รายชื่อจบการอบรม “เด็กน้อยภายใน” ประจำปี ๒๕๖๒ และสรุปบทเรียน

    รายชื่อผู้ผ่านการอบรม “เด็กน้อยภายใน” ในหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๓๕ จำนวน ๓๐ คน รวมการบ้านส่งทั้งสิ้น ๓๘๕ บันทึก   [ บางความประทับใจจากผู้เรียน ]   “ตอนแรกรู้สึกไม่ค่อยกล้าเปิดเผยในการเขียนสักเท่าไหร่ ยังมีความกังวล ติดว่าจะถูกหรือจะผิดไหมแต่พอทำตามคำแนะนำแล้ว พยายามมองเข้าภายในตัวตนและบันทึกแบบตรงไปตรงมาก็เริ่มรู้สึกว่าเหมือนได้ชำระล้างบางสิ่งบางอย่างที่ติดค้างในใจออกไปทีละเล็กทีละน้อยเป็นการอบรมที่ประทับใจมากเพราะได้พิจารณาตนเอง ได้ปลดปล่อยสิ่งที่ค้างคาใจ ได้แก้ปมในใจที่ฝังลึกมาตั้งแต่เด็ก หลังอบรมรู้สึกโล่งใจ ประทับใจที่ตนเองสามารถออกมาจากที่เดิมๆ ที่จมปลักอยู่และรู้สึกเป็นอิสระจากพันธนาการของความคิดเก่าๆ” . ดอกไม้ (นา) อาชีพ ครู . . “ได้มีเวลาทบทวนตัวเองอย่างสม่ำเสมอ กลับมาคุยกับตัวเองอย่างจริงจัง กลับมาใส่ใจดูแล รับฟัง ให้ความรัก ความเข้าใจกับตัวเองมากขึ้น ได้รู้จักจัดสรรเวลาให้ดีขึ้น ได้รู้สาเหตุของปมปัญหา เรียนรู้ที่จะโอบกอดปลอบใจและให้กำลังใจตัวเอง เพราะเราเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น โทษและว่าตัวเองน้อยลง แบกรับ กดดัน และคาดหวังน้อยลง มองอะไรตามจริง เห็นว่าเราไม่ได้ควบคุมโลกไว้ ยอมรับและปล่อยวางมากขึ้น เห็นคุณค่าและความสุขเล็กๆในแต่ละวัน . “ความสมบูรณ์แบบไม่มีจริง… Continue reading รายชื่อจบการอบรม “เด็กน้อยภายใน” ประจำปี ๒๕๖๒ และสรุปบทเรียน

๙ แง่คิดประชาธิปไตยในกายจิต (ตอนสอง)

