“ตลอดการอบรมรู้สึกเหมือนได้ออกเดินทางกลับเข้าไปสำรวจภายในจิตใจของตัวเอง ซึ่งเราอาจไม่เคยใคร่ครวญ มองดู หรือทำความเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้งเลย ทั้งๆที่มันคือ ชีวิตของเรา เเต่ละกิจกรรมที่ได้ทำ ทำให้เรารู้สึกได้เข้าใจตัวเองมากขึ้น ยอมรับทั้งเรื่องดีเเละไม่ดีในชีวิตเรา ได้กลับมาชื่นชมชีวิตตัวเอง ผู้คน สิ่งของ รอบตัว ซึ่งมันคือสิ่งสำคัญที่ทำให้เราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้น ประทับใจเเละขอคุณ ในความใส่ใจของอาจารย์ อาจารย์คอยให้กำลังใจ เเละสะท้อนมุมมองได้ลึกซึ้งในทุกบทเรียน . “ก่อนเรียนมักจะรู้สึกไม่มีพลังอยากจะลงมือทำอะไรมากนัก โดยเฉพาะสิ่งที่คิดว่าไม่มีประโยชน์ เเต่ตอนนี้รู้สึกว่ามีพลังใจมากขึ้นที่จะลงมือทำสิ่งต่างๆเเม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ จะบอกกับตัวเองว่าไม่ต้องคิดเยอะเเละไม่ต้องกลัวผิดพลาด ถ้าสิ่งที่เราจะทำเรามีความสุข เป็นสิ่งที่ดี เเละไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ลงมือทำไปเลย ซึ่งมันคือพลังของเด็กน้อยที่เราลืมเขาไป เขามีพลังในการลงมือทำ เเละรักที่จะเรียนรู้ . “จงปล่อยวาง เลิกยึดติดกับความทุกข์ในใจที่ผ่านมาเเล้วในอดีต ใช้ชีวิตให้มีความสุขในปัจจุบันขณะ ทุกคน ทุกสิ่ง ในชีวิตเราคือความเชื่อมโยง หากเรากลมกลืนกับทุกสิ่งเราจะลดความยึดมั่น ถือมั่นในตัวเองลงได้ จะให้อภัยคนอื่นได้ง่ายขึ้น ” . จากคุณดวงพร (มด) อาชีพ พนักงานบริษัท . . “รู้สึกตื่นเต้นเมื่อเริ่มการอบรม และมีความสุขในระหว่างการอบรม ประทับใจในกระบวนการอบรมที่สามารถทำให้เราเข้าใจตนเองจากการลงมือทำ จากการลงมือทำด้วยความพร้อมของใจที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ได้รับผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน… Continue reading ความประทับใจ “เด็กน้อยภายใน” ประจำปี 2561 (6)
Author: admin
สร้าง “วันว่าง” ด้วยการ “วาง”
สร้าง “วันว่าง” ด้วยการ “วาง” [ คอลัมน์ ไกด์โลกจิต ตอนที่ ๓๙ ] บ่อยครั้งที่เรารอทำสิ่งที่ดีให้แก่ตนเอง หรือสิ่งที่มีคุณค่าแก่คนอื่นๆ เมื่อมี “วันว่าง” รอให้มีวันแบบนี้ก่อน บอกแก่ตนเองและคนอื่น แต่บ่อยครั้งที่ “วันว่าง” ได้มาถึง เรากลับ “ไม่ว่าง” พอที่จะทำในสิ่งที่ดีเหล่านั้นอย่างที่พูดไว้ . บทความนี้เป็นการแนะนำข้อคิด ๕ ประการ เพื่อสร้างวันว่างด้วยตนเอง ไม่ต้องรอ และเพื่อความเข้าใจต่อวันว่างที่ถูกต้องอีกด้วย . . ๑ วางใจ : การมีเวลาว่างพอที่จะทำในสิ่งต่างๆ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับว่าเราวางใจไว้อย่างไร . นึกถึงตอนที่สิ่งสำคัญของตนจู่ๆ ก็หายไปหาไม่เจอ แม้ตอนนั้นเราอาจกำลังยุ่งหรือมีธุระ ใจเราอาจคิดค้นหาเสียก่อนจะทำอะไรอย่างอื่น หรือเมื่อตอนคนที่เราห่วงใยกำลังป่วยหรือเป็นทุกข์กะทันหัน ต่อให้ตอนนั้นเรากำลังมีงานหรือ ไม่ว่าง เราก็สามารถหาหนทางดูแลอีกฝ่ายได้ . ต่อให้แม้ไม่ใช่วันว่างหรือเวลาว่าง แต่หากเราวางใจไว้ว่า สิ่งใดสำคัญต่อเรามากๆ แล้ว เราย่อมสามารถแบ่งเวลาและหาหนทางจัดการมันได้… Continue reading สร้าง “วันว่าง” ด้วยการ “วาง”
เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง #2
“ก้าวข้ามพื้นที่ปลอดภัย แต่ไม่ไกลเกินไปจากตัวเอง” อุปสรรคแรกๆ ของผู้เรียนที่เพิ่งเริ่มต้นเรียน เขียนเปลี่ยนชีวิต มักจะรู้สึกเขียนไม่ออกหรือไม่รู้จะเขียนอะไรในช่วงแรกๆ ที่จับปากกาทำแบบฝึกหัดเขียนบันทึก แต่เรามีกติกาใจแนะนำไว้ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ว่า “ให้การเขียนนำหน้า ปากกานำทาง หัวใจตามมา ความคิดจะเกิดขึ้นเอง” เป็นคาถาสำหรับการเริ่มต้น.คำแนะนำนี้จะสวนทางแก่การเขียนเพื่อสร้างชิ้นงานโดยทั่วไปอยู่บ้าง เพราะการเขียนเพื่อสร้างผลงานนั้นเราต้องคิดให้ดีก่อนเขียน วางโครงร่าง ออกแบบเนื้อหา และเขียนอย่างใส่ใจผู้อื่นว่าเขาจะอ่านรู้เรื่องหรือไม่ ชอบไหม เข้าใจหรือเปล่า แต่การเขียนเพื่อเยียวยาหรือเพื่อเข้าใจตัวเองเป็นการขุดค้นลงไปในจิตใจและความเป็นตัวตน ผ่านการเขียนเป็นเครื่องมือ เพื่อออกนอกกรอบและเปลือกที่ห่อหุ้มตัวเอง และสื่อสารกับหัวใจตนมิใช่คนอื่น.เทคนิคพื้นฐานที่ใช้ในทุกการเขียนเปลี่ยนชีวิต หรือการเขียนบำบัด คือเทคนิคที่ผมเรียกว่า การเขียนไม่หยุดปากกา ซึ่งครูอาจารย์ท่านอื่นอาจจะเรียกด้วยชื่อต่างกันออกไป การเขียนลักษณะนี้ไม่ให้ใช้ความคิดก่อนล่วงหน้า แต่ให้ทำตามขั้นตอนแล้วลงมือเขียนเลย เขียนไปเรื่อยๆ กึ่งอัตโนมัติ อนุญาตให้ใจด้นสด ค่อยๆ ลงลึกในจิต ปอกลอกเปลือกตัวตนอันผิวเผิน แล้วเปิดพื้นที่ให้สมองเกิดการแตกกอต่อยอดทางความคิดใหม่ๆ.การเริ่มต้นเขียนเปลี่ยนชีวิตแล้วเขียนไม่ออกในช่วงแรกๆ เพราะใจเรากำลังเผชิญกับขอบของความคิดและความเคยชิน ซึ่งหากเราเปรียบเทียบพื้นที่ปลอดภัยเหมือนไข่แดงตรงกลางแผนภาพไข่ดาว ขอบของความคิดที่ว่านั้นก็คือเส้นขอบกึ่งกลางระหว่างไข่แดงกับไข่ขาว คือขอบที่ขวางกั้นระหว่างพื้นที่ปลอดภัยและความเคยชินกับพื้นที่ชีวิตใหม่ๆ ที่เราไม่รู้จัก.