รายชื่อผู้ผ่านการอบรม : “เขียนภาวนา” ในหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๓๒ การเขียนเพื่อเจริญสติ ขัดเกลาใจ และพิจารณาธรรม ๔ สัปดาห์ กับครูโอเล่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ ส่วนหนึ่งของบทเรียน “รู้สึกขอบคุณตัวเองที่พาให้มาเจอคอร์สอบรมการเขียนนี้และขอบคุณครูโอกาสที้ให้โอกาสเปิดคอร์สนี้และให้คำแนะนำในการเขียนภาวนาที่ผ่านมา ได้กลับเข้ามาทบทวนและเห็นคุณค่าหัวใจตัวเองมากยิ่งขึ้น . “ชอบหัวข้อ ทางสายกลางรู้สึกตระหนักเห็นคุณค่าและเคารพหัวใจตัวเอง ได้ฝึกกลับมาอยู่กับลมหายใจของปัจจุบัน เห็นคุณค่าของเวลาในปัจจุบันเรียนรู้บทเรียนจากอดีตที่ผิดพลาดมาสอนตัวเอง ช่วยพัฒนาใจให้เข้มแข็งและอ่อนโยน ได้มองเห็นสิ่งต่างอย่างที่เป็นไม่เอาความคิดเราไปตัดสินโทษใครๆ ยอมรับความจริงที่เข้ามาในชีวิตเพราะเราเลือกของเราเองทั้งดีและไม่ดีมีทั้ง 2 ด้าน ใจค่อยยอมรับและเห็นคุณค่าตัวเองคะ . “ได้ฝึกฝืนจากความเคยชินเดิมๆ ที่ใจร้อนทำไรรวดเร็ว มันมีขัดใจช่วงเขียนแรกๆพอเขียนไปใจปรับไปได้เป็นเบาสบายไม่กดดันใจตัวเองรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น และเห็นคุณค่าของลมหายใจที่มีอยู่ในปัจจุบัน รู้สึกขอบคุณและกราบหัวใจตัวเองได้ เห็นค่าตอนนี้เวลานี้เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดมากๆเลยคะ” . จากคุณสุภาวดี (เอ๋) อาชีพ กิจการส่วนตัว . . “การมีสติสมาธิเขียนหนึ่งคำหนึ่งลมหายใจ เป็นสิ่งที่ดึงเราให้อยู่กับปัจจุบัน ได้รับรู้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นแต่ละขณะ พร้อมเริ่มต้นใหม่เสมอ ปล่อยวางความกังวล ความคิด… Continue reading รายชื่อผ่านการอบรม และ สรุปการเรียน เขียนภาวนา 2561
Author: admin
คนที่เธอห่วงใยจะใช้ชีวิตของเขาเอง
คนที่เธอห่วงใยจะใช้ชีวิตของเขาเอง ป้ายที่ติดให้เขาเป็น “ลูก” , “ลูกศิษย์” , “คนสนิท” , “ที่รัก” , “คนสำคัญ” ไม่ใช่ตัวตนอันแท้จริงให้ยึดติด . แม้ผ่านทางมาจากกายและหัวใจ คนที่ห่วงใยก็มิใช่ของให้ครอบครอง สิ่งที่เขาคิดและตัดสินใจ มิอาจใช่ตัวตนของเธอ เราใช้ชีวิตและเติบโตผ่านกายใจตนเท่านั้น . เขามิอาจเป็นอย่างที่เธออยาก เราต่างก้าวเดินไปด้วยจิตจำนงอันเสรี เส้นทางชีวิตเพียงบรรจบและแยกจาก หาใช่สิ่งกำหนดลดคุณค่าที่เธอมี . คนที่ห่วงใยมิใช่ตัวตนที่แต่งปั้น เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แค่ปัจจัยแต่งปรุง ความห่วงใยมิใช่ของใช้ให้ผูกมั่น ความปรารถนาดีเริ่มจากการยอมรับ . เพียงต่างเติบโตตามวาระและปัจจัย เราจะเป็นไปตามห่วงสายใยกรรม . . มองให้ดี ให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้น… นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นตัวเรา นั่นไม่ใช่ตัวตน . . อนุรักษ์ ครูโอเล่ คอลัมน์ “บทภาวนา อนัตตา” ตอนที่ ๑๑ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๑ . ติดตามอ่านบทความ… Continue reading คนที่เธอห่วงใยจะใช้ชีวิตของเขาเอง
