ขอบคุณผู้เข้าร่วมกิจกรรม “ฟังครูในเรา” ในชุดหลักสูตร “ห้องเรียน วิถีครู” รุ่นที่ 7 จำนวน 32 ท่านที่ได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การเป็นครูให้แก่ตนเอง การฟังเสียงภายใน และการเห็นครูในทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อคืนวันที่ 27 – 29 กันยายน 2568
“ทำให้เราเข้าใจตัวเองในฐานะ “ครู” ชัดเจนขึ้น ว่าเราเป็นครูแบบไหน โดยเฉพาะในวันที่ 2 ที่ได้เปิดภาพและสะท้อนตนเอง ทำให้เห็นชัดเจนมาก ๆ ได้มุมมองใหม่ ๆ ที่ทำให้เราไม่มองตัวเองเพียงด้านเดียว… ทำให้เราเปิดใจรับฟังผู้อื่นมากขึ้นค่ะ❤️”
“รู้สึก สนุก ขอบคุณ ประทับใจ กับเนื้อหากิจกรรมในการเรียนค่ะ ชื่นชมในการออกแบบของครูที่สุขุม ลึกซึ้ง เรียนแล้วก็เบาใจขึ้น ข้อคิด ในคลาสนี้ เป็นการเรียนรุ้จักเพื่อละวางตัวตน ยิ่งรุ้จักทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเรามากขึ้นก็ให้รู้จักรับรู้และปล่อยวาง”
“ดีใจที่ได้เรียนค่ะ ครูมีกระบวนการที่จะค่อยๆ สอนและให้เรียนรู้จากการลงมือทำ ระหว่างเรียนจะรู้สึกผ่อนคลายลง ทำให้เห็นความรู้สึกชัดขึ้น ยิ่งมีการได้ฟังและแลกเปลี่ยนกับผู้ร่วมเรียนท่านอื่นยิ่งทำให้ได้มุมมองที่หลากหลาย รู้สึกว่ามีแง่คิดที่มาเติมมุมมองที่กำลังมองหาในช่วงนี้พอดี”
“ได้กลับมาสังเกตความรู้สึกในร่างกายชัดๆ ทำให้รู้สึกเห็นใจร่างกายตัวเอง รับรู้ถึงความเหนื่อยล้า ความเมื่อย ตึง ปวด และได้ไอเดียในการสื่อสารกับตัวเองมากขึ้นผ่านการสังเกตการแสดงออกของอารมณ์ทางร่างกาย รวมถึงได้เตือนตัวเองอีกครั้งถึงตัวตนที่หลากหลายที่มีอยู่ในตัวเอง ไม่ยึดมั่นในมุมมองเดียวหรือติดป้ายว่าตัวเองเป็นแบบไหน หรือทำอะไรได้และไม่ได้”
“รู้สึกดี และมีความสนุกมากค่ะ ที่ได้สำรวจความคิด ความรู้สึกของตัวเองได้รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นแบบไม่ตัดสิน ปล่อยใจให้ว่างเพื่อรับฟังสิ่งที่ร่างกาย กำลังสื่อสาร หรือบอกแกร่ง การจะรู้ด้วยตัวของเรา เองจาก การคิดบรรยาย การเปลี่ยนมุมมองทางความคิด”
“รู้สึกดีที่ได้เรียนครอส์นี้ ได้รับความรู้ที่ตรงจุด ได้รับการดูแลจิตใจ รู้สึกผ่อนคลายเวลาเรียน ไม่บีบคั้นและได้เป็นตัวเอง ครูภายใจจะเกิดขึ้นเมื่อใจเป็นกลาง ได้ฝึกฝนการปล่อยว่าง การับรู้ว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเป็นเวทนา และไม่มีผิด ถูก มีแต่ชอบไม่ชอบและเฉยๆ ได้ยอกย้ำว่าครูที่ไม่ดีก็สอนอะไรเราบางอย่างเช่นกัน ทุกอย่างเป็นครูเราได้ ได้กลับมาทบทวนตัวเอง ปรับจูนให้ใจได้กลับสู่สภาวะสมดุล เป็นไปตามวัตถุประสงค์แรกที่ตั้งใจไว้ในการเรียนครอสนี้”
“สนุกที่ได้มองหาครูและหาสิ่งที่ครูสอนจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเรา ประทับใจคือตอนที่ได้ฟังเพื่อน ๆ สะท้อนและช่วยคิดสิ่งที่เป็นจุดแข็งให้เพื่อน ๆ และได้รับฟังสิ่งที่เพื่อน ๆ และครูสะท้อนจุดแข็งให้กับเราค่ะ”
