๙ วิธี ชนะข้ออ้าง “ไม่มีเวลา” และหยุดเสียเวลาชีวิต ภาค ปรับวิธีคิด . ๑ เรากำลังเผลอโทษสิ่งนอกตัวหรือไม่ : . การกล่าวว่า “ไม่มีเวลา” หรือ “ต้องใช้เวลามาก” เป็นการโทษสิ่งนอกตัว คือโทษเวลาหรือภาระทั้งหลาย นี่เป็นการบอกปัดความรับผิดชอบออกไปนอกตัว ทั้งที่สาเหตุแท้จริงที่ทำให้เรา “ทำไม่ได้” หรือ “ไม่ได้ทำ” เกิดจากความเพียรมากน้อยของตนเอง และการบริหารจัดการชีวิต . การกล่าวโทษเวลาและภาระจึงยังเป็นการปฏิเสธตัวเองและความจริงที่ว่า เรายังมีความเกียจคร้านอยู่ เรายังมีความหลงอยู่ การกระทำของเราเองเป็นเหตุของความผิดพลาด มิใช่เวลาเป็นเหตุผลสำคัญ . หากเรามัวเฝ้าโทษเวลาน้อย และภาระต่างๆ อันเป็นของนอกตัวแล้ว เมื่อนั้นเราก็กำลังเสียเวลา เพราะไม่เรียนรู้และไม่สำนึกตนว่าเราต้องพัฒนาตนเอง ความผิดพลาดก็จะเกิดขึ้นต่อไป จึงเป็นเหตุทำให้เสียเวลาไม่รู้จบ แม้เพียงแค่เรามีความเพียรมากขึ้นกว่านี้ โทษตนเองไม่โทษสิ่งนอกตัวเกินไป เราก็มีเวลามากขึ้นแล้ว เพราะเหตุที่จะทำให้เสียเวลาในวันหน้าได้ลดน้อยลง . ชีวิตของตัวเราเองคือสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง การใช้ชีวิตในแต่ละวันคือสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง เวลาไม่ใช่สิ่งที่จะรับผิดชอบภาระต่างๆ ให้ได้ เราต้องเคารพตนเองให้มากพอ เป็นผู้ใหญ่ให้มากพอที่จะรู้ดูแลสิ่งต่างๆ ในขอบเขตที่ควร .… Continue reading ๙ วิธี ชนะข้ออ้าง “ไม่มีเวลา” และหยุดเสียเวลาชีวิต
Author: admin
อย่าหงุดหงิดกับความเขลาของเขาเลย
อย่าดูถูกตัวเองเลย เธอเพียงคิดผิดพลาดและหลงลืม อย่ายกตนขึ้นเบ่งเลย ความเก่งแค่มาตรวัดชั่วคราว เธอไม่ใช่ความโง่และความฉลาด . ปัญญาดีเป็นการปรุงแต่งของใจ ร้อยเรียงนานาข้อมูลที่รับรู้ ความเก่งจึงมิใช่ของเราและใคร เธออย่ามัวพะวงอวดอ้างเลย . เราต่างก็ยังหลงและไม่รู้ ตราบที่ใจยังทำตนทุกข์อยู่ร่ำไป อย่าหงุดหงิดกับความเขลาของเขาเลย เธออาจหนีความโง่นี้ในตนอยู่เช่นกัน . เมื่อสังขารเสื่อมโทรมและตายจาก เก่งแค่ไหนก็เอาไปไม่ได้ ฉลาด…ไว้ใช้อยู่อย่างไม่ประมาท ที่ไว้ประดับเป็นคุณค่า ยังโง่อยู่ . ปัญญาจะกางปีก เมื่อเปิดกรงนิยามเก่งและโง่ เรามิใช่ทั้งสองสิ่งนี้ ใจเพียงหมายมั่นไว้ จากความยินดีและผิดหวัง . เธอแค่ทำได้หรือไม่ได้ในตอนนั้น มิใช่ตัวกำหนดปัญญาที่มี บางครั้งมิใช่เพราะเขลาจึงพลาดไป แค่ยังต้องศรัทธาตนเองมากกว่านี้ . ความเก่งเพียงความพร้อมของกายใจ ไม่อาจถือไว้ประดับหรือครอบครอง ความโง่บ่มจากหลงขาดสติ เมื่อน้อมรับไม่หนีหรือสู้ความจริง ใจก็ผลิปัญญาแท้ . . มองให้ดี ให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้น… นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นตัวเรา นั่นไม่ใช่ตัวตน . . อนุรักษ์ ครูโอเล่ คอลัมน์ “บทภาวนา อนัตตา” ตอนที่… Continue reading อย่าหงุดหงิดกับความเขลาของเขาเลย