เหมือนช่วงเวลาที่เราต้องทำในสิ่งที่กลัวหรือไม่เคยชิน เราอาจเกิดความรู้สึกลังเล สั่นไหว มีอาการทางกายและทางใจเกิดขึ้น หรือตอนที่เราต้องการนึกถึงบางเหตุการณ์ในอดีตที่ลืมเลือนไปนานแล้ว นึกไม่ค่อยออก แต่พอผ่อนคลายหรือใช้เวลานึกสักครู่หนึ่งก็ระลึกได้ สิ่งเหล่านี้คือภาวะเมื่อขณะใจก้าวออกมาจากพื้นที่ไข่แดงมาหยุดอยู่ตรงกลางว่าจะก้าวข้ามไปยังไข่ขาวได้ไหม.ผู้เรียนบางคนเมื่อเห็นหัวข้อแบบฝึกหัดให้เขียนเก็บรวบรวมคำชื่นชมจากคนอื่นๆ ที่มีต่อตัวเอง แรกเห็นก็นึกว่าง่าย แต่พอเริ่มเขียนแล้วเจออาการเขียนไม่ค่อยออกในตอนต้นๆ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยใส่ใจการชื่นชมตัวเองเลย พอมีคนชมใจก็นึกเถียงว่ามันไม่ได้ดีอะไรมากมาย การเขียนหัวข้อดังกล่าวจึงกระทบขอบของหัวใจเขา… Continue reading เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง #2
๑๑ ข้อคิดคอลัมน์ ไกด์โลกจิต ประจำปี ๒๕๖๑
๑๑ ข้อคิดคอลัมน์ ไกด์โลกจิต ประจำปี ๒๕๖๑ “หากใครคนหนึ่งทำให้เราเจ็บช้ำ ใครคนนั้นกำลังเป็นครูที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ตัวเรา ครูที่ไม่ต้องการศรัทธา ความชอบตอบกลับ คือคนที่สอนให้เราเข้าใจในความทุกข์ . “ทั้งนี้เมื่อเราพบเจอกับเหตุการณ์ที่เลวร้าย ก่อนที่เราจะพยายามลบเลือนความทุกข์ด้วยข้อคิดใด เราควรกลับมาใส่ใจดูแลและรับฟังใจของตนเองอย่างลึกซึ้ง อย่างไม่หน่ายหนีหรือรังเกียจใจตนเองยามบอกช้ำ . “แม้สิ่งใดหรือใครจะพลัดพรากจากเราไป เราต้องไม่ทิ้งหัวใจของตนเอง มิว่าใครเป็นเหตุก่อทุกข์ เราต้องไม่เป็นเหตุก่อทุกข์แก่ใจและร่างกายเราซ้ำเติม เรามีคุณค่าเสมอ หัวใจและร่างกายเรามีคุณค่าเกินกว่าที่จะทำสิ่งเลวร้ายอย่างเดียวกับกับที่ทำร้ายเรา ต่อตัวเราเอง และต่อใคร” . จากบทความ คุณค่าแท้การให้ “อภัย” เผยแพร่เดือนมกราคม ๒๕๖๑ . . “หลายครั้งเราก็หลงลืมว่า คุณค่าและสิ่งสำคัญในชีวิตคือสิ่งที่อยู่ใกล้เรามากที่สุด นั่นคือ จิตใจ และ ร่างกายตนเอง เราได้ดูแลอย่างสมดุลหรือไม่หากเทียบกับสิ่งนอกตัว ในสังคมปัจจุบันมีกระแสหลากหลายฉุดดึงให้เราสนใจเรื่องนั้นที เรื่องนี้ที ผลักดันให้เราทะยานอยากและใฝ่หวังถึงบางสิ่งที่มีค่า ดิ้นรนขวนขวายเพื่อสิ่งเหล่านั้น ไขว่คว้าขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า . “แล้วหันหลังให้ขุมทรัพย์ของชีวิตที่มีค่ามากที่สุดทรัพย์หนึ่ง ที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด นั่นคือสุขภาพของร่างกาย หากหัวใจเรายังรักตัวเองได้ไม่มากพอ เรามักเห็นสิ่งที่ตนเองไม่มีสำคัญกว่าสิ่งที่มีแล้ว จนวันหนึ่งเรากำลังจะสูญเสียสิ่งที่มีไป… Continue reading ๑๑ ข้อคิดคอลัมน์ ไกด์โลกจิต ประจำปี ๒๕๖๑
ประกวดบทความสอนใจ PunnSpace Award
มาร่วมเปลี่ยนชีวิตผู้คนด้วยกันกับเรา ประกวดบทความสอนใจ PunnSpace Award โดย สถาบันธรรมวรรณศิลป์ ปีที่ 11 หัวข้อ “How to รักตัวเอง” บทความที่ได้รับคัดเลือกจะเผยแพร่ในคอร์สออนไลน์ฟรีเพื่อการกุศล ในโครงการ ปัญญ์ สเปซ โดยแบ่งเป็นรางวัลดีเด่น 5 รางวัล รับค่าต้นฉบับ 3,000 บาท รางวัลชมเชย 7 รางวัล รับส่วนลดค่าลงทะเบียนหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต 1,000 บาท ประกาศผลการประกวด ! อ่านรายละเอียดได้ที่ www.dhammaliterary.org/รางวัล-punnspaceaward2562/ [ กติกาการประกวด ] – รูปแบบ บทความ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการรักตัวเองที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ เสนอแนะวิธีการ และมีรูปธรรมชัดเจน – ความยาว 2-5 หน้ากระดาษเอสี่ ขนาดอักษร 16 พอยท์ เขียนด้วยภาษาไทยเท่านั้น… Continue reading ประกวดบทความสอนใจ PunnSpace Award
เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง #1
“เรามีคุณค่าเพราะว่ามีปมด้อย มิใช่เพราะสมบูรณ์แบบ” ผมคงไม่เริ่มศึกษาการเขียนเพื่อการเยียวยาและพัฒนาชีวิต หากไม่ได้เกิดมาพร้อมกันเยื่อพังผืดติดใต้ลิ้นตรงใกล้ปลายๆ ทำให้พูดไม่ชัดและออกเสียงบางอักษรได้ไม่ถูกต้อง แล้วโชคร้าย เพราะกว่าจะมีหมอคนใดสามารถวินิจฉัยได้อย่างถูกต้อง ก็ตระเวนไปหาคำตอบและทางรักษาหลายที่ จนเมื่อพบสาเหตุที่ซ่อนอยู่ตรงหน้าผมก็อายุย่าง 11 ขวบแล้ว ความมั่นใจที่จะพูดและสื่อสารกับโลกภายนอก โบยบินไปกับช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การฝึกพูดแล้ว . การกระดกลิ้นไม่ได้ทำให้ผมถูกล้อเรื่องเสียงพูดบ่อยครั้งนัก ทั้งจากเพื่อนเด็กนักเรียนและคุณครู โรงเรียนไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยสำหรับผมนัก และกว่าจะพบสาเหตุสำคัญก็ไม่มีใครเข้าใจว่าเหตุใดผมจึงไม่สามารถฝึกออกเสียงและพูดได้เหมือนเด็กคนอื่น ทำให้การปรับตัวเมื่อต้องย้ายโรงเรียนมาเรียนต่อกรุงเทพ เป็นสิ่งที่ยากเข็ญนัก . ผมมีที่พักใจ คือกองกระดาษใช้แล้วจากบริษัทที่พ่อทำงาน นั่นคือสมุดบันทึกเล่มแรกของผม ที่ซึ่งผมสามารถหลบพักจากโลกที่ผมไม่สามารถพูดและปรับตัวกับเพื่อนได้อย่างสมบูรณ์อย่างที่เด็กคนหนึ่งควรทำได้ อยู่กับจินตนาการและเพื่อนรับฟังที่ดีที่สุด . ผมเริ่มจากการชอบวาดรูปก่อน พยายามสร้างสรรค์เรื่องราวเลียนแบบจากภาพยนตร์และการ์ตูน แต่อนิจจา ฝีมือผมนั้นแย่มาก แล้วผมก็อยากให้พ่อแม่ท่านอ่านรู้เรื่อง ผมจึงต้องเขียนบอกว่า อันนี้ที่วาดคืออะไร อันนั้นคืออะไร เขียนบอกไว้ประกอบภาพ จนแล้วจนเล่าคิดว่าคงไม่เหมาะกับการวาดรูปแล้ว จึงเขียนเยอะขึ้นไปตามลำดับ . โชคร้ายกลายเป็นดีได้เสมอ หากผมวาดรูปเก่ง หรือเกิดมาพูดชัดเจน ผมคงให้เวลาสนใจเรื่องอื่นๆ มากกว่า ปัจจุบันคงไม่ได้เป็นครูผู้สอนการเขียนเพื่อเปลี่ยนแปลงตนเอง หรือดูแลสถาบันธรรมวรรณศิลป์มาจนถึงวันนี้ . การที่ต้องไปหาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเรื่องเด็กหลายคน แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการออกเสียงของตัวเองได้ มีผลกระทบทางใจกับผมอย่างน้อยสองอย่าง อย่างแรก ทำให้สงสัยถึงสาเหตุของสิ่งต่างๆ… Continue reading เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง #1
รายชื่อผู้ผ่านการอบรม และสรุปบทเรียน “เขียนเยียวยา”
รายชื่อผู้ผ่านการอบรม และสรุปบทเรียน “เขียนเยียวยา” (Writing Therapy Course) ในหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๓๓ เรียนทางไกลสี่สัปดาห์ “มีความประทับใจในการเรียนรู้แบบออนไลน์มากค่ะ ตอนแรกไม่ค่อยเชื่อว่าการเรียนแบบนี้จะเข้าถึงการพัฒนาจิตใจได้ เพราะไม่เจอครู แต่พอรับการอบรมพบว่าทุกบทเรียนเข้าถึงหัวใจทุกครั้ง เปิดประสบการณ์และความเข้าใจต่อตนเองในด้านที่เราไม่เคยนึกถึงหรือไม่เคยขุดมันออกมาดู จากการปฏิบัติกิจกรรมตนเองได้แนวทางการคิดและสำคัญที่สุดคือการค้นพบว่าตัวเองไม่ค่อยอ่อนโยนกับตัวเองเท่าไร ไม่ดูแลใจและร่างกายของตัวเอง หลังจากการอบรมตัวเองคุยกับตัวเองบ่อยขึ้น ยิ้มให้กับความโชคดีของตัวเองทุกวัน ขอบคุณร่างกายและดูแลร่างกายมากขึ้น รวมทั้งการแก้ปมในใจที่มีต่อคนใกล้ชิดรอบๆตัว . “สิ่งที่ได้กลับมาดูแลคือความใส่ใจในร่างกายและจิตใจตนเอง รู้สึกอ่อนโยนกับตัวเองมากขึ้น ไม่โบยตีตัวเองจากความรู้สึกผิดที่เกิดจากประสบการณ์ในชีวิต รับรู้ว่าการเป็นคนคุณค่าของเราไม่ได้อยู่ที่การทำถูกหรือทำผิด แต่ขึ้นอยู่กับวิธีคิดของเราว่าจะเห็นเรื่องนั้นว่าเป็นความเป็นความตาย หรือจริงๆแล้วมันคือธรรมชาติของสรรพสิ่ง มันดำเนินไปเรื่อยๆ มีแต่เราที่พยายามยึดสิ่งโน้นสิ่งนี้ กักความสุขความทุกข์ไว้กับตัว