“ก่อนอื่นขอขอบคุณที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา รู้สึกชอบและผ่อนคลายในการเข้าร่วมกิจกรรมได้พบกับคำตอบที่ตัวเองต้องการหลายเรื่อง การฟังเสียงครูในเราต้องฟังสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน ด้วยใจที่เป็นกลาง เบา สบาย และฟังสิ่งที่เป็นปัญญา ถามตัวเองบ่อยๆ ว่า สิ่งนี้ อยากเตือนหรือสอนอะไรแก่ฉัน”
“ชอบความรู้สึกและบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นกันเองของครูผู้สอน และผู้เข้าร่วมกิจกรรมรู้สึกว่าทุกคนมาแบบเปิดใจชอบความรู้สึกและบรรยากาศแบบนี้มากเป็นพื้นที่ปลอดภัย ปกติจะเป็นคนชอบคิดแต่ไม่ชอบเขียน ชอบพิมพ์มากกว่าเขียนด้วยแต่พื้นที่ตรงนี้จะเน้นให้เราได้มาอยู่กับตัวเองจริงๆเราที่เป็นเราและเขาและเพื่อนร่วมกิจกรรมและได้เขียนแบบเขียนจริงๆนะอยู่กับตัวเองจริงๆ”
“ได้มีช่วงเวลาที่สามารถมีสมาธิต่อเนื่องกับการฝึกพัฒนาจิตใจ ได้ฝึกทักษะการเชื่อมั่นในปัญญาภายในของตนเอง ไม่ตัดสินต่อว่าตนเอง ให้ตัวเองได้ฉายศักยภาพของตนเองออกมา”
“ส่วนตัวไม่เคยเป็นครูมาก่อนค่ะ เข้ากิจกรรมวันแรกแรกก็ยังนึกไม่ออกค่ะว่าเราจะเป็นครูได้อย่างไร ก็เอาความเป็นแม่ของเรานี่แหละค่ะที่เคยสอนลูกลูก ใส่ความคิดตัวเองเข้าไปว่าเราจะเป็นครูได้ไหม ถ้าเราเป็นครูจริงๆเราจะพูดว่าอย่างไร เพราะปกติเราสื่อสารด้วยคำพูดไม่ค่อยเก่ง จนกระทั่งวันที่สามวันสุดท้ายของกิจกรรม การเขียนทำให้เราคิดถึงว่าเราเป็นนักเรียนเราต้องเขียนแบบนี้ตามคำสั่งของคุณครู เวลาสามวันที่จะเรียน แม้จะยังไม่พอ แต่ก็มีความสุข ที่ได้รู้จักสังคมในกิจกรรมฟังครูในเรา ขอบคุณโอเล่ และทุกๆท่านในซูม ที่เปิดความคิด เปิดจินตนาการที่เราไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เราเห็นภาพรวมความเป็นครูมากขึ้นค่ะ”
“การเขียน freewriting จริงๆ ก้เคยเรียนกับครูการเขียนแบบนี้มา แต่คราวนี้ มันทำให้ชุกคิดว่า การลองเขียนแบบนี้ แบบปล่อยวาง แว๊ปแรก เลย เหมือนได้เจอครูในตัวเอง ค่ะ แต่จริงๆเขาก้คือเพื่อนของเรานั้นแหละ”
“การเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้แม้เคยเข้าร่วมมาหลายครั้งแต่ทุกครั้งก็ไม่เคยเหมือนกันเลย ได้เรียนรู้ตัวเองในแง่มุมใหม่ใหม่เสมอ ครั้งนี้ก็ค้นพบตัวเองในแบบของผู้ที่รู้จักปฏิเสธเมื่อไม่ต้องการ ผู้ที่เห็นความสุขสงบของตนมีค่ามากกว่าการยอมทุกอย่างเพื่อให้คนรอบตัวสุขสบายสบายใจ เพราะเห็นแล้วว่าการกระทำเช่นนั้นผลลัพธ์ก็คือทุกข์กันทุกคน การที่เราคิดว่ายอมเพื่อให้เขาสุขเค้าก็ไม่ได้มีความสุขตามที่เราคาดหวัง แถมยังเพิ่มความทุกข์ให้เราที่มาจากการเห็นว่าเราน่าจะทนทุกอย่างได้”
