองเป็นคนอย่างไร เดิมคิดว่าตนเองเป็นคนคิดดี ทำดี แต่ทำไมผู้อื่นไม่เห็นความดีของเรา เรียนคอสนี้จึงรู้ว่าจริงๆแล้วในมุมของความดีก็ยังอาจมีความไม่ดีซึ่งคนอื่นที่ไม่ชอบเรามองเห็นในแง่นั้นของเรา ทำให้ตนเองเปิดใจและความคิดให้กว้างขึ้น . “บทเรียนสำคัญ เวลาที่เราทำอะไรทุกๆอย่าง ควรคิดถึงผลกระทบของสิ่งที่ทำต่อผู้อื่นให้มากยิ่งขึ้นเพราะถ้าเราใองแต่ตัวเราฝ่ายเดียว แม้แต่สิ่งที่เราแน่ใจว่าเราทำสิ่งที่ดีๆแก่ผู้อื่น อาจเป็นสิ่งที่ผู้อื่นไม่พอใจ ไม่ต้องการ จะมองตัวเรา มองผู้อื่นด้วย พร้อมเปิดใจให้กว้าง รับฟังความคิดของผู้อื่นมากขึ้น” . คุณศรีกาญจนา (จุ๊ก) อาชีพ แม่บ้าน . . “ชอบทุกหัวข้อที่เลือก ครูให้ choice เยอะมากค่า ประทับใจในองค์ความรู้ ของครูโอเล่ การให้กำลังใจ ข้อคิดแง่คิดต่างๆ ที่นำไปสอนใจในการใช้ชีวิตได้หลากหลายสถานการณ์ . “ได้เห็นคุณค่าความแตกต่าง ของผู้คนและความจำเป็นของแต่ละคนในแต่ละสถานการณ์ ลดการตัดสินได้มาก เปิดพื้นที่ภายในในการสำรวจตน อนุญาตผู้อื่นมากขึ้น ทัศนคติกับผู้คนที่แตกต่างจากตัวเองได้เปลี่ยนไป มองเห็นข้อดีของความแตกต่างได้มากขึ้น . “บทเรียนที่ได้รับคือการให้คุณค่ากับมุมมองตนเอง โดยละเลยประสบการณ์แตกต่างของผู้คน ทำให้จิตใจร้อนรุ่มกระวนกระวายไร้ความสุข การมองเห็นคุณค่าความต่างได้ทำให้โลกในใจสว่างขึ้น… Continue reading ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๔)

ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๓)