ทั้งๆที่ธรรมชาติของมันดั่งสายน้ำไหลเลยเรื่อยไป ถ้าเห็นธรรมชาติข้อนี้ ก็คลายทุกข์และไม่ยึดติดกับความสุขมากเกินไปค่ะ” . คุณสิริลักษณ์ (ปู) อาชีพ ครู . . “รู้สึกทึ่ง กับวิธีการอบรมแบบนี้ ที่ให้ผลดี ในการเรียนรู้เข้าใจตัวเอง กลับมาฟังตัวเอง หลังการอบรมรู้สึกว่าวิธีการเขียนสื่อสารกับหัวใจตัวเองเป็นทางที่ตัวเองจะฝึกฝนเลือกใช้เดินทางไปข้างหน้าเวลาเกิดปัญหาอุปสรรค . “ชอบหลายหัวข้อ ฟังใจ… Continue reading รายชื่อผู้ผ่านการอบรม และสรุปบทเรียน “เขียนเยียวยา”
ผลงานเรื่องสั้นเยาวชนที่ได้รับรางวัล ธรรมวรรณศิลป์ ครั้งที่ ๘
สามารถเปิดอ่านผลงานได้ โดยการคลิกที่ภาพและลิงก์ด้านล่างนี้ โดยอ่านรายละเอียดการประกวดได้ที่ https://www.dhammaliterary.org/ประกวดงานเขียนเยาวชน/
๘ วิธีเข้มแข็งจากภายใน ไม่ยากเลย (ตอนสอง)
๘ วิธีเข้มแข็งจากภายใน ไม่ยากเลย (ตอนสอง) ๕ อย่าพยายามหนีความจริงและความรับผิดชอบ : . ความเข้มแข็งที่แท้จริงเกิดจากการกล้าเผชิญหน้าด้วยใจยอมรับ ยิ่งเราพยายามหนีปัญหาและหาทางลัด บอกปัดความรับผิดชอบ หรือตีกรอบเป็นกำแพงด้วยความคิดและข้ออ้าง ไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา ยิ่งทำให้จิตใจเราอ่อนแอลง . เพียงแค่เรายอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความรับผิดชอบ ตอนนั้นเราก็กล้าหาญมากแล้ว และมีโอกาสที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมไปกับพัฒนาตนเอง ต้องมีความกล้าเท่านั้นจึงจะยอมรับความจริงและรับผิดชอบได้ คนที่ไม่กล้ายอมรับและรับผิดชอบสิ่งต่างๆ คือคนที่ไม่อาจเห็นความเข้มแข็งในตนเองได้เลย . หากเราพยายามแต่จะปกป้องตนเองและหาทางลัด เราอาจรอดไปจากเหตุการณ์นั้นได้ชั่วคราว แต่เราจะไม่เติบโต ไม่รู้สึกภาคภูมิกับตนเอง และเกิดเรื่องเดิมขึ้น เราก็จะทุกข์อีกและมีแนวโน้มว่าจะซ้ำร้ายกว่าเดิม . เมื่อใจรู้สึกทุกข์ หากขาดสติแล้วใจก็มักจะพยายามหนีความทุกข์หรือสร้างกำแพงขึ้นมาห่อล้อมใจไว้ เป็นไปตามความเคยชิน แต่ปัญหาก็จะไม่ได้รับการแก้ไขและตัวเราก็จะไม่เข้าใจความจริงของชีวิต เพราะปัญหาหรือทุกข์ที่เกิดขึ้นคือความจริง การยิ่งพยายามหนีจากทุกข์ยิ่งทำให้เราหลอกตัวเอง ทำมากเข้าก็หลอกตัวเองเป็นชั้นๆ ทับซ้อนจนเป็นเงื่อนปมซับซ้อน . การเข้มแข็งจากภายในเกิดจากการเคารพตนเอง ภาคภูมิใจในตนเองได้ ยิ่งเรายอมแพ้แก่ความอ่อนแอข้างใน วงจรการหลอกตัวเองและการพยายามหนีจากทุกข์ก็จะดำเนินต่อไป ย้ำความอ่อนแอแก่ใจมากขึ้นๆ เมื่อถึงที่สุดทุกข์ก็จะทุกข์ยิ่งกว่าที่เป็นจริง