    ๙ แง่คิดประชาธิปไตยในกายจิต (ตอนสอง)   ๖ ระวังจิตถูกยึดอำนาจ : . ประชาธิปไตยภายนอก ได้ผู้นำจากการเลือกตั้ง ประชาธิปไตยภายใน จิตได้ผู้นำจากสติ สำนึกคือผู้ปกครอง ท่ามกลางบุคลิกภาพย่อยหรือตัวตนอันหลากหลายเป็นประชาชน ในตัวเราประกอบด้วยตัวตนมากมาย แต่ละตัวตนคือชุดของความคิด ซึ่งประกอบไปด้วยความต้องการ ความเคยชิน ความเชื่อ และความรู้สึก ต่างผลัดกันทำหน้าที่ขึ้นมาครองเก้าอี้จิตสำนึก เป็นนายกผู้ปกครองเมืองหลวงของจิตใจ ขึ้นชื่อว่าการเมืองแล้วย่อมมีความวุ่นสลับกับความว่าง ตัวนั้นตัวตนนี้ผลัดเปลี่ยนกันมามีอำนาจ เฉกเช่นสภาพสังคมภายนอกใจ . อำนาจภายนอกขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก อำนาจภายในขึ้นอยู่กับปัจจัยภายใน เมื่อใดอำนาจขาดเสถียรภาพ การเมืองย่อมสั่นคลอน มิว่าเรื่องภายนอกตัวหรือภายในจิตใจตนเอง เมื่อใดการปกครองสุดโต่งหรือขาดสติ เมื่อนั้นย่อมเกิดการปลุกปั่นและขบวนการเพื่อหวังพลิกขั้วอำนาจ เป็นธรรมชาติดังลูกตุ้ม เมื่อเหวี่ยงไปในฝั่งใดถึงที่สุด ก็จะรุดรีบผันกลับมาอีกฝ่าย ทั้งอำนาจภายนอกและภายใน ต่างมั่นคงแข็งแรงที่สุดเมื่ออยู่ตรงกลาง นั่นคือภาวะทางการเมืองที่ว่างจากความวุ่นมากที่สุด . จิตของเราเมื่อวันใดถูกครอบงำด้วยอารมณ์อย่างหนึ่งมากเกินไปแล้ว ย่อมมีแนวโน้มที่เราจะดิ้นรนเหวี่ยงแกว่งไปยังอีกขั้วหนึ่ง มิใช่เฉพาะคนมีปัญหาทางจิตใจที่จะมีสองขั้วสลับไปมาเท่านั้น แต่เราทุกคนต่างมีสองฝ่ายและมากกว่า พลิกข้างกลับไปกลับมาอยู่เสมอ . เมื่อใดใจเราถูกความเกียจคร้านยึดอำนาจ นานวันเข้า ตัวตนอื่นๆ ภายในก็จะเรียกร้องประท้วงเราให้ขยันขันแข็ง แต่แล้วก็เหวี่ยงแกว่งไปยังความกลุ้มกังวลใจ กลัวทำไม่ได้ กลัวทำไม่เสร็จ… Continue reading ๙ แง่คิดประชาธิปไตยในกายจิต (ตอนสอง)

๙ แง่คิดประชาธิปไตยในกายจิต (ตอนแรก)

    ๙ แง่คิดประชาธิปไตยในกายจิต (ตอนแรก)     การเมืองมิใช่เรื่องนอกตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องภายในตัวเราอีกด้วย ความขัดแย้งภายในจิตใจ เงื่อนปม ความคิด อารมณ์ และความสัมพันธ์ต่อตนเองด้านต่างๆ ทางจิตวิทยา เป็นเรื่องการเมืองของกายจิตดีๆ นี่เอง เปรียบเสมือนโลกหรือสังคมขนาดใหญ่ที่จะมีภาวะเป็นสุขหรือทุกข์อย่างไร อยู่ที่การปกครองและองค์ประกอบน้อยใหญ่ของโลกภายในแห่งนี้ . บทความนี้นำเสนอ ๙ ข้อซึ่งเป็นแง่คิดและคำถามชวนเรากลับมาสังเกตดูตนเองว่า ในกายจิตเราเป็นประชาธิปไตยหรือไม่อย่างไร แล้วการเมืองภายในนี้ส่งผลต่อโลกรอบตัวเราอย่างไรบ้าง เพื่อการอยู่กับตนและผู้อื่นอย่างสันติในธรรม . . ๑ ร่างกายและจิตใจคือสังคมขนาดใหญ่ : . ก่อนที่เราจะเข้าใจว่าประชาธิปไตยในตัวเราเองนั้นคืออะไร เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ในร่างกายและจิตใจนี้เป็นสังคมอย่างไร เราทราบดีว่า ร่างกายประกอบด้วยระบบน้อยใหญ่ต่างๆ มากมาย ทั้งแต่อวัยวะ ประสาท เลือด กล้ามเนื้อ เล็กลงไปถึงเซลล์ ทั้งหมดทำงานดังสังคมขนาดใหญ่ที่ต่างฝ่ายมีบทบาทโยงใยต่อกันและกัน . มีระบบภูมิคุ้มกันเป็นกระทรวงกลาโหม โดยมีเม็ดเลือดขาวเป็นทหารหาญ มีเส้นประสาทเป็นระบบราชการโยงใยไปทั่วมณฑล มีสมองเป็นศูนย์ราชการ และส่วนต่างๆ ดังกระทรวงทบวงกรมอีกหลากหลาย . ในจิตใจเองก็มีกลไกต่างๆ อาทิ กลไกปกป้องตัวเอง… Continue reading ๙ แง่คิดประชาธิปไตยในกายจิต (ตอนแรก)

บทเรียนและความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสี่ (๒)

  บทเรียนและความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสี่   ได้รู้จักตนเองมากขึ้นในแง่ที่ต้องอัตตาของตัวเองลง ที่เรารู้ยังมีคนอื่นที่เขารู้มากกว่า การมองคนรอบข้างให้เท่าเทียมกันมากขึ้น การยืดหยุ่นเป็นสิ่งสำคัญ ควรเป็นกับทั้งตนเองและรอบข้าง ปกติสอนคนอื่นเรื่อง self care แต่กลับลืมมองตนเอง การปล่อยวางบ้างเป็นสิ่งที่ดี การหาความสุขการผ่อนคลายให้ตนเองก็เป็นสิ่งที่ควรทำ 2. ประทับใจในความสามารถของเพื่อนๆ ที่อ่านไพ่ได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนที่ดีมาก ประทับใจในคุณครูที่สอนศาสตร์ใหม่ๆ ให้ กระบวนการอบรมเป็นการเรียนรู้จากภายใน มองตนเอง เรียนรู้จากประสบการณ์ ผ่านการเชื่อมโยง 3. การต่อยอด ถ้าเรามองไพ่ออกอย่างท่งแท้ ว่าเขาจะสื่ออะไร มันก็เป็นประโยชน์อย่างมากในการช่วยเหลือคนอื่น อยากจะเขียนว่า การมาเรียนรู้ครั้งนี้ได้มอบสิ่งดีๆให้ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ที่ต้องศึกษาเพิ่ม การเตือนตนเอง การศึกษาสิ่งที่เลือนหายไป การรุ้จักน้องๆพี่ๆ มิตรภาพดีๆ ถึงแม้ว่าเหนื่อยจากการเดินทางมากแต่ก็คุ้มค่าทางใจค่ะ ขอบคุณทุกคนมากค่ะ   ไอริส (รับจ้าง)   รู้จักปัญหาที่ตัวเองมีได้ดีขึ้น พร้อมกับการที่เราตั้งคำถาม และได้รับคำตอบหรือคำแนะนำทำให้เรานำมาคิดตริตรองสิ่งที่เราควรทำ หรือความคิดที่เราควรเปลี่ยนเพื่อแก้ไขปัญหา “โลกเปลี่ยนเพราะใจเรา” ถูกค่ะครู การลดระดับความสมบูรณ์แบบลงบ้าง ปล่อยวางบ้าง การเลิกคิดว่าเราจะต้องดีไปหมด ทำได้ทุกอย่าง มันจะทำให้ชีวิตกดดันน้อยลง… Continue reading บทเรียนและความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสี่ (๒)

บทเรียนและความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสี่

    บทเรียนและความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสี่   1. ได้รู้จักตัวเอง 1.1สามารถค้นหาคำตอบเพื่อสร้างความมั่นใจเพิ่มได้จากอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญคือไพ่ทาโรต์ 1.2 ได้รู้จักและเข้าตัวตนภายในมากขึ้นว่าต่างมีทั้งข้อดีข้อเสียและรู้จักเลือกใช้ให้ถูกต้องทั้งบุคคล เวลาและสภาพแวดล้อม 1.3 เรายังมีศักยภาพภายในอีกหลายอย่างที่ยังไม่รู้และรอการค้นพบเพื่อนำไปสร้างคุณค่าให้กับตัวเองและผู้อื่น 2.ความประทับใจ 2.1 กิจกรรมก่อน ระหว่าง หลังการศึกษาเรียนรู้ไพ่ของครูโอเล่ทำให้เข้าใจความหมายและการนำไปใช้ได้ดี 2.2 การอธิบายของครูมุกด้วยถ้อยคำที่ง่าย เข้าใจเร็ว เห็นภาพชัดเจน 2.3 อาหารแบบมังสวิรัติที่เรียบง่ายและอบอุ่น 2.4 เพื่อนนักเรียนด้วยกันมีความอบอุ่นช่วยเหลือกันอย่างยอดเยี่ยม 3. ต้องการต่อยอดเพอิ่มเติม 3.1 อยากให้ครูจัดโครงการไปดูไพ่ตามกลุ่มหรือหน่วยงานที่มีความต้องการเพื่อช่วยเหลือบรรเทาเบาบางความทุกข์ของเพื่อนร่วมสังคม เช่น ผู้ดูแลผู้ป่วยที่เครียด 3.2เพิ่มการดูไพ่กลุ่มอื่นที่หลากหลาย เช่น กลุ่มนักเรียนนักศึกษา กลุ่มวัยทำงาน จากครึ่งวันเป็นเต็มวันแล้วสรุปช่วงท้ายวัน 3.3 อยากให้เปิดคลาสระดับลึกลงไปอีกเช่นทักษะการตั้งคำถาม ทักษะการสังเกตผู้ดูเป็นต้น   ศราวุฒิ (เป้) พนักงานบริษัท     1) ได้รู้จักตัวเองอย่างไรบ้าง – ได้รู้จักว่า จริงๆแล้วตัวเองเคยมีความสุขแบบไหน รู้ว่าความสุขที่เราต้องการเคยเป็นสิ่งที่เราเคยทำมาก่อน แต่ปัจจุบันลืมไปและไม่ได้ใส่ใจเลย พอวันนี้เปิดไพ่… Continue reading บทเรียนและความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นสี่

เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง ตอนที่ 4

    เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง #4 “ปล่อยมือจากเชือก รักอย่างลดวางเงื่อนไข”   ผมกลัวทะเลและการจมน้ำมาตั้งแต่เด็ก เคยจมน้ำเกือบตายในบ่อที่คิดว่าตื้นหากอาไม่ได้ช่วยไว้ การสำลักน้ำในตอนนั้นกับเหตุการณ์ถูกกลั่นแกล้งต่างๆ ที่เจอในวัยเด็ก ผนวกบรรยากาศในครอบครัวที่ไม่ค่อยมั่นคงนัก ทำให้จิตใจผมสร้างกลไกที่ไม่อยากเผชิญกับความเสี่ยงต่างๆ ด้วยการตั้งแง่ร้ายไว้ก่อน มองแง่ลบไว้ก่อน คอยประเมินสิ่งต่างๆ ล่วงหน้าโดยค่อนไปในทางลบเสมอ และรู้สึกว่าโลกไม่ใช่ที่ๆ ปลอดภัยสำหรับตนเอง เป็นความกลัวฝังใจ . ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๕๓-๒๕๕๔ ผมต้องทำกิจกรรมอยู่ที่อาศรมวงศ์สนิท คลองสิบห้า จังหวัดนครนายก อยู่บ่อยครั้ง ตรงทางเข้าอาศรมฯ เราจะต้องขึ้นโป๊ะแพ แล้วใช้มือสาวเชือกพาข้ามฝั่งคลอง ไม่มีถนนให้เดินเข้าไปได้ วันหนึ่ง ผมมีโอกาสได้เข้าอบรมเกี่ยวกับจิตวิทยากระบวนการ (Process Work) บางแบบฝึกหัดทำให้ผมรู้สึกวางใจโลกขึ้นมามากขึ้น ผมจำได้ว่าชอบการว่ายน้ำและการเล่นกับน้ำมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ทุกครั้งที่เห็นคลองข้างหน้าทางเข้าซึ่งเราต้องสาวเชือกให้แพพาข้าม ลึกๆ ในใจก็มีเด็กน้อยคนหนึ่งที่รู้สึกอยากลงเล่น แต่มันน่ากลัว ไม่ปลอดภัย และดูไม่สะอาดในสายตาของตัวตนผู้ใหญ่ แต่วันนั้นผมตัดสินใจกระโดดลงจากโป๊ะแพ มือจับเชือกที่ผูกระหว่างโป๊ะแพและฝั่งทั้งสอง มีคนอื่นคอยนั่งเล่นช่วยดู ผมเล่นน้ำด้วยการจับเชือกพาตัวเองว่ายข้ามฝั่งไปมา . ผมติดใจการว่ายน้ำคลองสิบห้าหน้าอาศรมฯ ตั้งแต่วันนั้น ทุกครั้งที่มาเยือนผมจะต้องหาเรื่องกระโดดลงไปเล่นน้ำให้ได้ แม้ตนเองจะเป็นวิทยากรหลักของค่ายก็ตาม หรือไม่มีใครคอยดูก็ตาม… Continue reading เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง ตอนที่ 4

