รวมบทเรียน พลังแห่งจิต กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๖ (๔)

    บทเรียนการอบรม “#ห้องเรียน #พลังแห่งจิต” รุ่นที่ ๖ กี่งออนไลน์ * * * * * “วันนี้ลองทำซ้ำกิจกรรมเดิม แต่ก่อนทำได้ทำกิจกรรมเสริม 6-7 พร้อมและต่อเนื่องกันไปเลย เพราะคิดว่สทั้งสองกิจกรรมเอื้อต่อกันค่ะครู พอได้เริ่มรู้สึกว่าจิตเราสงบไม่ส่งออกนอกมีความรู้สึกผ่อนคลายจิตออกไป ตอนที่บอกกับตัวเองว่าเรารับพลังเข้ามา และตอนหายใจออกบอกว่าเราได้ทำในสิ่งที่มีคุณค่านั้นรู้สึกมีพลังบางอย่างวิ่งอยู่ในกาย ทำให้รู้สึกอิ่มเอมบอกไม่ถูกค่ะ . สำหรับกิจกรรมปล่อยวางพอได้ทำซ้ำแล้ว บทเรียนที่ได้จากการทำกิจกรรมนี้คือ ร่างกายหรือความรู้สึกของเรามันบอกกับเราว่าบางอย่างที่มันผ่านมาแล้ว บางทีเรายังเก็บไว้อยู่ในใจ พอเราได้ย้อนกลับไประลึกถึงทั้งสิ่งที่พอใจและไม่น่าพอใจ ทั้งสิ่งของ ทั้งความรู้สึกขณะทำนั้น ไม่ว่าความเจ็บปวดหรือความเมื่อยต่างๆก็ดี หากเราเอาจิตไปจับไปให้ความสำคัญกับมัน เราจะรู้สึกทุกข์กับมันมาก การพยายามนึกถึงสิ่งที่ทำให้ไม่พอใจ มันทำให้จิตรู้สึกอึดอัดแน่น ต่อเมื่อใจ้ราคลายออกได้ ไม่ยึดไม่เกาะเกี่ยวบอกดับตัวเองให้ให้ปล่อยวางมันไป เรารู้สึกเลยว่าใจโล่งเบาไม่อึดอัด แม้แต่ความเจ็บปวดของร่สงกายพอเราไม่ใส่ใจบอกตัวเองว่าปล่อยวางอาการนี้ซะมันกลับไม่ทุกข์ทรมานแม้เราจะรู้สึกว่า อาการนั้นยังคงอยู่แต่มันไม่อาจเข้ามาทำร้ายจิตใจเราได้ มันทำให้เราตระหนักว่าทุกวันที่เราเป็นทุกข์เพราะเราเอาปัญหาหรือสิ่งที่รู้ว่าทำให้ทุกข์เอามาเก็บไว้ จริงๆถ้าเราแค่รู้ว่ารู้สึกทุกข์ โดยไม่ต้องไปจมจ่อมอยู่กับมัน ความทุกข์มันก็ทำร้ายเนาไม่ได้แล้ว ทุกอย่างอยู่ที่ความคิ อยู่ที่มุมมองของเราจริงๆนะคะครู . ขอบคุณครูอีกครั้งที่ให้ทำหัวข้อนี้ซ้ำทำให้เข้าใจและรู้ว่าการปล่อยวางคือการวางใจไม่ไปยึดกับสิ่งใดที่ทำให้ใจเป็นทุกข์นั่นเอง วันนี้รู้สึกโล่งๆเบาใจค่ะ” . จากคุณเพียงใจ (จุ๋ม) อาชีพ พนักงานรัฐวิสาหกิจ *… Continue reading รวมบทเรียน พลังแห่งจิต กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๖ (๔)

บทเรียน เขียนค้นตน ๒๕๖๐ (๙)

        บทเรียน “เขียนค้นตน” หลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๑๗ ประจำเดือน มกราคม ๒๕๖๐ (รอบสอง) จากคุณอรนุช (น้อง) พนักงานบริษัทเอกชน . www.dhammaliterary.org    

บทเรียน เขียนค้นตน ๒๕๖๐ (๘)

