มาร่วมเปลี่ยนชีวิตผู้คนด้วยกันกับเรา ประกวดบทความสอนใจ PunnSpace Award โดย สถาบันธรรมวรรณศิลป์ ปีที่ 11 หัวข้อ “How to รักตัวเอง” บทความที่ได้รับคัดเลือกจะเผยแพร่ในคอร์สออนไลน์ฟรีเพื่อการกุศล ในโครงการ ปัญญ์ สเปซ โดยแบ่งเป็นรางวัลดีเด่น 5 รางวัล รับค่าต้นฉบับ 3,000 บาท รางวัลชมเชย 7 รางวัล รับส่วนลดค่าลงทะเบียนหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต 1,000 บาท ประกาศผลการประกวด ! อ่านรายละเอียดได้ที่ www.dhammaliterary.org/รางวัล-punnspaceaward2562/ [ กติกาการประกวด ] – รูปแบบ บทความ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการรักตัวเองที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ เสนอแนะวิธีการ และมีรูปธรรมชัดเจน – ความยาว 2-5 หน้ากระดาษเอสี่ ขนาดอักษร 16 พอยท์ เขียนด้วยภาษาไทยเท่านั้น… Continue reading ประกวดบทความสอนใจ PunnSpace Award
Author: admin
เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง #1
“เรามีคุณค่าเพราะว่ามีปมด้อย มิใช่เพราะสมบูรณ์แบบ” ผมคงไม่เริ่มศึกษาการเขียนเพื่อการเยียวยาและพัฒนาชีวิต หากไม่ได้เกิดมาพร้อมกันเยื่อพังผืดติดใต้ลิ้นตรงใกล้ปลายๆ ทำให้พูดไม่ชัดและออกเสียงบางอักษรได้ไม่ถูกต้อง แล้วโชคร้าย เพราะกว่าจะมีหมอคนใดสามารถวินิจฉัยได้อย่างถูกต้อง ก็ตระเวนไปหาคำตอบและทางรักษาหลายที่ จนเมื่อพบสาเหตุที่ซ่อนอยู่ตรงหน้าผมก็อายุย่าง 11 ขวบแล้ว ความมั่นใจที่จะพูดและสื่อสารกับโลกภายนอก โบยบินไปกับช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การฝึกพูดแล้ว . การกระดกลิ้นไม่ได้ทำให้ผมถูกล้อเรื่องเสียงพูดบ่อยครั้งนัก ทั้งจากเพื่อนเด็กนักเรียนและคุณครู โรงเรียนไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยสำหรับผมนัก และกว่าจะพบสาเหตุสำคัญก็ไม่มีใครเข้าใจว่าเหตุใดผมจึงไม่สามารถฝึกออกเสียงและพูดได้เหมือนเด็กคนอื่น ทำให้การปรับตัวเมื่อต้องย้ายโรงเรียนมาเรียนต่อกรุงเทพ เป็นสิ่งที่ยากเข็ญนัก . ผมมีที่พักใจ คือกองกระดาษใช้แล้วจากบริษัทที่พ่อทำงาน นั่นคือสมุดบันทึกเล่มแรกของผม ที่ซึ่งผมสามารถหลบพักจากโลกที่ผมไม่สามารถพูดและปรับตัวกับเพื่อนได้อย่างสมบูรณ์อย่างที่เด็กคนหนึ่งควรทำได้ อยู่กับจินตนาการและเพื่อนรับฟังที่ดีที่สุด . ผมเริ่มจากการชอบวาดรูปก่อน พยายามสร้างสรรค์เรื่องราวเลียนแบบจากภาพยนตร์และการ์ตูน แต่อนิจจา ฝีมือผมนั้นแย่มาก แล้วผมก็อยากให้พ่อแม่ท่านอ่านรู้เรื่อง ผมจึงต้องเขียนบอกว่า อันนี้ที่วาดคืออะไร อันนั้นคืออะไร เขียนบอกไว้ประกอบภาพ จนแล้วจนเล่าคิดว่าคงไม่เหมาะกับการวาดรูปแล้ว จึงเขียนเยอะขึ้นไปตามลำดับ . โชคร้ายกลายเป็นดีได้เสมอ หากผมวาดรูปเก่ง หรือเกิดมาพูดชัดเจน ผมคงให้เวลาสนใจเรื่องอื่นๆ มากกว่า ปัจจุบันคงไม่ได้เป็นครูผู้สอนการเขียนเพื่อเปลี่ยนแปลงตนเอง หรือดูแลสถาบันธรรมวรรณศิลป์มาจนถึงวันนี้ . การที่ต้องไปหาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเรื่องเด็กหลายคน แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการออกเสียงของตัวเองได้ มีผลกระทบทางใจกับผมอย่างน้อยสองอย่าง อย่างแรก ทำให้สงสัยถึงสาเหตุของสิ่งต่างๆ… Continue reading เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง #1
รายชื่อผู้ผ่านการอบรม และสรุปบทเรียน “เขียนเยียวยา”
รายชื่อผู้ผ่านการอบรม และสรุปบทเรียน “เขียนเยียวยา” (Writing Therapy Course) ในหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๓๓ เรียนทางไกลสี่สัปดาห์ “มีความประทับใจในการเรียนรู้แบบออนไลน์มากค่ะ ตอนแรกไม่ค่อยเชื่อว่าการเรียนแบบนี้จะเข้าถึงการพัฒนาจิตใจได้ เพราะไม่เจอครู แต่พอรับการอบรมพบว่าทุกบทเรียนเข้าถึงหัวใจทุกครั้ง เปิดประสบการณ์และความเข้าใจต่อตนเองในด้านที่เราไม่เคยนึกถึงหรือไม่เคยขุดมันออกมาดู จากการปฏิบัติกิจกรรมตนเองได้แนวทางการคิดและสำคัญที่สุดคือการค้นพบว่าตัวเองไม่ค่อยอ่อนโยนกับตัวเองเท่าไร ไม่ดูแลใจและร่างกายของตัวเอง หลังจากการอบรมตัวเองคุยกับตัวเองบ่อยขึ้น ยิ้มให้กับความโชคดีของตัวเองทุกวัน ขอบคุณร่างกายและดูแลร่างกายมากขึ้น รวมทั้งการแก้ปมในใจที่มีต่อคนใกล้ชิดรอบๆตัว . “สิ่งที่ได้กลับมาดูแลคือความใส่ใจในร่างกายและจิตใจตนเอง รู้สึกอ่อนโยนกับตัวเองมากขึ้น ไม่โบยตีตัวเองจากความรู้สึกผิดที่เกิดจากประสบการณ์ในชีวิต รับรู้ว่าการเป็นคนคุณค่าของเราไม่ได้อยู่ที่การทำถูกหรือทำผิด แต่ขึ้นอยู่กับวิธีคิดของเราว่าจะเห็นเรื่องนั้นว่าเป็นความเป็นความตาย หรือจริงๆแล้วมันคือธรรมชาติของสรรพสิ่ง มันดำเนินไปเรื่อยๆ มีแต่เราที่พยายามยึดสิ่งโน้นสิ่งนี้ กักความสุขความทุกข์ไว้กับตัว ทั้งๆที่ธรรมชาติของมันดั่งสายน้ำไหลเลยเรื่อยไป ถ้าเห็นธรรมชาติข้อนี้ ก็คลายทุกข์และไม่ยึดติดกับความสุขมากเกินไปค่ะ” . คุณสิริลักษณ์ (ปู) อาชีพ ครู . . “รู้สึกทึ่ง กับวิธีการอบรมแบบนี้ ที่ให้ผลดี ในการเรียนรู้เข้าใจตัวเอง กลับมาฟังตัวเอง หลังการอบรมรู้สึกว่าวิธีการเขียนสื่อสารกับหัวใจตัวเองเป็นทางที่ตัวเองจะฝึกฝนเลือกใช้เดินทางไปข้างหน้าเวลาเกิดปัญหาอุปสรรค . “ชอบหลายหัวข้อ ฟังใจ… Continue reading รายชื่อผู้ผ่านการอบรม และสรุปบทเรียน “เขียนเยียวยา”
ผลงานเรื่องสั้นเยาวชนที่ได้รับรางวัล ธรรมวรรณศิลป์ ครั้งที่ ๘
สามารถเปิดอ่านผลงานได้ โดยการคลิกที่ภาพและลิงก์ด้านล่างนี้ โดยอ่านรายละเอียดการประกวดได้ที่ https://www.dhammaliterary.org/ประกวดงานเขียนเยาวชน/
๘ วิธีเข้มแข็งจากภายใน ไม่ยากเลย (ตอนสอง)