แผ่นดินกว้างใหญ่สำหรับทุกคน หัวใจเธอกว้างพอสำหรับผู้อื่นไหม

      แผ่นดินกว้างใหญ่สำหรับทุกคน หัวใจเธอกว้างพอสำหรับผู้อื่นไหม แผ่นดินรองรับพวกเราอย่างอดทน เธอเข้มแข็งพอจะยอมรับผู้อื่นไหม . สิ่งที่เธอเชื่อมั่นมิใช่ของของเธอ ความเชื่อเป็นเพียงมุมที่ใจมองเท่านั้น สิ่งใดบ้างที่คิดว่าใช่แล้วถูกเสมอ เธออาจกดขี่ผู้อื่นด้วยความดีโดยมิรู้เท่าทัน . พื้นที่เคหาลดน้อยเพราะคอยสะสม ใจเราแคบลงเพราะกอบเก็บความถือมั่น พื้นที่เพียงช่องว่างที่เราทับถม ด้วยตัวตนและการถือเป็นของฉัน . หนักแผ่นดินเริ่มหนักจากหัวใจ หนักหัวใจเริ่มจากหนักอัตตาแบก เราลองย้อนพินิจดูสิ่งที่ถือไว้ ก่อนความดีและความเชื่อจะเป็นแอก* . ประเทศคือการอยู่ร่วมมิใช่ตัวคน ต้องมีความว่างจึงเกิดพื้นที่ แนวคิดเพียงจิตปรุงมิคงทน เราเพียงร่วมก่อมิใช่เจ้าของความดี . . มองให้ดี ให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้น… นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นตัวเรา นั่นไม่ใช่ตัวตน . . อนุรักษ์ ครูโอเล่ คอลัมน์ “บทภาวนา อนัตตา” ตอนที่ ๑๒ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ . ติดตามอ่านบทความ : www.dhammaliterary.org/บทความและหนังสือ/ ติดตามการอบรม : www.dhammaliterary.org/คอร์สการอบรม/ . *แอก… Continue reading แผ่นดินกว้างใหญ่สำหรับทุกคน หัวใจเธอกว้างพอสำหรับผู้อื่นไหม