      “ทบทวนประสบการณ์ค้นตน หลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๑๗ การเรียนเขียนค้นตนนี้ทำให้รู้สึกประหนึ่งว่ากำลังฝึกตนอยู่บนยอดเขาบู๊ตึ๊ง แต่ละขั้นบันไดที่ก้าวแต่ละก้าวมีแต่สูงชัน ถูกเคี่ยวกรำ และเหน็ดเหนื่อยขึ้นเรื่อยๆ . ด้วยการใช้ชีวิตที่ถูกหล่อหลอมให้เปรียบเทียบกับคนอื่นอยู่ตลอดเวลา เมื่อเขียนบันทึกเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ เราจึงนึกได้น้อยมาก ยึดติดในผลงานที่ต้องดี สำเร็จ เป็นงานของส่วนรวม ต้องดูยิ่งใหญ่ราวกับกำลังเขียนใบสมัครงานให้นายจ้างมองว่าเรามีคุณสมบัติดีและพิเศษกว่าคนอื่น . เราลืมนึกถึงเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ที่เคยริเริ่มภูมิใจ แม้ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่คนอื่นเคยทำมาก่อนก็ตาม พอครูแนะให้นึกถึงตรงนี้ สิ่งละอันพันละน้อยผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ได้หวนระลึกนึกถึงความสนุกในการลงมือทำบางอย่างโดยไม่สนใจผลลัพธ์มากกว่า ๓๐ เรื่อง . ส่วนใหญ่คนภายนอกมักมองตัวเราว่าเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเอง แต่เนื้อแท้ตัวเรากลับไม่มีความมั่นใจอะไรเลย ไม่ชื่นชมตัวเอง เชื่อว่าตนเองเป็นคนไม่มีศักยภาพ ไม่มีความถนัด หรือความสามารถพิเศษอะไร การได้ระลึกถึงเรื่องราวที่ตนได้ริเริ่มบางอย่างแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยในอดีต จึงช่วยเพิ่มความภูมิใจในตนเองได้ส่วนหนึ่ง . และแล้วกิจกรรมไพ่ปลุกตัวตน ก็ปลุกตัวเราสมกับชื่อกิจกรรมนั้น กิจกรรม “ฉันคือผู้เวียนว่ายฯ” เป็นปฐมบทของการริเริ่มสร้างสรรค์ของตัวเองเกิดขึ้นจากเสียงภายในที่พยายามส่งสัญญาณบอกใบ้แก่เราให้หาสิ่งใหม่ๆ มองเห็นศักยภาพที่มี และเริ่มต้นทำในทันทีอย่างเป็นอิสระ . หลังจากเขียน “กวีร้อยแก้ว” (ตามที่ครูเรียก) ครูก็แนะว่าให้วาดภาพประกอบด้วย โดยส่วนตัวเป็นคนที่กลัวการวาดรูปมาแต่ไหน แค่ให้หยิบสีมาระบายก็เครียดจนแทบอยากร้องไห้ ต่อรองแกมหยอกครูเล่นว่า… Continue reading บทเรียน เขียนค้นตน ๒๕๖๐ (๘)

บทเรียน เขียนค้นตน ๒๕๖๐ (๗)

    “ก่อนจะสรุป ต้องขอขอบคุณคุณครูและสถาบันฯ ไว้ ณ บรรทัดนี้ ที่เปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้สิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนค่ะ . ความจริง ตอนที่น้องสาวชักชวนให้สมัคร ตอนนั้นอ่านรายละเอียดของสถาบันฯ เพียงย่อๆ ผ่านๆ เข้าใจเอาเองว่า เป็นการฝึกเขียนบทความ เขียนเรื่องราว เขียนเรื่องเล่าที่เราอยากจะเล่า อยากจะโพสต์ อยากจะบันทึก เหมือนกับ ว่าเรียน เพื่อปรับปรุงการเขียนของเรา เรียนเพื่อรู้เรื่องเทคนิคการเขียนให้เป็นเนื้อหา บทความที่ชวนอ่าน ชวนติดตาม อะไร ทำนองนี้ ไม่คิดมาก่อนว่า คือการเขียนเพื่อรู้จักตนเอง โดยผ่านกระบวนการของทางคุณครู ผู้ควบคุม พอเริ่มเรียนสัปดาห์แรก เอ๊ะ ชักยังไง แปลกใจว่านี่เรากำลังเรียนอะไร โอ้ววว… พออ่านรายละเอียดและขั้นตอนการ เรียนรู้แต่ละส่วน ตามลำดับแล้ว ที่เราเข้าใจมานั้นไม่ใช่เสียแล้ว นั่นสิ แล้วเราจะได้อะไรจากการใช้เวลาเรียนครั้งนี้ . ย่อหน้าที่ 2 ข้างต้น นั้นคือสิ่งที่คิดและรวบรวมไว้ก่อนเริ่มเรียนกับคุณครู บรรทัดข้างล่างนี้คือสิ่งที่คิดและได้จากการ จากการเรียนครั้งนี้ คือ 1. ได้รู้จักกระบวนการ ที่จะทำความรู้จักตนเองในด้านอื่นๆ ด้วย… Continue reading บทเรียน เขียนค้นตน ๒๕๖๐ (๗)