ความประทับใจ “เขียนเยียวยา” ประจำปี ๒๕๖๑ (พฤษภาคม) (๖)
“รู้สึกประทับใจในพลังของการเขียนที่สามารถช่วยเยียวยาหัวใจได้ค่ะ มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ การอบรมรูปแบบนี้ไม่เหมือนที่ไหนแต่ประทับใจมากค่ะ ได้มองความสุขได้มากขึ้นและละเอียดขึ้น เห็นความอบอุ่นที่รายล้อมตัวเราได้มากขึ้น ว่าเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว และหนทางก็ไม่ได้มืดมนอย่างที่คิด แค่หยุดฟังเสียงในใจ ก็จะพบเจอทางออกมากมาย . “บางครั้งเราต้องหยุดความเร็วของชีวิตลงบ้าง เพื่อพิจารณาสิ่งต่างๆในชีวิตอย่างถ่องแท้อีกครั้งจากตัวตนที่แท้จริงงของตัวเอง ว่าเราต้องการสิ่งใด และมีสิ่งใดที่เราควรทำต่อจากนี้อีกบ้าง” . จากคุณอรพรรณ (ฮุง) อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว . . “นอกจากได้รู้จักตัวเองมากขึ้นแล้ว ยังได้ยินเสียงที่เป็นรายละเอียดจากภายในอื่นๆที่ยังไม่เคยมีโอกาสได้พูดคุยกับเค้า เช่นเสียงจากอวัยวะ จากร่างกาย เสียงจากหัว จากใจ ทำให้รู้ว่าหลายสิงหลายอย่างในตัวเราได้ถูกขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องจากสิ่งที่อยู่รอบกาย จากความคิด การตีความที่จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ความไม่จริงหลายๆอย่างทำให้เดินหลงทางมาตลอด . “จากการอบรม รู้สึกว่าชีวิตควรช้าลง ช้าในการที่จะตัดสินใจ เพราะเราเคยสัมผัส และเห็นบางสิ่งที่เป็นนามธรรมได้ชัดเจนกว่าเดิม เช่นความกลัว ความรัก ความคิด ที่เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรม เราคงต้องฝึกที่จะมองบ่อยๆเพื่อให้รู้เท่าทันมากกว่าเดิม ทำให้ได้ข้อคิดว่าคนในสังคมส่วนใหญ่ในทุกวันนี้ ล้วนเดินทางในเส้นทางที่ไม่มีโอกาสได้กลับมาทบทวนชีวิตในแง่มุมที่เป็นจริงมากกว่าเดิม ไม่เคยทบทวนความคิด ความกลัว ไม่ได้ให้ความสำคัญในการหาความสมดุล เพราะความเร่งรีบในการใช้ชีวิต ทำให้การตัดสินใจ ต่างๆล้วนไม่ได้ผ่านการใคร่ครวญ ปัญหาสุขภาพจึงตามมา มีคนป่วยอยู่มากมายกับการรักษาที่ปลายเหตุ ไม่ได้รักษาที่แก่น สูญเสียเงิน… Continue reading ความประทับใจ “เขียนเยียวยา” ประจำปี ๒๕๖๑ (พฤษภาคม) (๖)
ความประทับใจ “เขียนเยียวยา” ประจำปี ๒๕๖๑ (พฤษภาคม) (๕)