รวมบทเรียน “เขียนข้ามขอบ” เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ 37
คอร์ส “เขียนข้ามขอบ” ในชุดหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต ทางไกล 4 สัปดาห์ รุ่นที่ 37 ได้จบลงแล้ว มีผู้ผ่านการอบรม 36 คน รวมจำนวนส่งการบ้าน 425 ชิ้น . “รู้สึกเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้นคะ ตอนแรกที่ยังไม่อบรมคือเรามักจะมีคำถามในใจที่คิดวกไปวนมาเยอะแยะไปหมด คนรอบข้างพยายามให้กำลังใจและเชื่อมั่น ซึ่งเราก็จริงๆเข้าใจและรู้ว่าคำตอบมันคืออะไรแต่ก็ยังเหมือนมีอะไรติดอยู่ในใจก้าวข้ามไม่ได้ซะที ระหว่างอบรมได้ทำแบบฝึกหัดมันก็เหมือนการทวนสอบคำตอบ เราได้เห็นสิ่งที่เราคิดผ่านการเขียน ได้อ่านได้เจอคำพูดจากแบบฝึกหัด ให้กระโดด ให้ทะยานออกมาทำให้หลังการอบรมตอนนี้รู้สึกเหมือนมีทริคเล็กๆ ว่าวันหน้าถ้าเจอเหตุการณ์ใดๆ ก็น่าจะกระโดด และข้ามผ่านมันได้คะ . “ส่วนตอนนี้เหมือนได้ข้ามมาอีกฝั่งแล้วคะ รู้สึกได้ปลดปล่อยแต่อีกฝั่งก็มีหลายเรื่องให้ต้องปรับต้องเรียนรู้ซึ่งก็อยู่ในกำลังความสามารถที่เราเอาอยู่คะ ตอนนี้ต้องบอกกับตัวเองว่าหัดทำอะไรที่ไม่มีแผนบ้างชีวิตน่าจะสงบและมีความสุขขึ้นเยอะคะ จริงข้อคิดที่ได้มันก็คือหัวข้อในแบบฝึกหัดที่ทางอาจารย์ให้ทำมันตอบโจทย์และเปิดโลกทัศน์ในการคิดได้ดีคะว่ามันมีวิธีนี้อยู่ด้วยนะ ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกล้วอะไรละ มีเหตุการณ์ใดไม่พึ่งประสงค์ก็กระโดดออกมา ต้องเชื่อมั่น และเราจะได้ความสงบ กราบขอบพระคุณอาจารย์มากๆคะ” . จิรภัทร (อี๊ด) อาชีพ พนักงานบริษัท . . “๑. ฉันประทับใจความใส่ใจและคำแนะนำของครูผู้สอนค่ะ ครูตอบemailสม่ำเสมอและให้คำแนะนำที่น่าสนใจตลอด และมีคำถามกลับมาให้เราค้นหาตัวเองต่อได้อีก ๒. หัวข้อกิจกรรมบันทึกต่างๆ ที่เป็นแบบฝึกหัดให้เราคิดและเขียนบันทึก… Continue reading รวมบทเรียน “เขียนข้ามขอบ” เขียนเปลี่ยนชีวิต รุ่นที่ 37
โฮโอโปโนโปโน
“สี่คำนี้ทรงพลังในการรักษา I love you ฉันรักคุณ I am sorry ฉันขอโทษ Please forgive me โปรดให้อภัยฉัน Thank you ขอบคุณ “โรเบิร์ต ดิว คิดค้น จากการสังเกตการทำงานนายแพทย์สแตนลี่ ฮิว ในหนังสือของ โจว วิทาลี ในโรงพยาบาล จากหนังสือ “zero limit” Forgiveness love your problem . “เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้ว ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำรัฐฮาวาย ซึ่งในโรงพยาบาลแห่งนี้มีแผนกจิตเวชที่รักษานักโทษโรคจิตขั้นร้ายแรงอยู่ คนไข้ที่มารักษาที่นี่มีประวัติที่สุดแสนอุกฉกรรจ์ มีทั้ง ฆาตรกรโรคจิต ฆาตรกรฆ่าข่มขืน ลักพาตัวฯลฯ ซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่จะเป็นนักโทษซึ่งถูกส่งตัวมารักษา บ้างก็ก่อนได้รับการพิจารณาโทษหรือในบางรายก็ถูกส่งตัวมาดูอาการว่าสามารถส่งพิจารณาความผิดได้หรือไม่ . “เป็นที่เล่าขานกันว่าสภาพแวดล้อมโดยทั่วไปในแผนกนั้นทรุดโทรมย่ำแย่เหลือทน ผนังเก่าๆ สภาพห้องที่เหม็นอับ จนแพทย์พยาบาลทั้งหลายต่างไม่อยากที่จะแวะเวียนไปย่ำกรายที่แผนกนี้ พนักงานประจำต่างพากันลาป่วยเป็นว่าเล่น ประกอบกับความหวาดกลัวการถูกทำร้ายจากบรรดานักโทษทั้งหลายที่ได้ชื่อว่ามักจะทำร้ายนักโทษด้วยกันหรือแม้แต่ผู้คุมไม่เว้นแต่ละวัน… Continue reading โฮโอโปโนโปโน