ด้วยใจที่ไม่ยอมรับความจริงนั้น . ความรับผิดชอบคือคุณสมบัติสำคัญของผู้มีความเข้มแข็งจากข้างใน ความรับผิดชอบนี้เกิดจากการรู้หน้าที่ แต่ก็เกิดจากการยอมรับความจริงที่เป็นด้วย เพราะยอมรับความจริงเท่านั้น เราจึงรู้ว่าควรทำอะไรและไม่ควรทำสิ่งใด… Continue reading ๘ วิธีเข้มแข็งจากภายใน ไม่ยากเลย (ตอนสอง)
ความประทับใจ “เขียนเยียวยา” ประจำปี ๒๕๖๑ (พฤษภาคม) (๗)
“รู้สึกว่าการอบรมแบบนี้เป็นการช่วยบำบัดเยียวยาจิตใจของเรา ค้นหาสิ่งที่อยู่ภายในใจ ดึงความรู้สึกทุกข์ที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในใจเราออกมา และดึงความสุขที่เคยมีแต่หลงลืมไปให้กลับมาเยียวยาจิตใจเราได้ . “ทำให้กลับมามองเห็นคุณค่าของตัวเองที่หลงลืมไป มัวหลงให้ความสำคัญในสิ่งที่ผู้อื่นมองเรา ใส่ใจและผิดหวังหากผู้อื่นไม่เห็นในสิ่งที่เราเป็น หรือพยายามเป็นในสิ่งที่ผู้อื่นต้องการ แต่การกลับมาเป็นตัวเอง ให้ความสำคัญกับตัวเอง ใส่ใจกับตัวเอง ทำให้รู้สึกตัวเองมีคุณค่าและภูมิใจในตัวเอง” . คุณฐิติพร (มะเหมี่ยว) อาชีพ อิสระ . . “เคยมีโอกาสเรียนคอร์สออนไลน์บางเรื่องมาก่อนบ้าง แต่คอร์สของครูโอเล่แตกต่างมากครับ ตอนแรกก่อนลงสมัครก็คิดว่าไม่น่าจะยาก และคิดว่าคงไม่ต้องทำอะไรมากเหมือนคอร์สอื่นๆ ประหลาดใจมากที่มีบทเรียนให้เรียนรู้หลากหลาย มีสื่อทั้งใบงานและคลิปเสียง มีพิเศษนอกรอบอีก แถมมีสรุปทบทวนตนเองอีก นอกจากนี้สิ่งที่ชอบที่สุดคือการทีครูตอบอีกเมล์เร็วมาก และตอบได้เหมือนกับว่ามาเรียนกันอยู่ตรงหน้า ต้องขอบคุณครูโอเล่จริงๆครับทุ่มเทพลังในการดูแลชี้แนะแก่ผู้เข้าร่วมอบรมทั้งหลาย สุดยอดจริงๆครับ . “หัวข้อที่สะเทือนความรู้สึกและความคิดที่สุดคือ มอบดอกไม้ และ จดหมายจากร่างกาย จากการอบรมทำให้เกิดความสำเร็จจากการเอาชนะเสียงในหัวของตนเอง ยินดีให้กับความมุ่งมั่นและพยายามของตัวเอง วันนี้บอกตัวเองว่าทำได้แค่ตัดสินใจแล้วลงมือทำ จะเก็บความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่จากสิ่งเล็กๆนี้ไว้นึกย้อนดูในวันที่เจอเรื่องราวคล้ายๆกัน เก็บไว้เป็นพลังใจ” . คุณจิระวุฒิ (จู๊ด) อาชีพ เเพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป . . “ประทับใจครูโอเล่ที่ใส่ใจกับการเขียน มองเห็นถึงความรู้สึกที่อยู่ในงานเขียน และ แนะนำให้เขียนงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวเนื่อง… Continue reading ความประทับใจ “เขียนเยียวยา” ประจำปี ๒๕๖๑ (พฤษภาคม) (๗)