  “เป็นความแปลกใจและทึ่งสำหรับพลังอำนาจของการเขียน สามารถทำให้ตัวเองเปลี่ยนแปลงได้ถึงขนาดนี้ รุ้สึกเหมือนการกลับมารุ้จักกับตัวเอง กลับมาเรียนรุ้ตัวเองอีกครั้ง ทำให้เราเข้าใจตัวเราเองมากขึ้น ฟังเสียงหัวใจตัวเองและที่สำคัญคือการกลับเคารพในตัวเองอีกครั้ง . “คนเราทุกคนมีจุดอ่อนแอด้วยกันทั้งนั้นไม่ว่าจะเก่งกาจเพียงใด และหากเราเข้าใจตัวเองมากพอ เราจะสามารถอยุ่บนโลกใบนี้ได้อย่างสวยงามและมีความสุข สุขจนกระทั่งสามารถแบ่งปันความสุขให้กับผู้อื่นเพียงแค่คุณรู้จักและยอมรับในตัวตนของตัวเอง” . คุณอติพร (จูน) อาชีพ Internal audit . . “จากคนที่อยู่เรื่อยๆไม่มีเป้าหมายก็ทำให้มีความใจจดใจจอเปิดเมล์ทุกวันเพื่อทำการบ้านส่ง ได้คำแนะนำดีดีจากครู ได้เห็นมุมมองความคิดอีกแบบหนึ่งที่หลงลืมไป หรือไม่ใส่ใจ ได้เรียนรู้ ได้เห็นตัวเองบางอย่างมากขึ้น ชอบหัวข้อ สายธารชีวิต ได้เขียนบรรยายความรู้สึกดีๆที่จริงๆชีวิตเราไม่ได้มีแต่เรื่องทุกข์ เรื่องดีๆมากมายก็เกิดกับชีวิตเราทำไมเราไม่จดจำสิ่งดีให้ชีวิต ชีวิตจะได้มีความสุข . “การอบรมทำให้รู้จักตัวเองและชื่นชมตัวเองมากขึ้นในความเป็นคนมีความสามารถ มีความคิดที่ดี และรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนดีระดับหนึ่ง ทำให้รู้สิ่งที่เราเคยไม่ชอบในตัวคนอื่นเพราะอะไรเพราะเขาอาจจะเป็นตัวเราในส่วนที่เราไม่ชอบตัวเองในเรื่องนั้น ทำให้ไม่โกรธ หรือเคืองคนนั้น มีแต่การให้อภัยและเข้าใจว่าเราเองก็ยังเคยทำ แล้วก็เอาข้อไม่ดีในตัวปรับปรุงจากจิดใต้สำนึกจะได้ไม่เผลอทำอะไรไม่ดีอีกโดยไม่รู้ตัว . “ทำให้เรารู้จักทั้งด้านดีและไม่ดีในตัวเองมากขึ้น และทำให้เรารู้จักอารมณ์ของตัวเองเวลาไม่พอใจใครว่าเกิดจากอะไร ทุกอย่างอยู่ที่มุมมองของเรา เอาใจเขามาใส่ใจเรา เอาใจเราใส่ใจเราอีกทีเราก็จะพบกับความสุขที่แท้จริงได้ . “เอาสิ่งที่ตัวเองเขียนสอนตัวเองตลอดๆเอาไปปฎิบัติจริงๆสักที เมื่อรู้สึกสับสนบางอย่างก็สามารถนำวิธีการเขียนนี้ไปประยุกต์ใช้เพื่อช่วยให้ความกระจ่างทางอารมณ์ ความคิดได้” . คุณอรวรรณ (เปี๊ยก) . .… Continue reading ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๓)

ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๒)