บทเรียน เขียนค้นตน ๒๕๖๐ (๖)

    “ก่อนอื่นต้องขอแสดงความขอบคุณครูมากค่ะที่ได้แนะนำดิฉัน และะทำให้ดิฉันพาใจกลับบ้านหลังจากที่หลงทางมานาน จากที่ได้เลือกเหตุการณ์ประหลาดใจ บันทึกและสะท้อน ทบทวน สิ่งที่ได้รับและรู้คือใจของดิฉันรู้สึกมีพลัง . “นิทาน”เป็นอีกบันทึกหนึ่งที่รับรู้ของการพัฒนาความรู้สึกในทางบวก เพิ่มขึ้น ได้เขียนนิทานที่ไม่มีพล็อตเรื่องแต่ความรู้สึกที่ส่งไปปลายปากกามันต่อเนื่อง ชัดเจนและมั่นคงในช่วงระหว่างเขียน เมื่อเขียนเสร็จตามกรอบเวลา10 นาที อ่านซ้ำหลังจากบันทึกตัวละครเอกตัวนี้ คือเราในวันนั้น!! สะท้อนถึงความมุ่งมั่น อดทนสร้างปราสาททราย เมื่อวันหนึ่งสิ่งที่สร้างมาด้วยพลังทั้งหมดได้พังลง หนูน้อยได้เรียนรู้การน้อมรับ การให้อภัย . ดิฉันได้ทบทวนสิ่งที่ผ่านมา ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทุกสรรพสิ่งมีการ เปลี่ยนแปลงตามเหตุตามปัจจัย ในฐานะเราซึ่งเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ควรเลือกเรียนรู้ เลือกเข้าใจและเลือกพัฒนาให้สมกับคุณค่าของมนุษย์ . ด้วยความเคารพค่ะ” สิริญ(หนูเล็ก) #เขียนเปลี่ยนชีวิต หัวข้อ “เขียนค้นตน” รอบสอง รุ่น 17 . www.dhammaliterary.org  

บทเรียน เขียนค้นตน ๒๕๖๐ (๕)

    บทเรียน เขียนค้นตน กึ่งออนไลน์ (มกราคม รุ่นที่ ๑๗) #เขียนเปลี่ยนชีวิต * * * “บันทึกสะท้อนตนเองจากการเรียนเขียน เริ่มต้นเรียนไม่ได้คาดหวังอะไรค่ะ แค่อยากรู้ว่าเขียนค้นตนเป็นอย่างไร เมื่อเริ่มเขียน ยังไม่เข้าใจ ก็ยังอยู่ในกรอบความคิดและติดในรูปแบบงานเขียนมากกว่า คุณบรรทัดฐานมาทำงานเนียนๆ ^_^ เมื่อครูเริ่มสะท้อนจากสิ่งที่แฝงในการเขียน และคุณองอาจตื่นขึ้น ก็เริ่มเขียนโดยไม่ติดในรูปแบบ การใช้คำ งานเขียนก็เริ่มง่ายและชัดเจนมากขึ้น เป็นการย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ที่ผ่านมา ด้วยความเข้าใจกับทุกตัวละครมากขึ้น แม้จะยังไม่ครบทุกมิติ มีบทเรียนและการสะท้อนของครูที่ทำให้เห็นแนวทางที่จะเดินต่อไป . ขอบคุณค่ะกับประสบการณ์การเขียนและการรับฟังการสะท้อน การเรียนรู้เกิดขึ้นได้เกิดจากศรัทธาที่เพิ่มขึ้นต่อครูและต่อตนเอง และได้เห็นตัวตนต่างๆที่ตนเองมีอยู่ ตัวตนต่างๆคือครูในความคิด พอเราคิดแบบนี้เราก็ทำแบบนี้ พอเราคิดอีกแบบเราก็ทำแตกต่างไป จนกว่าเราจะเข้าใจว่าความจริงของความคิดนั้นมันก็แค่ผ่านไป” . คุณจิ๋ว ฐิตารีย์ อาชีพแม่บ้าน www.dhammaliterary.org    

บทเรียน เขียนค้นตน ๒๕๖๐ (workshop รอบสอง)