จดหมายจากการพลัดพราก
จดหมายจากการพลัดพราก 4 ข้อคิดความสูญเสียในพระไตรปิฎก จิตของเราโดยธรรมชาติมีกลไกปกป้องตัวเองจากความทุกข์ต่างๆ เป็นการหนีบ้าง สู้บ้าง สยบยอมบ้าง ไม่ก็ชะงักงันไป เรียกว่าเป็นหลัก 4F (Fight Flight Freeze Fawn) หลักธรรมในพุทธศาสนาและคำสอนจากศาสนาและจิตวิทยาอันชอบด้วยธรรมอันดีแล้ว ย่อมช่วยขัดเกลาและโน้มน้าวพาใจกล้าหาญเผชิญกับทุกข์ อันเป็นความจริงของชีวิตที่หลีกหนีไม่ได้ ยิ่งหนียิ่งสู้ก็ยิ่งเป็นทุกข์ผูกรัดเป็นปมแก่ใจ . ปมในใจต่างๆ ของเรานั้นล้วนไม่ได้เกิดจากทุกขอริยสัจ หรือความจริงแห่งทุกข์แต่เกิดจากกลไกปกป้องตัวเองของเรานี่เอง ทำให้ทุกข์ตามธรรมชาติเป็นทุกข์ซ้ำซับซ้อน . “ทุกขอริยสัจ คือ ความเกิดก็เป็นทุกข์ ความแก่ก็เป็นทุกข์ ความเจ็บไข้ก็เป็นทุกข์ ความตายก็เป็นทุกข์ ความประจวบด้วยสิ่งที่ไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รักก็เป็นทุกข์ ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นก็เป็นทุกข์” * เป็นความเป็นไปที่เราต่างก็ต้องพบเจอ ไม่อยู่ในฐานะที่จะเปลี่ยนแปลงหรือหลบเลี่ยงได้ เมื่อใดจิตอยู่ในกลไกปกป้องตนเองสี่แบบอย่างขาดสติ จิตก็ยิ่งดิ้นรนจนทุกข์ทวี . จากกลไกปกป้องตนเองสี่แบบ บทความนี้ขอเชิญชวนเราใคร่ครวญในธรรมะสี่ข้อ ซึ่งเป็นข้อคิดจากพระไตรปิฎก ซึ่งเปรียบได้กับจดหมายจากการพลัดพรากส่งมาถึงเราเพื่อบอกกล่าวสิ่งเตือนใจและความเป็นจริงของชีวิตให้รับรู้ . . ๑ ที่สุดของการยึดถือคือการพลัดพราก : . “สิ่งใดที่เกิดแล้ว มีแล้ว อันปัจจัยปรุงแต่งแล้ว… Continue reading จดหมายจากการพลัดพราก
ความกังวลไม่ใช่หัวใจของเรา
เธอกังวลใจไปก็เท่านั้น ความคิดมักปรุงให้เกินจริงเสมอ นั่งตรงนี้ให้ใจสงบ เมื่อน้ำนิ่งตกตะกอน เธอจะเห็นน้ำนั้นอย่างชัดเจน . อย่าถือความกังวลเป็นหน้าที่ของเธอ อย่าปล่อยให้ความคิดบดบังหัวใจ อย่าให้ความกลัวทำร้ายเธอกว่านี้ หน้าที่ของเธอคือปัจจุบัน . เมื่อฉันหลงไปในห้วงจิตตีความ คุณค่าและปัญญาที่มีก็หล่นหาย เมื่อทึกทักสิ่งต่างๆ เป็นของฉัน ใจยิ่งกลุ้มรุมร้อนกระวนกระวาย . ความกังวลไม่ใช่หัวใจของเรา เพียงการคิดวนไปในความว่าง อนาคตยังไม่มี กังวลใจเกิดขึ้นได้อย่างไร เพียงกลัดกลุ้มเพราะเกาะกุม สิ่งที่ไม่มี . นั่งดูอยู่ตรงนี้ก่อน ความคิดที่เกินเลยเหล่านั้นมาจากไหน เราเหมือนผู้วิตกกับฝุ่น ในขณะพื้นผิวนั้นยังเงางาม . ความกังวลใจไม่ใช่ตัวตน สิ่งที่กังวลไม่ใช่ของใจ ความกังวลจะเกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อเราก็เป็นอนัตตา . นั่งดูตรงนี้ก่อน ไม่มีของวางอยู่ฝุ่นจะจับอะไร หากมีของอยู่ แค่ยกตัวเธอออกไป ความกังวลจะเกิดขึ้นได้อย่างไร . . มองให้ดี ให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้น… นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นตัวเรา นั่นไม่ใช่ตัวตน . . อนุรักษ์ ครูโอเล่ คอลัมน์ “บทภาวนา อนัตตา”… Continue reading ความกังวลไม่ใช่หัวใจของเรา
ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นห้า (๓)
สรุปการอบรม 1) ได้รู้จักตนเองผ่านไพ่ทุกใบที่ผ่านเข้ามาให้เรียนรู้และเข้าใจตนเอง ว่าเรามีการกระทำเช่นนี้ มีความรู้สึก ความคิดและการแสดงออกทุกอย่างล้วนมาจากสิ่งที่เราเก็บสะสมมันไว้ในเบื้องลึก Corse นี้เป็นการกระเทาะเจาะลึกไปจนถึงปม จนเข้าใจตนเอง มีความผ่อนคลาย เข้าใจตนเอง เข้าใจคนรอบข้าง ทำให้มีความเมตตาต่อตนเองและให้อภัยกับการกระทำของตนเองและคนอื่น ๆ ที่กระทำต่อเราได้โดยแท้จริง และรู้สึกขอบคุณทุกเหตุการณ์และทุกคนที่มีส่วนผลักดันให้เรามาเจอ Course ที่สามารถปลดปล่อยเราออกจากพันธนาการ ก่อนมาอบรมรู้สึกโกรธให้คนที่มีความขัดแย้ง หลังอบรมรู้สึกเมตตาและขอบคุณเค้าจากใจจริง (โดนไพ่เตือนค่อนข้างบ่อย …..จับได้ไพ่ซ้ำ ๆ แนวเดิมตลอดการอบรม) 2) มีความประทับใจในกิจกรรมทุกกระบวนการ เพราะทุกกระบวนการทำให้เกิดการเรียนรู้ทั้งหมด ที่ชอบมากและทำให้จดจำได้ง่าย คือการแสดงท่าทางประกอบของครูมุก ทำให้จำได้ง่าย ว่าตัวเลขต่าง ๆ มีความหมายว่าอย่างไร ขอบคุณสถาบันธรรมวรรณศิลป์ที่มีโครงการดี ๆ เผื่อแผ่และแบ่งปันให้กับผู้คน ขอบคุณครูโอเลย์ ครูมุก ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่ Share ประสบการณ์ชีวิตเพื่อเป็นบทเรียนให้กันและกัน ขอให้ทุกคนมีความสุขและโชคดีตลอดไป คุณสถิต (รับราชการ) หลังจากที่มาเข้า class นี้แล้ว กลับพบว่า ได้ความรู้มากมาย… Continue reading ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นห้า (๓)
ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นห้า (๒)
“ขอบคุณสำหรับคอร์สที่แสนดีนี้คะ ความจริงก็รู้จักตัวเองอยู่แล้วนะคะ แต่เป็นแค่ทางทฤษฎีเท่านั้น หาทางทะลุลึกเข้าไปไม่ได้ ได้แต่หลอกตัวเองว่าไม่เป็นไร ไม่มีผลกระทบกับชัวิตเรา. แต่เมื่อได้มาพบกับตอร์สนี้ เหมือนเป็นการเปิดประตูเข้าไปด้านในจิตใจเรา ได้มองเห็นด้านมืดของเรา เห็นคุณค่าของเรา และที่สำคัญคือ เห็นสิ่งที่เราแอบเก็บเอาไว้ และคิดว่า จะเป็นความลับตลอดไป แต่จริงๆไม่ใช่ มันคือสิ่งที่ส่งผลต่อพฤติกรรมเรา . “ขอบคุณครูมุกและครูโอเล่คะ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคน ที่เปิดโอกาสให้เราได้รู้จักทั้งตัวเอง และรู้จักเพื่อน ได้รู้ว่าจริงๆแล้วเราก็มีเพื่อนได้นะ ถ้าเรายอมเปิดตัวเอง” . สายทิพย์ (แม่บ้าน) . . “สรุปการอบรม อ่านไพ่ทาโร่ รุ่นที่5 ขอเริ่มต้นจาก เราได้รู้จักตัวตน ของเราลึกๆที่ซ่อนอยู่ แต่แสดงออกมาอีกแบบจากการเปิดไพ่ ปมที่อยู่ภายใต้ภูเขาน้ำแข็ง ว่าจริงๆแร้วอะ มันเกิดมาจากสาเหตุอะไร ทำให้รู้เหตุผลและทางแก้ ปลดล็อคหลายสิ่งหลายอย่างในนิสัยด้านที่กระทบกับการใช้ชีวิตของเรา ซึ่งบางครั้ง แค่เราเปลี่ยนความคิด เพิ่มทางเลือก ก็เปลียนชีวิตเราได้แล้ว . “ความประทับใจในคลาส เยอะมาก โดยเฉพาะอาหารมังสวิรัติ อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา ขนมมากมาย และกิจกรรม มีการสอนให้เราได้รู้จักการทำสมาธิ คุยกับหัวใจตัวเอง… Continue reading ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นห้า (๒)
๕ วิธีเพิ่มความตระหนักรู้ในตนเองให้แก่เด็ก
๕ วิธีเพิ่มความตระหนักรู้ในตนเองให้แก่เด็ก ความตระหนักรู้ในตนเอง (Self-Awareness) คือ การรู้เท่าทันตนและรับรู้กายใจตนเองอย่างมีสติ เป็นฐานสำคัญของการรู้จักตัวเอง (Self-Understanding) แล้วมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในช่วยพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ การมีความสุขและความพึงพอใจในตนเอง ส่งเสริมการแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสม พัฒนาการเข้าสังคม และการรู้จักควบคุมพฤติกรรมของตนเอง . สิ่งนี้เป็นเสมือนรากฐานที่จะช่วยให้เด็กๆ เติบโตอย่างมีความมั่นคงทางจิตใจ ใช้ชีวิตอย่างเห็นคุณค่าของตนและของสิ่งรอบข้าง ไม่ทำสิ่งที่บั่นทอนแก่ตนเองและผู้อื่น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ครูและผู้ปกครองจะต้องส่งเสริมให้เด็กๆ ได้มีความตระหนักรู้ในตนตั้งแต่ช่วงเยาว์วัย เพื่อให้เขารักตัวเองอย่างเหมาะสมต่อไป ซึ่งจะมีผลทำให้รักผู้คนและสิ่งต่างๆ รอบตัวอย่างเคารพในคุณค่าอีกด้วย . บทความนี้จึงจะบอกเล่าวิธีการบางส่วนเพิ่มเติมความตระหนักรู้ในตนให้แก่เด็กๆ ในฐานะที่เราเป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครองของพวกเขาก็ดี หรือเป็นคุณครูก็ดี หรือเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งก็ตาม . ๑ เป็นกระจกให้แก่พวกเขา : . ทักษะการให้ Feedback หรือการสะท้อนและให้คำแนะนำ เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้ปกครองและครู ซึ่งเป็นเสมือนตัวช่วยให้พวกเขาสังเกตตนเองอย่างชัดเจนคล้ายเป็นการสร้างกระจกให้แก่เด็กๆ ได้ทบทวนย้อนดูตนเองและสิ่งที่พวกเขาทำ ผ่านคำพูดจากตัวเราสะท้อนตัวเขาและเสนอแนะเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาเป็นและทำ . การสะท้อนเด็กๆ ที่ดีนั้นมีองค์ประกอบสำคัญอยู่ ๓ ประการด้วยกัน ได้แก่ เฉพาะเจาะจงและแสดงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น , ชมเชยคุณสมบัติแต่ไม่มากเกินไป และ แยกแยะความรู้สึกออกจากพฤติกรรมและความคิด .… Continue reading ๕ วิธีเพิ่มความตระหนักรู้ในตนเองให้แก่เด็ก
ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นห้า (๑)
บทเรียนและความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นห้า เราได้รู้จักตัวเองผ่านไพ่เพื่อตอบโจทย์คำถามของครู(ที่ถามแทนเรา)ในหลากหลายคำถาม ซึ่งบางคำถามเราเคยถามตัวเองมาก่อนบ้างแล้วแต่เราก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะหาคำตอบอย่างจริงจัง บางคำถามเราไม่เคยกล้าที่จะถามตัวเองเพราะกลัวคำตอบ บางคำถามก็ช่วยให้เราได้ฉุกคิดและอยากรู้คำตอบ ทุกโจทย์คำถามและทุกการอ่านไพ่ เป็นช่วงเวลาที่เราได้กลับมาอยู่กับตัวเอง ซึ่งคำตอบที่ได้ก็มีทั้งคำตอบที่มาจากจิตสำนึกผ่านการทบทวน การใคร่ครวญ การเชื่อมโยง จากประสบการณ์ในอดีตและคำตอบที่มาจากจิตใต้สำนึกผ่านประสาทสัมผัส และการปิ๊งแว้บ ณ ขณะนั้น หลายครั้งคำตอบที่เราได้รับก็ทำให้เรารู้สึกประหลาดใจที่เราไม่เคยรู้จักตัวเองหรือไม่เคยเห็นตัวเองในมุมนี้มาก่อนเลยทั้งด้านสว่างและด้านมืด การได้มองเห็นตัวเองชัดขึ้นในหลายๆ ด้าน ทำให้เราได้เข้าใจตัวเองมากยิ่งขึ้น ได้ตระหนักว่าชีวิตที่ผ่านมาเราถูกขับเคลื่อนด้วยปมบางอย่าง และบางสิ่งที่เรายึดติด ก็คือสาเหตุที่ทำให้เราตกร่องเดิมๆ วนอยู่ในสถานการณ์เดิมๆ ทำให้ไม่มองทางออกหรือทางแก้ไขอื่นๆ แต่เมื่อรู้แล้วเห็นแล้วตระหนักแล้วด้วยสติก็จะช่วยให้เรามองเห็นเหตุของปัญหาและสามารถหาวิธีจัดการแก้ไขปัญหาในชีวิตเ้วยปัญญาและปราศจากอคติ รู้สึกประทับใจในกระบวนการอบรมที่ลื่นไหล ค่อยๆ สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้เรียนไปตามลำดับและทุกๆ กิจกรรมที่ทำร่วมกัน มีการออกแบบที่ช่วยให้มีการเรียนรู้ผ่านการแบ่งปันและการมีส่วนร่วมได้เป็นอย่างดี กิจกรรมเอื้อให้ผู้เข้าร่วมการอบรมมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีความสุข สนิทสนมเป็นกันเองในระยะเวลาอันรวดเร็ว สนุก มีความสุข เอื้อเฟื้อ และมีความรู้สึกที่ดีต่อกันและต่อตนเอง ทุกกิจกรรมไม่ว่าไพ่คำตอบจะออกมาในโทนบวกหรือลบก็ตาม เราก็ยังคงได้ความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและมีความหวังเสมอ เป็นการเรียนรู้ชีวิตผ่านการเชื่อมโยงจากไพ่ทั้งของตนเองและของผู้เข้าร่วมอบรมในทุกๆ กิจกรรม เมื่อเรารู้จักและเข้าใจตนเองได้ดีแล้ว เราย่อมพร้อมที่จะเปิดใจเพื่อทำความเข้าใจผู้อื่นด้วย นี้คือความงดงามของการดำรงอยู่ร่วมกันในความเป็นเพื่อนมนุษย์ การอบรมครั้งนี้ของเรา แม้จะเป็นครั้งแรกที่เราได้หยิบจับไพ่ทาโรห์ แต่ก็ทำให้เราได้รู้จักและสนิทสนมกับไพ่ไปพร้อมๆ กับรู้จักตัวเราเองเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะกิจกรรมในห้องเรียนและการทำการบ้านส่งครูในทุกๆวัน นอกจากองค์ความรู้ ความตั้งใจ ความเอาใจใส่และความเมตตาของครูทั้งสองท่านแล้ว… Continue reading ความประทับใจ “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์” รุ่นห้า (๑)