  “รู้สึกดี (ยิ้มกว้างค่ะ) รู้จักตัวเองมากขึ้น ประทับใจและขอบคุณครู นะคะ ครูคอมเมนท์เร็วมาก ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ หวังว่าจะได้พบกันอีก ขอให้ครูสุขภาพแข็งแรง ร่มเย็นเป็นสุข เป็นครูของลูกศิษย์ไปเนิ่นนาน นะคะครู ^^ . “ได้เห็นความกลัวค่ะ ก่อนอบรมเหมือนเราจะเป็นคนกล้าบ้าบิ่น..กลับไม่ใช่..ทุกครั้งที่เริ่มจะเขียนรู้สึกได้ว่า..เรากลัว…กลัวตัวตนของเราเอง กลัวอดีต..กลัวไม่ดี…กลัวผิด…แต่เมื่อทำกิจกรรมเสร็จ..เหมือนได้ปลดปล่อย…เข้าใจตัวเองได้มากและลึกซึ้งขึ้น…ทั้งในส่วนที่ดี..และส่วนที่เราต้องปรับปรุงแก้ไข . ” การมีและใช้ชีวิตอยู่ เราต้องการความสุข…ก่อนหน้านี้เรามองหาความสุขจากภายนอก..จากคนอื่น…ทำให้เราประสพทุกข์ มากกว่า ประสพสุข..หลายครั้งเราหัวฟัดหัวเหวี่ยง…ฟาดงวงฟาดงา.. บ้าบออยู่คนเดียว อยากให้คนหลายคนทำให้ถูกใจเรา …ที่สุด..การเขียนค้นตน..ทำให้พบว่าสุขที่แท้จริง..เกิดขึ้นได้จากเราเอง..มีคำสอนมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้..”ความสุขจากภายใน”แต่..หาไม่เจอ..ค้นไม่พบ..ได้เท่ากับ..เขียน ค่ะ เขียนค้นตัวตนของเราออกมาจากหลาย ๆ กิจกรรมที่ครูมอบให้…ขอบคุณครูมากนะคะ :)” . “หลายกิจกรรมที่เขียนเสร็จไป…ทำให้เราเข้าใจตัวเอง..รู้สึกดีทุกครั้งไป..ฉะนั้น.ก็จะเขียนทุกกิจกรรมของหลักสูตรนี้เลยค่ะ..ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของครู..แต่ดูเหมือนว่า..ในทุก ๆกิจกรรมเสมือนเป็นครูให้เราได้ดี …และก็ตั้งใจจะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมสนับสนุนโครงการของครูเพื่อให้อีกหลาย ๆ ชีวิต ที่ยังเป็นทุกข์..ได้พบทางออก..ได้มีชีวิตที่สุขใจมากขึ้นค่ะครู ..มีสิ่งใดให้ช่วย ถ้าสามารถทำได้..จะไม่ปฏิเสธ..บอกมาได้เลย นะคะ ครู 🙂 ” . คุณเนาวรัตน์ (ปู) อาชีพ ข้าราชการครู . . “ได้เห็นตัวตนของเราเองชัดเจนขึ้น โดยการเรียนจะไม่เร่งรัดมาก มีเวลาให้ทำแบบฝึกหัดพอประมาณ… Continue reading ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘ (๒)

ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘

  ” ได้อยู่กับตัวเองในระบบกึ่งออนไลน์ซึ่งครั้งแรกคิดว่าอยู่ในห้องเรียนน่าจะสะดวกกว่า แต่ตอนนี้เห็นด้วยกับระบบนี้ และชอบที่มีเสริมกิจกรรมในห้อง ได้อบรมแล้วเห็นว่าทุกสิ่งมาเป็นคู่ ถ้าใจเย็นเป็นข้อดีก็ต้องยอมรับความเฉื่อยที่เป็นข้อเสีย ถ้าขยันมุ่งมั่นเป็นข้อดีก็ต้องยอมรับความใจร้อนที่จะให้งานเสร็จเร็วๆเป็นข้อเสีย เป็นการเรียนรู้ที่จะยอมรับในจุดด้อยของตนเองและผู้อื่นที่มาพร้อมกับจุดเด่น . ” ทุกครั้งที่มีปัญหาคิดไม่ออก ไม่เข้าใจ ตัดสินใจไม่ได้ จะใช้การเขียนช่วย, จะพัฒนาความสัมพันธ์กับมิตรให้ดีขึ้นด้วยการยอมรับจุดด้อยที่มาพร้อมจุดเด่น ” . คุณประภัสสร (น้อยหน่า) อาชีพ ทนายความ . . “รู้สึกดีเพราะเข้าใจตัวเองในระดับลึกขึ้นและรับรู้ปัญหาภายในที่จะทำให้จะทำให้สามารถแก้ไขได้อย่างแท้จริง ได้เห็นความกลัวความรู้สึกไม่มั่นคงเป็นสิ่งที่กำลังเผชิญมาให้เห็นในรูปแบบต่างๆทุกๆวัน บางครั้งรับรู้ได้ด้วยความรู้สึกบครั้งรับรูได้จากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นทางกายหรืออาการต่างๆ เช่นปวดหัว ซึ่งเมื่อก่อนไม่รู้สาเหตุ . “จากการอบรม ตั้งใจอยู่กับทุกความรู้สึก ร้ายดี และยอมรับไม่กดดันตัวเอง ผ่อนคลายตัวเองตังเองและทำงานให้เกิดประสิทธิภาพไปด้วยการจัดการ ให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า” . คุณณัฐรดา (กันเอง) อาชีพ งานอิสระ . . ” ได้แนวทางในหัวข้อที่จะเขียนบันทึกในการมองตนมากขึ้น ได้เห็นตัวเองมากขึ้นและรู้สึกดีที่มีผู้ช่วยชี้แนะในการบันทึก ชอบหัวข้อ ไม่ใช่ตัวฉัน , ตัวตนที่หลากหลาย . ” สิ่งที่คิดว่าไม่ใช่ตัวเรา ที่แท้ก็มีอยู่แล้วในตัวเรา อาจจะเป็นแค่๓-๕%แต่ถ้าได้ฝึกฝนก็น่าจะทำได้ดีขึ้นเพื่อจะได้เห็นตัวเองในแบบที่อยากเป็น… Continue reading ความประทับใจ “เขียนค้นตน” จากผู้เรียน รุ่นที่ ๒๘