๘ วิธีเข้มแข็งจากภายใน ไม่ยากเลย (ตอนสอง) ๕ อย่าพยายามหนีความจริงและความรับผิดชอบ : . ความเข้มแข็งที่แท้จริงเกิดจากการกล้าเผชิญหน้าด้วยใจยอมรับ ยิ่งเราพยายามหนีปัญหาและหาทางลัด บอกปัดความรับผิดชอบ หรือตีกรอบเป็นกำแพงด้วยความคิดและข้ออ้าง ไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา ยิ่งทำให้จิตใจเราอ่อนแอลง . เพียงแค่เรายอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความรับผิดชอบ ตอนนั้นเราก็กล้าหาญมากแล้ว และมีโอกาสที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมไปกับพัฒนาตนเอง ต้องมีความกล้าเท่านั้นจึงจะยอมรับความจริงและรับผิดชอบได้ คนที่ไม่กล้ายอมรับและรับผิดชอบสิ่งต่างๆ คือคนที่ไม่อาจเห็นความเข้มแข็งในตนเองได้เลย . หากเราพยายามแต่จะปกป้องตนเองและหาทางลัด เราอาจรอดไปจากเหตุการณ์นั้นได้ชั่วคราว แต่เราจะไม่เติบโต ไม่รู้สึกภาคภูมิกับตนเอง และเกิดเรื่องเดิมขึ้น เราก็จะทุกข์อีกและมีแนวโน้มว่าจะซ้ำร้ายกว่าเดิม . เมื่อใจรู้สึกทุกข์ หากขาดสติแล้วใจก็มักจะพยายามหนีความทุกข์หรือสร้างกำแพงขึ้นมาห่อล้อมใจไว้ เป็นไปตามความเคยชิน แต่ปัญหาก็จะไม่ได้รับการแก้ไขและตัวเราก็จะไม่เข้าใจความจริงของชีวิต เพราะปัญหาหรือทุกข์ที่เกิดขึ้นคือความจริง การยิ่งพยายามหนีจากทุกข์ยิ่งทำให้เราหลอกตัวเอง ทำมากเข้าก็หลอกตัวเองเป็นชั้นๆ ทับซ้อนจนเป็นเงื่อนปมซับซ้อน . การเข้มแข็งจากภายในเกิดจากการเคารพตนเอง ภาคภูมิใจในตนเองได้ ยิ่งเรายอมแพ้แก่ความอ่อนแอข้างใน วงจรการหลอกตัวเองและการพยายามหนีจากทุกข์ก็จะดำเนินต่อไป ย้ำความอ่อนแอแก่ใจมากขึ้นๆ เมื่อถึงที่สุดทุกข์ก็จะทุกข์ยิ่งกว่าที่เป็นจริง ด้วยใจที่ไม่ยอมรับความจริงนั้น . ความรับผิดชอบคือคุณสมบัติสำคัญของผู้มีความเข้มแข็งจากข้างใน ความรับผิดชอบนี้เกิดจากการรู้หน้าที่ แต่ก็เกิดจากการยอมรับความจริงที่เป็นด้วย เพราะยอมรับความจริงเท่านั้น เราจึงรู้ว่าควรทำอะไรและไม่ควรทำสิ่งใด… Continue reading ๘ วิธีเข้มแข็งจากภายใน ไม่ยากเลย (ตอนสอง)
ความประทับใจ “เขียนเยียวยา” ประจำปี ๒๕๖๑ (พฤษภาคม) (๗)
“รู้สึกว่าการอบรมแบบนี้เป็นการช่วยบำบัดเยียวยาจิตใจของเรา ค้นหาสิ่งที่อยู่ภายในใจ ดึงความรู้สึกทุกข์ที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในใจเราออกมา และดึงความสุขที่เคยมีแต่หลงลืมไปให้กลับมาเยียวยาจิตใจเราได้ . “ทำให้กลับมามองเห็นคุณค่าของตัวเองที่หลงลืมไป มัวหลงให้ความสำคัญในสิ่งที่ผู้อื่นมองเรา ใส่ใจและผิดหวังหากผู้อื่นไม่เห็นในสิ่งที่เราเป็น หรือพยายามเป็นในสิ่งที่ผู้อื่นต้องการ แต่การกลับมาเป็นตัวเอง ให้ความสำคัญกับตัวเอง ใส่ใจกับตัวเอง ทำให้รู้สึกตัวเองมีคุณค่าและภูมิใจในตัวเอง” . คุณฐิติพร (มะเหมี่ยว) อาชีพ อิสระ . . “เคยมีโอกาสเรียนคอร์สออนไลน์บางเรื่องมาก่อนบ้าง