“รู้สึกเป็นมิตรกับตัวเองมากขึ้น เหมือนด้านในของตัวเองได้รับการเยียวยา ปัญหา ความอึดอัดคับข้องใจที่ผ่านมา บางทีเราก็ไม่ แม้แต่อยากจะคิดถึง ทำลืมๆ ทำเป็นไม่ใส่ใจ เราคงกลัวอัดอัด กลัวเป็นทุกข์ จริงๆ แล้วเราหลอกตัวเองนั้นแหละ แต่น่าแปลกที่เมื่อเราเขียนถึงมัน แม้จะไม่สามารถแก้ปัญหา หรือทำให้ความทุกข์หายไปได้ในทันที เรากลับรู้สึกผ่อนคลาย เห็นภาพของปัญหาของความทุกข์ชัดเจนขึ้น ช่วยปลดปล่อยให้ตัวเองเป็นอิสระ และมีความสุขขี้น การเขียนช่วยให้เราทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตที่ผ่านมา ทั้งดี และร้าย ทั้งงดงาม และน่ากลัว แต่เมื่อผ่านมาแล้ว เราก็ยังสามารถอมยิ้มให้ได้ทั้งกับความสุข และความทุกข์ . “เราต้องกลับมาดูแลเอาใจใส่ความต้องการที่แท้จริงของตัวเองให้มากกว่านี้ ลดความวิตกกังวล และพยายามก้าวผ่านความกลัวไปให้ได้ ชีวิตนี้เป็นของเรา เป็นหน้าที่เราที่จะทำให้มีความสุข” . จากคุณชนาพศ (โจ้) อาชีพ พนักงานบริษัท . . “รู้สึกดีที่ได้เริ่มลงมือเขียนบันทึก ได้ลงมือทำโดยก้าวผ่านความขี้เกียจ ก้าวผ่านความสมบูรณ์แบบที่เราคาดหวังกับตัวเอง ทำให้เรารักและรู้สึกดีกับตัวเองอย่างที่เป็นตัวเรามากขึ้น ที่ชอบที่สุดคือเวลาครูตรวจการบ้านแล้วครูให้คำแนะนำและให้กำลังใจส่งกลับมาให้ ได้อ่านทีไรก็ทำให้มีน้ำตาไหลซึ้งใจทุกข้อความ จากการอบรมทำให้ได้ระบายความรู้สึก ช่วยคลายความอึดอัด ทำให้เราได้กลับมาสำรวจความรู้สึกและความต้องการของตัวเองมากขึ้นเมื่อได้มองเห็นสิ่งดีๆทั้งของตนเอง ผู้คนและสิ่งต่างๆรอบข้างได้มากขึ้น ก็ทำให้เรารู้สึกรักและยอมรับตนเอง ผู้คน สิ่งต่างๆเหตุการณ์ต่างๆได้มากขึ้น… Continue reading ความประทับใจ “เขียนเยียวยา” ประจำปี ๒๕๖๑ (พฤษภาคม) (๕)
๘ วิธีเข้มแข็งจากภายใน ไม่ยากเลย (ตอนแรก)
๘ วิธีเข้มแข็งจากภายใน ไม่ยากเลย (ตอนแรก) บางครั้งเราต้องยิ้มแม้หัวใจกำลังร้องไห้ พยายามให้ภายนอกดูเข้มแข็งและสู้ต่อ แม้ภายในหวั่นไหวและเปราะบางเหลือเกิน บางครั้งเราก็หวังให้ตนเองมั่นคงกว่านี้ ไม่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกดังที่เคยเป็นมา เราต้องการความเข้มแข็งเพื่อยืนหยัดต่อความทุกข์ทั้งหลาย ซึ่งบางเวลามันดูเหมือนมากมายไม่รู้สิ้นสุด . เราไม่อาจพึ่งพาสิ่งนอกตัวให้เรามั่นใจและมั่นคงได้เสมอไป แม้สิ่งเหล่านั้นจะเคยวางใจได้ก็ตาม วันหนึ่งเราก็ต้องพบว่าตนเองอยู่ลำพัง บางครั้งเวลาก็มิได้ช่วยอะไร แต่เป็นใจเราที่เรียนรู้มากพอจะเติบโตจากสิ่งเหล่านั้น ให้เข้มแข็งมากพอที่จะพึ่งพาตนเองแล้วฝ่าข้าม เราเคยเข้มแข็งมากชนิดที่ไม่ต้องคอยวางแผนหรือกังวลกับสิ่งทั้งหลายมาก เมื่อตอนเป็นเด็ก เราจะนำความเข้มแข็งเหล่านั้นกลับมาได้อย่างไร . ความเข้มแข็งแบบหนึ่งเกิดขึ้นจากภายใน ขณะที่เรามักเรียนรู้ที่จะเข้มแข็งด้วยการสร้างกำแพงและเกราะหนาห่อหุ้มตนเองมาตลอด เข้มแข็งจากภายนอก จนใจก็ลืมไปว่าตนเองมีความกล้าหาญข้างในอย่างไร กำแพงอาจต้านทานและกั้นขวางบางอย่างได้ แต่บ้านจะมั่นคง