“ความประทับใจจึงเกิดจากการค้นพบคนที่กล้าปฏิเสธและบอกความต้องการของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา สามารถมองความคิดของคนอื่นว่าเป็นความคิดของเขา เราเพียงอนุญาตให้เขาคิดอย่างนั้น เราก็รู้สึกสงบได้ ขอบคุณทุกกิจกรรมที่ทำมากับครูค่ะ พบตัวตนหลากหลายของเราและสนุกที่จะเรียนรู้ต่อไป”
“ครั้งนี้ได้ฝึกฝนการสร้างพื้นที่ว่าง ทั้งจากการเงียบ การรับฟัง การเขียนจนหมดเวลา พร้อมรับฟังและเปิดโอกาสให้ “ข้างใน” ของเราได้เปล่งเสียงออกมา การมีใจเป็นกลาง “ ฟังหูไว้หู” กับเสียงที่ผ่านเข้ามาเพื่อพิจารณาใคร่ครวญให้เห็นถึงปัญญาที่แท้ การปล่อยให้การเรียนรู้ เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และการให้กำลังใจตนเองยามที่ต้องก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัย ขอบคุณครูค่ะ 🙏☺️”
“ได้เรียนรู้การ “ฟังครูในเรา” ตามหัวข้อจริงๆ รู้สึกประทับใจมากๆ ได้แง่คิดหลายๆอย่างนำกลับมาใช้ ซึ่งบางแง่คิดบางครั้งตัวเราเองก็มองข้ามหรือไม่ได้นึกถึง ชอบที่ได้สะท้อนตัวเองกับผู้อื่น ทำให้ได้มุมมองใหม่ๆกลับมา”
“ส่วนตัวรู้สึกชอบหัวข้อ “ที่ผ่านมาฉันเป็นครูแบบไหนให้แก่ตัวเอง?” มากเป็นพิเศษ เพราะหัวข้อนี้มันทำให้ย้อนกลับมาตระหนักกับตัวเองว่าที่ผ่านมาเราสอนตัวเองเป็นยังไง เรารู้และเราคิดว่าควรลองทำสิ่งใหม่ๆ ลองออกจากรอบดู แต่พอย้อนกลับมาคิด จริงๆแล้วเราแทบจะไม่ได้ก้าวออกจากกรอบเดิมๆที่เราเคยสร้างไว้เลย ตัวเราได้แต่คิดแต่ไม่เคยลงมือทำ หัวข้อนี้เหมือนตบเรียกสติตัวเองกลับมา ให้โฟกัสอยู่กับปัจจุบัน ไม่ฟุ้งซ่าน และลงมือทำให้มากกว่าเดิม”
“กลับเข้าไปฟังเสียงข้างในของตัวเอง ได้แง่คิดดี ๆ จากสิ่งที่อยู่รอบตัว เช่น สัตว์เลี่ยง ดอกไม้ที่ลงมือปลูกด้วยตัวเอง ทำให้เห็นว่าเรามีความสุขเล็กๆ อยู่รอบตัว ไม่ต้องไปเรียบเทียบกับใคร มีสติมากขึ้น รักตัวเองมากขึ้นและมีมุมมองของชีวิต การมีเวลาอยู่กับตัวเอง การให้พื้นที่ให้กับตัวเอง คือการปล่อยวางกับปัญหาไม่แบกให้หนัก ให้ใจเราเบาสบายและผ่อนคลายมากขึ้น และเขียนเพื่อสื่อสารกับตัวเราเอง สร้างพื้นที่ให้ตัวเราอย่างมีสติ”
“ได้รับสัญญาณที่ร่างกายส่งมาให้ทราบ ได้ดูแลร่างกายตนเองดีมากขึ้น ได้รู้ว่า ฟังครูในเรา เรานี้หมายถึงทุกสิ่ง หมายถึงตัวฉันและสิ่งที่ไม่ใช่ฉัน ได้ทราบว่า ครูในเรา คือ ผู้เยียวยา (น้ำ ปรับตัว เข้าหาคนอื่น จนบางครั้งหลงลืม การเป็นตัวของตัวเอง) และ ผู้ปกครอง (ดิน วิเคราะห์ พิจารณาในรายละเอียด ใช้หลักการ จนบางครั้งไม่กล้าตัดสินใจ หรือทำอะไรใช้เวลานานไป ทำอะไรช้า อาจไม่ทันการณ์ได้) และได้รู้จักเข้าใจตนเองมากขึ้น (ไม่ควรให้ความสนใจ หรือให้ความสำคัญกับ หลักการ ตำรา อดีต ประสบการณ์ หรือคนอื่น บอกว่า เราเป็นคนอย่างไร) ความสำคัญอยู่ที่ว่า เราเลือกได้ว่า ฉันตั้งใจเป็นคนอย่างไรต่อไปจากนี้ และจะเป็นครูให้แก่ตนเองและคนอื่นๆ ต่อไปอย่างไร”