แต่คอร์สของครูโอเล่แตกต่างมากครับ ตอนแรกก่อนลงสมัครก็คิดว่าไม่น่าจะยาก และคิดว่าคงไม่ต้องทำอะไรมากเหมือนคอร์สอื่นๆ ประหลาดใจมากที่มีบทเรียนให้เรียนรู้หลากหลาย มีสื่อทั้งใบงานและคลิปเสียง มีพิเศษนอกรอบอีก แถมมีสรุปทบทวนตนเองอีก นอกจากนี้สิ่งที่ชอบที่สุดคือการทีครูตอบอีกเมล์เร็วมาก และตอบได้เหมือนกับว่ามาเรียนกันอยู่ตรงหน้า ต้องขอบคุณครูโอเล่จริงๆครับทุ่มเทพลังในการดูแลชี้แนะแก่ผู้เข้าร่วมอบรมทั้งหลาย สุดยอดจริงๆครับ . “หัวข้อที่สะเทือนความรู้สึกและความคิดที่สุดคือ มอบดอกไม้ และ จดหมายจากร่างกาย จากการอบรมทำให้เกิดความสำเร็จจากการเอาชนะเสียงในหัวของตนเอง ยินดีให้กับความมุ่งมั่นและพยายามของตัวเอง วันนี้บอกตัวเองว่าทำได้แค่ตัดสินใจแล้วลงมือทำ จะเก็บความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่จากสิ่งเล็กๆนี้ไว้นึกย้อนดูในวันที่เจอเรื่องราวคล้ายๆกัน เก็บไว้เป็นพลังใจ” . คุณจิระวุฒิ (จู๊ด) อาชีพ เเพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป . . “ประทับใจครูโอเล่ที่ใส่ใจกับการเขียน มองเห็นถึงความรู้สึกที่อยู่ในงานเขียน และ แนะนำให้เขียนงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวเนื่อง… Continue reading ความประทับใจ “เขียนเยียวยา” ประจำปี ๒๕๖๑ (พฤษภาคม) (๗)
รายชื่อผ่านการอบรม และ สรุปการเรียน เขียนภาวนา 2561
รายชื่อผู้ผ่านการอบรม : “เขียนภาวนา” ในหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๓๒ การเขียนเพื่อเจริญสติ ขัดเกลาใจ และพิจารณาธรรม ๔ สัปดาห์ กับครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ ส่วนหนึ่งของบทเรียน “รู้สึกขอบคุณตัวเองที่พาให้มาเจอคอร์สอบรมการเขียนนี้และขอบคุณครูโอกาสที้ให้โอกาสเปิดคอร์สนี้และให้คำแนะนำในการเขียนภาวนาที่ผ่านมา ได้กลับเข้ามาทบทวนและเห็นคุณค่าหัวใจตัวเองมากยิ่งขึ้น . “ชอบหัวข้อ ทางสายกลางรู้สึกตระหนักเห็นคุณค่าและเคารพหัวใจตัวเอง ได้ฝึกกลับมาอยู่กับลมหายใจของปัจจุบัน เห็นคุณค่าของเวลาในปัจจุบันเรียนรู้บทเรียนจากอดีตที่ผิดพลาดมาสอนตัวเอง ช่วยพัฒนาใจให้เข้มแข็งและอ่อนโยน ได้มองเห็นสิ่งต่างอย่างที่เป็นไม่เอาความคิดเราไปตัดสินโทษใครๆ ยอมรับความจริงที่เข้ามาในชีวิตเพราะเราเลือกของเราเองทั้งดีและไม่ดีมีทั้ง 2 ด้าน ใจค่อยยอมรับและเห็นคุณค่าตัวเองคะ . “ได้ฝึกฝืนจากความเคยชินเดิมๆ ที่ใจร้อนทำไรรวดเร็ว มันมีขัดใจช่วงเขียนแรกๆพอเขียนไปใจปรับไปได้เป็นเบาสบายไม่กดดันใจตัวเองรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น และเห็นคุณค่าของลมหายใจที่มีอยู่ในปัจจุบัน รู้สึกขอบคุณและกราบหัวใจตัวเองได้ เห็นค่าตอนนี้เวลานี้เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดมากๆเลยคะ” . จากคุณสุภาวดี (เอ๋) อาชีพ กิจการส่วนตัว . . “การมีสติสมาธิเขียนหนึ่งคำหนึ่งลมหายใจ เป็นสิ่งที่ดึงเราให้อยู่กับปัจจุบัน ได้รับรู้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นแต่ละขณะ พร้อมเริ่มต้นใหม่เสมอ ปล่อยวางความกังวล ความคิด… Continue reading รายชื่อผ่านการอบรม และ สรุปการเรียน เขียนภาวนา 2561