      บันทึกบทเรียนจากการเข้าอบรมหัวข้อ “เขียนค้นตน” ในหลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๑๗ ประเภท workshop   ตามไฟล์ภาพ ดังนี้ และอ่านเพิ่มเติมได้ที่อัลบั้มรูป        

บทเรียน เขียนค้นตน ๒๕๖๐ (๔)

        บทเรียน เขียนค้นตน #เขียนเปลี่ยนชีวิต กึ่งออนไลน์ รุ่นที่ ๑๖ (มกราคม ๒๕๖๐ รอบแรก) หัวข้อบันทึก “ดูแลตัวตนที่เปราะบาง” และ ไพ่ปลุกตัวตน “นักเรียนรู้” โดย คุณหน่อย อรอนงค์ อาชีพ พนักงานมหาวิทยาลัย www.dhammaliterary.org  

บทเรียน เขียนค้นตน ๒๕๖๐ (๓)

    บทเรียน เขียนค้นตน หลักสูตร #เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๑๖ “ขอบคุณมากนะคะการเขียนลงลึกไปในรายละเอียดทำให้มองกระจกแล้วสะท้อนใจ ผ่านการคิดการตีความอยู่ภายในมาเป็นการเขียน ซึ่งมันทำให้เรามีสติ อยู่กับปัจจุบันในขณะที่เราเขียนรู้สึกถึงการใช้สมาธิ เหมือนการนั่งวิปัสสนาต่างกันตรงที่การนั่งวิปัสสนาเรากำหนดสติตามลมหายใจ แต่การเขียนเราต้องมีสติตามการที่เราเขียน อยู่กับปัจจุบัน เป็นคนชอบเขียน แต่ไม่เคยเขียนแบบนี้มาก่อนเคยเขียนแต่ไดอารี่ เขียนสิ่งที่เราทำในแต่ละวัน ไม่เคยเขียนเป็นเรื่องๆ ถามตัวเองแบบนี้มาก่อน ขอบคุณนะคะที่ทำให้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยรู้และทำมาก่อน ได้มองเห็นตัวเองโดยผ่านตัวเอง ” คุณติ๊ก ฉัตรทิดา อาชีพรับจ้าง www.dhammaliterary.org    

บทเรียน เขียนค้นตน ๒๕๖๐ (๒)

      บทเรียน เขียนค้นตน #เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ ๑๖ “ระหว่างทำกิจกรรมบันทึก สองด้านตัวตน ขั้นตอนแรก ภาพวาดแรกเป็นตัวตนสองตัวตน ตัวตนสัตว์ร้าย รุนแรง คุกรุ่น หมกมุ่น ร้อน ตัวตนผู้โน้มน้าว ตอนที่ระบายรู้สึกเย็น รู้สึกกว้าง แผ่ขยาย เหตุการณ์ที่นึกถึงในด้านผู้โน้มน้าว ระหว่างที่เขียนโดยไม่หยุด เป็นความรู้สึกดีดี รนู้สึกอยากให้เค้าทั้งคู่เข้าใจกัน ไม่อยากให้ถูกบังคับ ฝืนใจทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ (เพราะเคยเจอมากับตัวเอง) แต่สุดท้ายแล้วก็อยู่ที่คนทั้งสองนั้นที่เป็นคนเลือกตัดสินใจจะทำอย่างไร ด้านสัตว์ร้าย เป็นเหตุการณืที่เมื่อประสบครั้งใด จะคุกรุ่นขึ้นทันทีทุกครั้ง สัตว์ร้ายจะผงกหัวขึ้นทุกครั้ง เหมือนสัตว์ที่นอนอยู่อย่างสงบ แต่เมื่อถูกใครมาแหย่ หรือเข้ามาถึงตัว จะผงกขึ้นตั้งท่าทันที ไม่อาจสงบใจให้หลับต่อได้ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรโต้ตอบ ได้ตั้งท่า มอง จ้อง แต่ไม่อาจหลับต่อได้ บางครั้งลุกขึ้นมาขู่ บางครั้งขยับตัวให้รู้ว่าอยู่ตรงนั้น แต่ไม่ฉก ไม่กัด ไม่ทำร้ายคนเหล่านั้น . ขั้นที่สอง ระหว่างสนทนา รู้สึกถึงตัวตน และความรู้สึกของสัตว์ร้ายมากขึ้น ก่อนหน้านี้เข้าใจว่ามีแต่ความโกรธ ควาคับข้องใจ… Continue reading บทเรียน เขียนค้นตน ๒๕๖๐ (๒)