รายชื่อจบการอบรม “เขียนค้นตน” ประจำปี ๒๕๖๒ และสรุปบทเรียน

      ความประทับใจจาก “เขียนค้นตน” ในหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๓๔     “ประทับใจกับการเรียนครั้งนี้ ตอนแรกคิดว่าการเขียนอาจจะพอช่วยให้ค้นพบตัวเองได้ระดับหนึ่ง แต่พอเริ่มเรียนเริ่มเขียนจริงๆ ก็ได้พบตัวตนอันหลากหลายของตัวเอง หรือบางแง่มุมที่ลึกลงไปที่เราคิดไม่ถึง รวมถึงคอร์สออกแบบมาดี ทำให้เรียนได้ง่าย และคุณครูใส่ใจในการดูแลและตรวจการบ้านมากๆค่ะ . “แง่มุมบางอย่างที่ไม่เคยเห็น เช่น ในขณะที่เราเป็นคนที่ชอบใช้ตรรกะความคิด แต่อีกตัวตนหนึ่งเราก็มีความรักความเชื่อมั่นศรัทธา ได้เรียนรู้เข้าใจถึงความเป็นตัวเองมากขึ้น ยอมรับในส่วนดีและส่วนไม่ดีบางอย่าง และนำมาปรับในการเลือกใช้ตัวตนของตัวเองในสถานการณ์ต่างๆ กำหนดเป้าหมายชีวิต . “คนเราแต่ละคนมีตัวตนอันหลากหลาย เป็นโอกาสดีที่เราได้เห็นและได้เรียนรู้ การเข้าใจตนเองก็เป็นเหตุทำให้เข้าใจคนอื่นได้มากขึ้นด้วย ว่าแต่ละคนมีทั้งข้อดีและไม่ดี เขาอาจจะมีอะไรอีกมุมที่เราไม่ได้เรียนรู้ บางครั้งเวลาเราเขียนก็เป็นเวลาที่ไดพักสงบใจ เรียนรู้ตัวเอง” . จากคุณพันธิตรา (พั้นช์) อาชีพ แพทย์ . . “ไม่น่าเชื่อว่าการเขียนจะสามารถช่วยให้เราเเห็นมุมมองทั้งที่รู้และไม่รู้ ได้ชัดเจน และสามารถนำมาเตือนสติ เป็นส่วนช่วยให้เราคิด ตระหนัก พฤติกรรมการกระทำทั้งดีและไม่ดี อาจรู้ทันหรือไม่รู้ทัน ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ชอบหัวข้อ ดั่งต้นไม้ และ ไม่ใช่ฉัน… Continue reading รายชื่อจบการอบรม “เขียนค้นตน” ประจำปี ๒๕๖๒ และสรุปบทเรียน

เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง #3

    เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง #3 “หมุนไปกับจักรวาล”   หากถามผมว่ารักตัวเองอย่างแท้จริงแล้วหรือยัง ในขณะที่ทำหน้าที่สอนเรื่องการรู้จักตัวเองและการรักตน ผมขอยอมรับว่ายัง แม้มีการรักตัวเองอยู่ไม่น้อย แต่สิ่งหม่นหมองแห่งใจหรือกิเลสซึ่งยังคงมีเชื้ออยู่มากนั้นก็ยังขัดขวางให้รักต่อตนเอง ยังมิใช่รักแท้ . ผมพึงใจในการยอมรับข้อเสียอย่างตรงไปตรงมา รู้ว่ายังไม่รักตัวเอง ยังดีกว่าการหลอกตนว่ารักตัวเองแล้ว ขณะที่กาย วาจา และใจยังสื่อสะท้อนว่าความรักต่อตนเองนั้นบกพร่องอย่างไร . สิ่งใดที่บ่งบอกการรักตัวเองอย่างแท้จริง สำหรับผมแล้วพิจารณาอยู่สองทาง ทางหนึ่งคือพฤติกรรมทางกาย วาจา และใจ เป็นไปอย่างก่อทุกข์หรือเป็นไปอย่างลดทุกข์ สมดุลพอดีหรือไม่ หรือใส่ใจแค่บางส่วน อีกทางหนึ่งคือสันติสุขแห่งใจ ตราบใดที่ใจเรายังมีทุกข์ นอกเหนือจากทุกข์ทางกายอันเกิดจากผัสสะธรรมชาติแล้ว เราก็ยังมีความไม่รักตัวเองอยู่ . ผมจะกล่าวต่อไปว่าเป็นเพราะเหตุใด . มองย้อนกลับไป กว่าเราจะเข้าใจถึงการรักตัวเองอย่างถ่องแท้ ต้องผ่านบทพิสูจน์และบทเรียนรู้มาก บ่อยครั้งที่เชื่อว่าเรารักตัวเองแล้ว แต่จริงๆ แอบรักแค่บางด้านที่ดูดีและได้รับการชมเชยจากคนอื่น บ่อยครั้งที่เรื่องเล็กๆ ก็บั่นทอนความมั่นคงของใจได้อย่างคาดไม่ถึง . คืนหนึ่ง ราวหกปีที่แล้ว นับจากตอนเขียนบทความนี้ ขณะอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ทำงานในออฟฟิศห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผมกลับรู้สึกสงสัยว่าเหตุใดเวลาตนเองต้องการปรึกษาใครบ้าง จึงไม่อาจมีใครรับฟังผมอย่างที่ผมรับฟัง ไยเวลานี้ที่ต้องการใครคนหนึ่งมากที่สุด คนทุกคนกลับหายไป หัวใจก็ลากความคิดย้อนเวลากลับไปอีกว่าที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กแล้วก็มักเป็นแบบนี้ คนทุกคนมาหาผมเพราะต้องการความช่วยเหลือ… Continue reading เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง #3