คนที่เธอห่วงใยจะใช้ชีวิตของเขาเอง
คนที่เธอห่วงใยจะใช้ชีวิตของเขาเอง ป้ายที่ติดให้เขาเป็น “ลูก” , “ลูกศิษย์” , “คนสนิท” , “ที่รัก” , “คนสำคัญ” ไม่ใช่ตัวตนอันแท้จริงให้ยึดติด . แม้ผ่านทางมาจากกายและหัวใจ คนที่ห่วงใยก็มิใช่ของให้ครอบครอง สิ่งที่เขาคิดและตัดสินใจ มิอาจใช่ตัวตนของเธอ เราใช้ชีวิตและเติบโตผ่านกายใจตนเท่านั้น . เขามิอาจเป็นอย่างที่เธออยาก เราต่างก้าวเดินไปด้วยจิตจำนงอันเสรี เส้นทางชีวิตเพียงบรรจบและแยกจาก หาใช่สิ่งกำหนดลดคุณค่าที่เธอมี . คนที่ห่วงใยมิใช่ตัวตนที่แต่งปั้น เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แค่ปัจจัยแต่งปรุง ความห่วงใยมิใช่ของใช้ให้ผูกมั่น ความปรารถนาดีเริ่มจากการยอมรับ . เพียงต่างเติบโตตามวาระและปัจจัย เราจะเป็นไปตามห่วงสายใยกรรม . . มองให้ดี ให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้น… นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นตัวเรา นั่นไม่ใช่ตัวตน . . อนุรักษ์ ครูโอเล่ คอลัมน์ “บทภาวนา อนัตตา” ตอนที่ ๑๑ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๑ . ติดตามอ่านบทความ… Continue reading คนที่เธอห่วงใยจะใช้ชีวิตของเขาเอง
ความประทับใจ “เขียนเยียวยา” ประจำปี ๒๕๖๑ (พฤษภาคม) (๖)
“รู้สึกประทับใจในพลังของการเขียนที่สามารถช่วยเยียวยาหัวใจได้ค่ะ มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ การอบรมรูปแบบนี้ไม่เหมือนที่ไหนแต่ประทับใจมากค่ะ ได้มองความสุขได้มากขึ้นและละเอียดขึ้น เห็นความอบอุ่นที่รายล้อมตัวเราได้มากขึ้น ว่าเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว และหนทางก็ไม่ได้มืดมนอย่างที่คิด แค่หยุดฟังเสียงในใจ ก็จะพบเจอทางออกมากมาย . “บางครั้งเราต้องหยุดความเร็วของชีวิตลงบ้าง เพื่อพิจารณาสิ่งต่างๆในชีวิตอย่างถ่องแท้อีกครั้งจากตัวตนที่แท้จริงงของตัวเอง ว่าเราต้องการสิ่งใด และมีสิ่งใดที่เราควรทำต่อจากนี้อีกบ้าง” . จากคุณอรพรรณ (ฮุง) อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว . . “นอกจากได้รู้จักตัวเองมากขึ้นแล้ว ยังได้ยินเสียงที่เป็นรายละเอียดจากภายในอื่นๆที่ยังไม่เคยมีโอกาสได้พูดคุยกับเค้า เช่นเสียงจากอวัยวะ จากร่างกาย เสียงจากหัว จากใจ ทำให้รู้ว่าหลายสิงหลายอย่างในตัวเราได้ถูกขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องจากสิ่งที่อยู่รอบกาย จากความคิด