ตัวตนที่เลวร้ายไม่เคยมีอยู่ แค่ความมืดอำพราง

      ความมืดมิใช่ตัวตนของเธอ โลกหม่นเศร้ามิใช่นิยามของหัวใจ ด้านมืดคือส่วนที่แสงส่องฉายไปไม่ถึง ตัวเราในแง่ลบร้าย เพียงด้านที่แสงสว่างแห่งรัก ส่องสว่างไปไม่พอ ถูกเราและใครทอดทิ้งอยู่ตรงนั้น . โลกอันมืดมิดมิใช่ที่ซึ่งสีสันอันแท้จริงจะปรากฏ เราจะเจอกันและกันแท้จริง เมื่อเราอยู่ข้างกันตรงนี้ เมื่อกลางวันและราตรีมาบรรจบ ความเลวร้ายไม่ใช่ของเรา กิเลสตัณหาไม่ใช่ของใคร ความเศร้ามิใช่เนื้อกาย เพียงเงาที่แสงไปไม่ถึง สิ่งลบทั้งหลายเพียงมุมเงาของความทรงจำ ที่แอบซ่อนใจจากความเจ็บปวด . ด้านสว่างก็มิใช่ตัวตน เพียงขับเน้นสิ่งที่เป็นอยู่แล้ว ตัวตนที่เลวร้ายไม่เคยมีอยู่ แค่ความมืดอำพรางเธอที่เป็นจริง ความเศร้าและความสุข มิใช่ตัวเธอ แสงกับเงาแค่ตกกระทบ มิได้บ่มตัวตนหรือหัวใจ ตัวเธออันแท้จริงอยู่ตรงนั้น มิได้เห็นด้วยตา รู้ด้วยโอบกอดทุกสิ่ง . . มองให้ดี ให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้น… นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นตัวเรา นั่นไม่ใช่ตัวตน . . อนุรักษ์ ครูโอเล่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ คอลัมน์ “บทภาวนา อนัตตา” www.dhammaliterary.org  