ต้องมีหลักข้างในที่แข็งแกร่ง ชีวิตและหัวใจเราเองจะมั่นคงได้ มิใช่ด้วยความเข้มแข็งจากภายนอกเท่านั้น . บทความตอนนี้แนะนำหนทางชุดหนึ่งเพื่อบ่มเพาะความเข้มแข็งอันเกิดจากภายในตัวเราเอง ไม่ยากเลย ขอเพียง… . . ๑ พาใจกลับมาที่ร่างกาย : เมื่อพบปัญหาหรือความทุกข์ใจ จิตมักถูกกระแสของความคิด คำพูด และเหตุการณ์ทั้งหลาย พัดพาล่องลอย ทำให้เกิดความรู้สึกต่างๆ อย่างที่ไม่อาจควบคุมได้ เหวี่ยงไปมา ประเดี๋ยวสุข ประเดี๋ยวทุกข์ พอมีสิ่งต่างๆ… Continue reading ๘ วิธีเข้มแข็งจากภายใน ไม่ยากเลย (ตอนแรก)
ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสาม (3)
“ได้เรียนรู้ตัวตนในมุมมองใหม่ที่หลากหลาย โดยใช้ไพ่สื่อผ่าน จิตใต้สำนึกของตนเอง ดีต่อใจมากที่เราสามารถพัฒนาตนเองและเรียนรู้จักผู้อื่น ขอบคุณจักรวาลที่ส่งมอบเส้นทางลัดที่ทรงพลัง ในการมองสิ่งต่างๆให้เข้าใจ ชัดเจน ผ่านการตัดสินใจของตนเองอย่างมีปัญญา . “การเรียนสอนเป็นไปอย่างธรรมชาติ ตระหนักรู้ ตัวตนอย่างแท้จริง เข้าใจ เข้าถึง (ไม่งมงาย) ตรงจริงตามสัจธรรมของชีวิต” . ?ขอบคุณการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่จากครูมุก ครูโอเล่ เพื่อนๆทุกคน กับประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ . ศิริภรณ์ (ขวัญ) พนักงานบริษัท . . “ได้ทบทวนตัวเองชัดเจนขึ้นค่ะ และในบางประเด็นที่ละเลยก็ขุดค้นมาให้เห็นตัวตนค่ะ กิจกรรมออกแบบได่สนุกสนานน่าเรียนรู้ฝึกฝนโดยไม่รู้ตัวว่าฝึกฝนเรียนรู้โดยผ่านการสอนที่ไม่ได้สอนค่ะ” . อัมพิกา (แข) กระบวนกร/ครู . . ความประทับใจจากการอบรม “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นที่สาม ติดตามการอบรมและบทความ www.dhammaliterary.org
ผลงานเป็นผลของงาน
ผลงานเป็นผลของงาน ชิ้นงานมิใช่ชีวิตของเธอ งานคือหน้าที่ของกายใจ งานมิใช่ทั้งชีวิตและตัวตน . เมื่อถือผลงานเป็นของฉัน ย่อมเจ็บจากคำวิจารณ์ ความเป็นไป เมื่อถืองานเป็นตัวฉันให้มั่นใจ ย่อมดิ้นรนแสวงผลและรักษา . ส่งมอบคุณค่าผ่านงาน ให้โลกงาม มิใช่เพื่อแบกงานและโลกไว้ ต้นไม้ไม่หวงแหนดอกผล แม้ถูกเด็ดและเน่าเสียยังโตสูงใหญ่ . หยาดเหงื่อมิได้มีไว้ให้รองเก็บ แค่เช็ดหรือปล่อยเพื่อเย็นและเป็นสุข . ผลงานเป็นผลของงาน กายใจทำหน้าที่ไม่ใช่อัตตาตัวตน ทำงานเพื่องานและละวาง ธรรมะอยู่ในหน้าที่นี้ . . มองให้ดี ให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้น… นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นตัวเรา นั่นไม่ใช่ตัวตน . . อนุรักษ์ ครูโอเล่ คอลัมน์ “บทภาวนา อนัตตา” ตอนที่ ๑๐ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๑ . ติดตามอ่านบทความ : www.dhammaliterary.org/บทความและหนังสือ/ ติดตามการอบรม : www.dhammaliterary.org/คอร์สการอบรม/
ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสาม (2)
สิ่งที่ได้จากการอบรม ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นในการดูไพ่และการเรียนอื่นๆที่จะตามมาว่าเราก็สามารถทำได้นะเรื่องแบบนี้ เพราะเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง การเข้าใจไพ่หรือการสามารถทำได้ก็มาจากวิธีอบรมที่ทำให้ค่อยๆเข้าใจสิ่งที่เรียน ซึ่งเป็นวิธีการให้ความรู้ที่ดีกับการเรียนรู้ที่เป็นสิ่งใหม่และค่อนข้างยากและไกลตัว . คุณสุกฤตา (กุ้ง) อาชีพวิทยากร . . สรุปที่ได้จากการเรียนครั้งนี่ 1. ได้รู้จักตัวเองตัวเอง กลับมาดูใจตัวเอง ให้เวลากับตัวเองและครอบครัวมากขึ้น ไม่น่าเชื่อว่าไพ่จะบอกและเตือนสติเราได้คะ 2. ความประทับใจ คือ ครูมุกและครูโอเล่ น่ารักมากๆๆคะ ไม่เคยเจอครูที่ไหนไปรับข้าวกล่องให้นักเรียนมีที่นี่ที่เดียวคะ confirm ครูโอเล่มีการประยุกต์การเรียนการสอนตามผู้เรียนและเหตุปัจจัย ครูมุกองค์ความรู้เรื่องไพ่เยอะมากคะ ถามยังไงก้อตอบได้ทุกคำถาม 3. อยากเรียนทุกคอร์ดที่ครูทั้ง2ท่านสอนคะ เรียนกลับไปจะเกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆทุกครั้ง เหมือนครูมีพลังส่งต่อให้ลูกศิษย์คิดและทำในสิ่งที่เปนพลังข้างในออกมา 4. ครูมุกและครูโอเล่ มีวิธีการสอนที่ไม่งมงาย ไม่มีความเขื่อ ศาสนาเข้ามาเกี่ยวเลย ถือว่าเปนศาสตร์แขนงหนึ่งที่น่าสนใจ มากคะ ?สุดท้าย ขอให้ครูมุกและครูโอเล่ มีสุขภาพกายใจ นำความรู้มาเผยแพร่กับศิษย์ต่อไปนานๆ นะคะ . คุณวารุณี (หลิง) อาชีพ พนักงานบริษัท . . ก่อนมาเรียนต้องยอมรับว่ามีความเชื่อและรู้เรื่องราวของไพ่ทาโรต์น้อยมาก ซื้อไพ่เก็บไว้หลายชุดโดยที่ไม่เคยหยิบออกมาดูเลย… Continue reading ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสาม (2)
ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสาม (1)
“เป็นคอร์สที่คุ้มเกินคุ้ม ได้ค้นพบตัวเองตามความตั้งใจ แล้วยังได้รู้จักเพื่อนที่แสนดีและเรื่องราวสนุกๆของไพ่ทาโรต์แต่ละใบ ทำให้เราจำได้โดยไม่ต้องท่องตำรา ที่สำคัญได้เป็นลูกศิษย์ครูมุกและครูโอเล่ที่แสนใจเย็นและทุ่มเทมากมายเพื่อลูกศิษย์ทุกคน กระบวนการที่ครูสอนจะค่อยๆนำเราเข้าใจตนเองและรู้จักไพ่มากขึ้น สุดท้ายที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือได้กัลยาณมิตรที่น่ารักจากคอร์สนี้ พวกเราเรียน, แบ่งปัน และหัวเราะไปด้วยกันเหมือนรู้จักกันมานาน เป็นคอร์สที่สนุกมากๆและเป็นอีกเรื่องมหัศจรรย์ของชีวิตที่จะประทับในใจตลอดไปค่ะ” . ทัศนีย์ (เอ) พนักงานบริษัท . . “ชื่นชอบและประทับใจกับกระบวนการอบรมที่ร้อยเรียงจังหวะของการเรียนรู้ทีละขั้นแบบsmooth as silk