การตีความที่จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ความไม่จริงหลายๆอย่างทำให้เดินหลงทางมาตลอด . “จากการอบรม รู้สึกว่าชีวิตควรช้าลง ช้าในการที่จะตัดสินใจ เพราะเราเคยสัมผัส และเห็นบางสิ่งที่เป็นนามธรรมได้ชัดเจนกว่าเดิม เช่นความกลัว ความรัก ความคิด ที่เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรม เราคงต้องฝึกที่จะมองบ่อยๆเพื่อให้รู้เท่าทันมากกว่าเดิม ทำให้ได้ข้อคิดว่าคนในสังคมส่วนใหญ่ในทุกวันนี้ ล้วนเดินทางในเส้นทางที่ไม่มีโอกาสได้กลับมาทบทวนชีวิตในแง่มุมที่เป็นจริงมากกว่าเดิม ไม่เคยทบทวนความคิด ความกลัว ไม่ได้ให้ความสำคัญในการหาความสมดุล เพราะความเร่งรีบในการใช้ชีวิต ทำให้การตัดสินใจ ต่างๆล้วนไม่ได้ผ่านการใคร่ครวญ ปัญหาสุขภาพจึงตามมา มีคนป่วยอยู่มากมายกับการรักษาที่ปลายเหตุ ไม่ได้รักษาที่แก่น สูญเสียเงิน… Continue reading ความประทับใจ “เขียนเยียวยา” ประจำปี ๒๕๖๑ (พฤษภาคม) (๖)
ความประทับใจ “เขียนเยียวยา” ประจำปี ๒๕๖๑ (พฤษภาคม) (๕)
“รู้สึกเป็นมิตรกับตัวเองมากขึ้น เหมือนด้านในของตัวเองได้รับการเยียวยา ปัญหา ความอึดอัดคับข้องใจที่ผ่านมา บางทีเราก็ไม่ แม้แต่อยากจะคิดถึง ทำลืมๆ ทำเป็นไม่ใส่ใจ เราคงกลัวอัดอัด กลัวเป็นทุกข์ จริงๆ แล้วเราหลอกตัวเองนั้นแหละ แต่น่าแปลกที่เมื่อเราเขียนถึงมัน แม้จะไม่สามารถแก้ปัญหา หรือทำให้ความทุกข์หายไปได้ในทันที เรากลับรู้สึกผ่อนคลาย เห็นภาพของปัญหาของความทุกข์ชัดเจนขึ้น ช่วยปลดปล่อยให้ตัวเองเป็นอิสระ และมีความสุขขี้น การเขียนช่วยให้เราทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตที่ผ่านมา ทั้งดี และร้าย ทั้งงดงาม และน่ากลัว แต่เมื่อผ่านมาแล้ว เราก็ยังสามารถอมยิ้มให้ได้ทั้งกับความสุข และความทุกข์ . “เราต้องกลับมาดูแลเอาใจใส่ความต้องการที่แท้จริงของตัวเองให้มากกว่านี้ ลดความวิตกกังวล และพยายามก้าวผ่านความกลัวไปให้ได้ ชีวิตนี้เป็นของเรา เป็นหน้าที่เราที่จะทำให้มีความสุข” . จากคุณชนาพศ (โจ้) อาชีพ พนักงานบริษัท . . “รู้สึกดีที่ได้เริ่มลงมือเขียนบันทึก ได้ลงมือทำโดยก้าวผ่านความขี้เกียจ ก้าวผ่านความสมบูรณ์แบบที่เราคาดหวังกับตัวเอง ทำให้เรารักและรู้สึกดีกับตัวเองอย่างที่เป็นตัวเรามากขึ้น ที่ชอบที่สุดคือเวลาครูตรวจการบ้านแล้วครูให้คำแนะนำและให้กำลังใจส่งกลับมาให้ ได้อ่านทีไรก็ทำให้มีน้ำตาไหลซึ้งใจทุกข้อความ จากการอบรมทำให้ได้ระบายความรู้สึก ช่วยคลายความอึดอัด ทำให้เราได้กลับมาสำรวจความรู้สึกและความต้องการของตัวเองมากขึ้นเมื่อได้มองเห็นสิ่งดีๆทั้งของตนเอง ผู้คนและสิ่งต่างๆรอบข้างได้มากขึ้น ก็ทำให้เรารู้สึกรักและยอมรับตนเอง ผู้คน สิ่งต่างๆเหตุการณ์ต่างๆได้มากขึ้น… Continue reading ความประทับใจ “เขียนเยียวยา” ประจำปี ๒๕๖๑ (พฤษภาคม) (๕)