คุณค่าแท้การให้อภัย

    คุณค่าแท้การให้ “อภัย”   การให้อภัยไม่ใช่การให้คนอื่น แต่เป็นการให้แก่ตัวเอง : การให้อภัยนั้นเรามักเข้าใจว่าเป็นการให้กับผู้อื่นที่ทำร้ายหรือกระทำสิ่งผิดต่อเราและสิ่งที่เราเกี่ยวข้อง ทว่าจริงๆ แล้วนั้นการให้อภัยเป็นการย้อนกลับมาให้ตัวเอง มอบทานที่ล้ำค่าให้แก่จิตใจนี้ . เมื่อใครอื่นทำให้เราเป็นทุกข์ เราย่อมเสียใจและเจ็บปวด อยากให้เขาชดใช้ หวังให้เขาสาสมแก่สิ่งที่กระทำ เมื่อนั้นแล้วเรากำลังทับถมตนเองด้วยความโกรธ ความเกลียด และกิเลสทั้งหลาย เราคิดจงเกลียดจงชังเช่นนั้น เรารู้สึกพยาบาทเช่นนี้ เพื่อปกป้องหัวใจตัวเองจากความเจ็บปวด แต่เราเองกำลังทำร้ายตนด้วยสิ่งลบร้ายในหัวใจ ซึ่งมีอยู่ในหัวใจของอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน . การให้อภัยแท้จริงแล้วคือการให้ตัวเองเป็นอิสระ จากความโกรธแค้น ความผูกใจเจ็บ และความเจ็บปวดที่เราทับถมตนเอง . เพราะแม้อีกฝ่ายจะได้รับผลสาสมดั่งใจเราอยากให้เป็น ความเจ็บปวดที่มีก็ใช่ว่าจะหายไปจากหัวใจ . เพราะหัวใจเรานี้จะเปรียบก็เหมือนภาชนะ ทุกสิ่งที่เราคิด พูด และทำโดยขาดสติ ย่อมเหมือนเก็บดองนองเนื่องไว้ภายในหัวใจเรานั้น . ความเจ็บปวดอันเกิดจากบุคคลอื่นกระทำต่อเรา มิได้เป็นนรกอันเลวร้าย มากไปกว่าการขังหัวใจตัวเองไว้ในความชิงชังและความเศร้าโศก . เราอาจรู้สึกว่าการบอกให้อภัยนั้นมันง่าย แต่ใจที่จะให้อภัยมันยาก ความรู้สึกที่อีกฝ่ายกระทำต่อเรามิได้หายไปง่ายดาย นั่นเพราะการให้อภัยมิใช่คำพูด แต่เป็นการทำที่หัวใจเรา ทำใจของเรา . การให้อภัยคือการปลดปล่อยใจจากความคิด ความรู้สึก และการกระทำของความโกรธเกลียดและเศร้าหมอง เพื่อให้หัวใจเราไม่ทิ่มแทงหัวใจตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า… Continue reading คุณค่าแท้การให้อภัย

เมื่อเราเรียนรู้ที่จะรักอย่างไม่สมปรารถนา

    ความรักไม่อาจเป็นของฉัน ฉันไม่อาจเป็นคนรักของเธอได้ รักนั้นมิอาจเป็นดั่งใจ เพราะรักยิ่งใหญ่กว่าตัวตน . เมื่อฉันถือว่าความรักเป็นของฉัน ดั่งดอกไม้ถูกเด็ดขึ้นมาจากต้นน้อย ฉันจะชื่นชมความงดงามได้นานเพียงใด ก่อนเหี่ยวเฉาเศร้าใจ เมื่อฉันถือว่าคนรักเป็นตัวฉัน หัวใจก็กลายเป็นกรงขัง เธอจะเห็นคุณค่าในตัวเองแท้จริงได้อย่างไร เมื่อฉันถือความรักต้องเป็นเช่นใจปรารถนา ฉันจะไม่รู้เลยว่า มีเธออยู่ในดอกไม้และดวงดาราอย่างไร . เมื่อเราเรียนรู้ที่จะรักอย่างไม่สมปรารถนา เราจึงจะรักกันได้นานแสนนาน ปล่อยดอกไม้ให้อยู่กับต้น ปล่อยรักให้เป็นความรัก แล้วเราจะเห็นความรักอยู่ตรงนั้นเสมอ ในเวลานี้ ณ ตอนนี้ ฉันเห็นเธอในแสงแดดนั้น และเราในต้นไม้ต้นน้อยๆ . . มองให้ดี ให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้น… นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นตัวเรา นั่นไม่ใช่ตัวตน . . อนุรักษ์ ครูโอเล่ ๘ มกราคม ๒๕๖๑ คอลัมน์ “บทภาวนา อนัตตา” www.dhammaliterary.org      

บทเรียนและความประทับใจ เขียนภาวนา 2560 (5)