ความประทับใจ “เด็กน้อยภายใน” ประจำปี 2561 (7)

    “ประทับใจกระบวนการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ สะดวกและสามารถทบทวนได้ตลอดเวลา และประทับใจกระบวนการที่เริ่มจากให้ผู้เรียนเลือกสิ่งที่จะพัฒนาหรือปรับปรุง หัวข้อของการบ้านในแต่ละครั้งน่าสนใจมากๆ ได้เรียนรู้ตั้งแต่อ่านรายละเอียดของการบ้าน ในขณะเขียน รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กอีกครั้งที่พร้อมจะเรียนรู้และสัมผัสความรักได้อย่างละเอียดอ่อน ชอบ feedbackของครูที่ต้องอ่านหลายๆรอบ ทุกคำของครูมีความหมายต่อผู้เรียนอย่างมาก สุดท้ายแล้วผู้เรียนหาคำตอบได้ด้วยตนเองว่า เด็กน้อยภายในช่วยให้ตัวเองได้พัฒนาหรือปรับปรุงใน 3 หัวข้อที่เลือกไว้อย่างไร . “ชอบหัวข้อ ไทม์ไลน์วัยเด็ก เพราะในขณะเขียนรู่สึกเหมือนตัวเองนั่ง Time machine ย้อนอดีต ความทรงจำที่สดใสช่วยชโลมหัวใจตอนนี้ให้มีชีวิตชีวามากขึ้น จากที่เรียนข้างต้นว่า กระบวนการเรียนรู้ที่ได้รับจากการเรียนครั้งนี้ ทำให้ชีวิตกลับมามีพลังอีกครั้ง ทุกครั้งที่เขียนและได้รับ feedback จากครู ทำให้มีพลังในการใช้ชีวิตและมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งต่างๆที่ตั้งเป้าหมายไว้ให้สำเร็จ” . จากคุณฬุลิยา (รุ่ง) อาชีพ อาจารย์มหาวิทยาลัย . . “ได้ย้อนและกลับไปทบทวนเรื่องราวในสมัยเด็ก ที่เราเจอเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งที่ดีและร้าย ซึ่งบางเหตุกาณ์แม้จะนานแค่ไหน แต่เราก็ยังไม่ลืมมัน ทำให้เห็นว่าเหตุการณ์นั้นส่งผลกระทบกับความรู้สึก ความคิด และพฤติกรรมของเราในปัจจุบันอย่างไร มีหลายหัวข้อให้เลือกเขียน และทุกครั้งที่เขียนต้องทบทวนตัวเองรวมทั้งข้อคิดที่ได้จากการเขียนแต่ละครั้ง ซึ่งก็ดีทำให้เราได้เห็นมุมมองใหม่ที่แตกต่างกันระหว่างตัวเราในปัจจุบันกับตัวเราเมื่อครั้งอดีต . “ข้อคิดที่สำคัญคือ ไม่มีใครทำร้ายเราได้ นอกจากตัวเราเอง และไม่มีใครรักษาเราได้ นอกจากตัวเราเองเช่นกัน… Continue reading ความประทับใจ “เด็กน้อยภายใน” ประจำปี 2561 (7)