“ได้ฟังเสียงภายในและครูที่คอยอยู่เคียงข้างเรา เพื่อค้นหาปัญญาแห่งชีวิต”
“กิจกรรมต่างๆทำให้ได้ทบทวนและเข้าใจตนเองมากยิ่งขึ้น กิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวคิดกับเพื่อนๆในกลุ่ม ทำให้เข้าใจผู้คนรอบตัวและสะท้อนให้เห็นตัวตนของตนเองได้ชัดเจนขึ้น”
“ปัญญาเกิดจากครูภายในเรา..โดยการฟังเสียงภายในอย่างรอบด้าน ทั้งเสียงจากหัวใจ ความคิด
ความรู้สึก และเสียงจากร่างกาย ให้เรียนรู้จากสิ่งรอบตัวที่เป็นสิ่งธรรมดาๆ สิ่งที่ชอบและสิ่งไม่ชอบ ฝึกฝนให้รู้เท่าทันตนเองเพื่อพัฒนาตนเองให้มีความสมดุลและมีความสุขในรูปแบบที่เราต้องการ”
“ความรู้สึกที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้คือนับว่าเป็นวาสนาได้มาพบทำให้ชี้ทางออกทำให้มีความหวังมีพลัง ข้อคิดที่ได้คือการแชร์ความหมายของภาพไพ่ในกลุ่มย่อย มองต่างมุม บางเรื่องที่เรามองไม่เจอทางออก แต่อีกคนมองกลับด้าน ทำให้หาทางแก้ไขได้”
“รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้กลับมาทบทวนด้วยการ free writing กับครูค่ะ การได้เข้าไปแชร์กับเพื่อนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนนอกจากได้มิตรภาพแล้วยังมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์นับเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากค่ะ ได้กลับมาคุยกับครูที่อยู่ภายในตนเอง และลำดับขั้นตอนในอบรม ก็ช่วยกล่อมเกลา ให้เราได้เรียบเรียงความคิด เพื่อรับฟังเสียงของครูภายในตัวเรา รวมถึงกิจกรรมทั้งการเปิดไพ่และเขียนfree writing รวมถึงการนั่งสมาธิเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญญาและพบเจอทางออกในสิ่งที่รบกวนจิตใจได้เป็นอย่างดี เป็นบทเรียนที่ล้ำค่ามากค่ะ”
“ทำให้ฝึกเขียนความรู้สึกที่แท้จริง ณ.ขณะ นั้นออกมา เป้นการเขียนระบายความรู้สึกเวลาเขียนเสร้จ รูสึกผ่อนคลาย เหมือนปลดล๊อคอะไรบางอย่างที่เราติดอยู่ ไม่กล้าถามใคร บางเรื่องก็ไม่กล้าบอกใคร เป็นการพูดคุยกับตัวเองอีกรูแปบหนึ่งใช้แค่ปากกากับสมุดแค่นั้น
“ได้ฝึกแสดงความคิดเห็นกล้าพูด ในสิ่งที่เรารู้สึกให้เพื่อนๆฟัง
และได้ฟังความคิดจากเพื่อนๆๆด้วย
เป็นการฝึกฟัง
และฝึกเขียนไปด้วย
ชอบมากๆค่า ฝึกสมาธิให้อยู่กับกลุ่มด้วย
ชอบเวลาเข้ากลุ่มย่อย
ได้ฟังไอเดียเพื่อนๆๆ
ได้ความรู้ ได้เพื่อนใหม่ด้วย มีโอกาสจะเรียนคอสต่อๆๆไปค่าครู🙏”
“ฉันอบรมออนไลน์มา 3 วัน “ฟังครูในเรา” สอนให้ฉัน
-ฟังเสียงในหัว แบบฟังหูไว้หู อย่าเชื่อทั้งหมด
-พยายามไม่ว่ากล่าว ไม่วิจารณ์ คนอื่น
-คนเราก็เท่านี้เดี๋ยวก็ตายจากกันแล้ว อย่าถือสากันเลย ใจจะเป็นสุข
-ไม่ว่าอะไร ไม่มีถูก ไม่มีผิด มีแต่เราชอบ หรือ เราไม่ชอบ”
เวลาโดนว่า แล้วถ้ายังมองแง่งามได้ คือ ใจจะเบา😇 สบาย😇”