    ” เมื่อเริ่มคิดจะฝึกด้วย”การเขียนภาวนา” ก็ได้แต่มีความสงสัยในเบื้องต้นกับวิธีการไม่ให้คิดแล้วจะเขียนเป็นคำตอบได้อย่างไร? จะเขียนมันต้องคิดก่อนหรือเปล่า? แต่แล้ว..คำตอบก็มาให้รับรู้ได้ด้วยตัวเองในขณะที่ลงมือทำตามขั้นตอนที่บทเรียนให้มา รู้สึกเหมือนการได้ทำสมาธิที่มีการกำกับด้วยสติและการตื่นรู้จากการเขียนที่มีหัวข้อความคิดโฟกัสให้แคบลงกำกับความคิดไว้ด้วย การเขียนภาวนาให้ความรู้สึกของการได้นิ่งสงบในบางขณะได้โดยไม่ต้องคิดล่วงหน้า ไม่ต้องเตรียมการณ์ รู้ว่าต้องทำเพียงหายใจเข้าให้อยู่กับความรู้สึกนั้น หายใจออกก็ให้เขียน เพิ่งรู้ว่า..การเขียนโดยไม่คิดทำได้ไม่ยากอย่างที่กลัวล่วงหน้าไว้ก่อน อาจไม่ลื่นไหลและติดขัดในตอนเริ่มต้น แต่เมื่อทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง รู้สึกดีและสนุกการได้ทำแบบฝึกหัดมาก รู้สึกได้ถึงความรู้สึกและใจที่นิ่งขึ้น และรับรู้ได้ถึงความอยากทั้งหลายทั้งปวงในสิ่งที่คิดและทำได้อย่างชัดเจนมาก ไม่เคยรู้เลยว่าชีวิตที่พยายามและตั้งใจทำให้ดีที่สุดมากเกินไป นอกจากส่งผลไม่ดีต่อใจและความคิดแล้วยังส่งผลต่อกายได้ด้วย . ” ความอยาก คือตัวการสร้างความกดดันให้กับตัวเองโดยไม่รู้ตัวมานานมาก เริ่มรู้สึกได้ถึงการปล่อยวางในสิ่งที่ทำไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ ไม่รู้สึกผิดและคิดโทษตัวเองเหมือนที่เคยเป็น สามารถบอกกับตัวเองได้ว่า..เมื่อเราทำดีที่สุด ณ เวลานั้นแล้ว ก็ควรปล่อย ละและวางให้เป็น รู้สึกได้อีกว่าความคิดในการเลือกที่จะโฟกัสและเรียงลำดับความสำคัญกับสิ่งที่ต้องทำในชีวิตประจำวันชัดเจนขึ้นกว่าเดิมมาก เหมือนจะมีสติกับการรู้เท่าทันอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้เร็วกว่าเดิม เข้าใจที่มาของปัญหาและแก้ปัญหาที่เจอได้ในเวลาไม่นาน ไม่จ่อมจมกับอารมณ์นั้นจนทำให้เกิดปัญหาในใจยาวนานเหมือนที่เคยเป็น มีความเปลี่ยนแปลงของความรู้สึกภายในในการรับมือกับสิ่งที่มากระทบใจและความรู้สึกชัดเจนจนสามารถถาม-ตอบกับตัวเองให้มีบทสรุปได้ . ” การอบรมนี้ทำให้ ได้ฝึกการรู้จักที่จะหยุดความอยาก ความพอได้มากขึ้นกว่าเดิม ได้รับรู้ถึงความพยายามที่ทำให้เกิดความกดดันภายในตนได้อย่างชัดเจนมาก ได้ทบทวนตัวเองในหลายเรื่องราว รู้จักที่จะละ วางและปล่อยให้ทุกสิ่งเป็นไปตามที่เป็นได้บ้าง อาจยังไม่สมบูรณ์นักแต่รู้สึกได้ถึงการมีแนวทางในการที่จะใช้ชีวิตให้มีความสุขตามที่เป็นได้มากกว่าเดิมมากๆ สามารถที่จะสร้างความสงบในใจด้วยการอยู่นิ่งๆได้ ไม่ทุรนทุรายและต้องมีอะไรทำตลอดเวลาเพื่อให้รู้สึกว่า“ดี”เหมือนที่เคย สบายตัว สบายกาย สบายในการคิดและตัดสินใจขึ้นอย่างมากมาย . ” รู้สึกว่ามีความเปลี่ยนแปลงได้จากความรู้สึกภายในอย่างชัดเจน มีความสงบในใจมากขึ้น… Continue reading บทเรียนและความประทับใจ เขียนภาวนา 2560 (5)