ความเข้าใจค่อยๆไหลเข้าไปสู่memory drive สมองรอการประมวลผล การปล่อยให้ธรรมชาติของร่างกายรับรู้และหัดวิเคราะห์ด้วยตัวเองก่อน แล้วครูสรุป ส่งผลต่อระบบความคิดอย่างมากว่าตัวเองได้เรียนรู้ว่าคำตอบ หรือความจริงของตนเองนั้น เหมือนเรารู้แล้วแต่ไม่ยอมรับมัน จากclass นี้ช่วยให้คำตอบหรือความจริงของตนเองชัดเจนเป็นชิ้นเป็นอัน รวมความเป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการปรับตัวให้ใช้ใจให้สมดุลกับสมอง (แต่ต้องเป็นกลาง)” . ภัณฑิรา (จัน) นักการตลาด . . “เป็นอีกคอร์สที่ประทับใจ มันคือความดีงามทั้งครูทั้งพี่ๆน้องๆเลย กิจกรรมช่วยการเรียนรู้ไพ่ แล้วยังพัฒนาจิตใจด้วย รวมถึงคำแนะนำของครูมุกกับครูโอเล่เป็นประโยชน์มากค่ะ ช่วยเป็นเข็มทิศนำทาง อยากให้เปิดคอร์สต่อค่ะ อย่างเช่น ยก case study เรื่องนี้สถานการณ์นี้ประยุกต์ใช้เทคนิคไหน ทำไมถึงอ่านแบบนี้… Continue reading ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสาม (1)
๕ แง่คิดเมื่อถูกเข้าใจผิด
“๕ แง่คิดเมื่อถูกเข้าใจผิด” คอลัมน์ #ไกด์โลกจิต ๑ คุณค่าไม่ได้ขึ้นกับความเข้าใจ : . เมื่อใดที่คนอื่นเข้าใจตัวเราผิดพลาด แล้วทำให้รู้สึกหม่นหมอง เสียกำลังใจ โกรธหงุดหงิด หรือน้อยเนื้อต่ำใจ แสดงว่าใจเรากำลังผูกคุณค่าตนเองไว้ที่มุมมองกับความคิดของผู้อื่น และการได้รับความเข้าใจ จนเป็นทุกข์ . การใส่ใจความคิดและความรู้สึกของผู้อื่นเป็นสิ่งที่ดี แต่หากเราถือสิ่งนี้ไว้มากเกินไปจนไม่มีหลักยึดให้ใจหนักแน่นพอ หัวใจก็จะเป็นลูกบอลที่ถูกยื้อแย่งและส่งไปหาคนนั้นที คนนี้ที มิได้กลับมาหาคุณค่าที่ตนเองอย่างมั่นคง ความสุขทุกข์ก็จะขึ้นอยู่กับผู้อื่น . เรากำลังนำภาพที่คนอื่นมองเห็นมาเป็นเนื้อตัวเรา ทั้งที่ความคิดคนผันแปรไม่แน่นอน เมื่อใดอารมณ์ดีความคิดก็เป็นอย่างหนึ่ง เมื่อใดอารมณ์เสียความคิดก็เปลี่ยนแปลง ยามทำถูกใจก็ยกยอชื่นชม ยามขัดใจก็หมิ่นหยามหมางเมิน . ตัวเราคือสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ณ ตรงนี้ มิใช่ในดวงตาหรือความคิดใคร หากเราถือตนเองเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งที่คนอื่นมอง ก็เสมือนถือว่าภาพจากเครื่องฉายเป็นของจริง เมื่อใดเขาไม่สนใจไยดีหรือคิดเห็นเป็นอื่น เราก็รู้สึกด้อยค่าประหนึ่งไม่มีตัวตน . การถูกเข้าใจผิดมิได้ติดตราประทับไว้ที่ตัวเราแต่เพียงลำพัง คนที่ทำคุณงามความดีหลายคนย่อมเคยผ่านการถูกเข้าใจผิด หรือแม้แต่การถูกประณามหยามเกียรติ ศาสดาของศาสนาต่างๆ ย่อมเคยถูกเข้าใจผิดหรือคิดเห็นในทางลบร้ายจากผู้อื่น ก่อนที่ท่านจะก้าวผ่านด้วยสัจจะ ศรัทธา และปัญญา . หากพวกท่านนำคุณค่าจากสายตาผู้อื่นมาเป็นเครื่องชี้วัดตัดสินคุณค่าแล้ว… Continue reading ๕ แง่คิดเมื่อถูกเข้าใจผิด