บทเรียนและความประทับใจ เขียนภาวนา 2560 (4)

    ” การได้รู้จักวิธีภาวนาแบบใหม่ผ่านการใช้ลมหายใจกำกับการเขียนนั้น ไม่เพียงเปิดโลกทัศน์แห่งการภาวนาผ่านการเขียน ยังทำให้จิตได้ตระหนักรู้ถึงการมีมีสติอยู่กับลมหายใจและการทำกิจวัตรประจำวันมากขึ้นตามไปด้วย ประกอบคำคำแนะนำของครูโอเล่ที่มีความเข้าใจในสภาวะจิตและการภาวนาอย่างลึกซึ้ง จึงทำให้ผู้เรียนได้ทั้งรับทั้งแง่คิดในการพัฒนาจิตและการฝึกภาวนาได้อย่างตรงจริตและตรงประเด็น ได้ผลลัพธ์เป็นความสุขสงบอิ่มเอมใจ รวมถึงการเข้าใจ เห็นตัวเองเป็น และวางตัวเองได้ และที่สำคัญสุดคือ เกิดปัญญา เมื่อใจได้วาง และว่างพอ . ” ได้ฝึกการลดอัตตา ลดความสงสัย ในการวางทุกอย่างที่เคยฝึกมา และลองมาฝึกตามวิธีใหม่ที่ครูแนะนำ อย่างเปิดใจ เข้าใจ และยอมรับ และลองดูผลที่ประจักษ์ได้เองแก่ใจตน เพื่อได้ฝึกที่จะเข้ามารู้ ดูใจตัวเองตามความจริงอย่างตรงไปตรงมา ยอมรับ และเข้าใจ เพื่อที่จะได้รู้ว่าแล้วเราจะปรับปรุงแก้ไข หรือเรียนรู้การวางใจได้อย่างไร ผ่านการเขียน ที่ไม่ได้เตรียมอะไรล่วงหน้า แต่ปล่อยให้ความคิดที่ผุดขึ้นมาในจิตภายใต้การกำหนดผ่านหัวข้อกิจกรรม และถ่ายทอดผ่านการเขียนที่มีลมหายใจกำกับอีกที จึงทำให้ตัดความฟุ้ง ปรุงแต่งออก กรองให้เหลือแต่สิ่งที่ใจคิดตามจริง จึงได้เห็นตัวเองตามความเป็นจริงของมันอย่างตรงไปตรงมา . ” ได้เห็นตัวเองมากขึ้น รู้จักยอมรับตัวเองตามความเป็นจริง และกระจ่างชัดขึ้นในการเห็นความเป็นไปในปัจจุบันของตัวเอง และทางที่จะนำไปสู่เป้าหมายชีวิต และพัฒนากายใจของตัวเองมากขึ้น รู้จักการใช้ชีวิตให้ช้าลงผ่านการใช้ลมหายใจกำกับการเขียน การรู้จักมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะมากขึ้น . ” ก่อนจะคิดว่าเราเป็นใคร กำลังทำอะไร และจะไปทางไหนนั้น การ… Continue reading บทเรียนและความประทับใจ เขียนภาวนา 2560 (4)