
เมื่อสอนเพลินจนลืมถ่ายภาพหมู่ จึงต้องแคปภาพหน้าจอตอนยิ้มร่ำลาผู้เรียนแทน 🥸 /ครูโอเล่
จบลงหัวข้อที่ 3 ของการอบรม “ห้องเรียน วิถีครู” รุ่นที่ 7 ออนไลน์ในเนื้อหา “มั่นคงจากข้างใน” เมื่อบ่ายวันที่ 13 – 14 ธันวาคม 2568 ขอบคุณผู้เรียนทั้ง 23 คนที่ได้ร่วมกิจกรรมและแลกเปลี่ยนกันในครั้งนี้
เสียงตอบรับจากผู้เรียน 🌻🎁
“ประทับใจกระบวนการนำพา ค่อยเป็นค่อยไป ให้ใจได้ค่อย ๆ เข้าไปมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่รีบร้อน ใคร่ครวญ และยอมรับอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงหลักการทางวิทยาศาสตร์(วัยเด็ก) และพฤติกรรมที่สอดคล้องกับความมั่นคง..ช่วยให้นิยามที่ยึดมั่นถึงความ “มั่นคง” ผ่อนคลายลง และรู้สึกว่าทุกคนอยู่บนเส้นทางนั้นแล้ว ชอบการเขียน 3 แบบ ตอนจบมากค่ะ.. กาย ใจ สมอง..สื่อสารกัน ไปทางเดียวกัน ด้วยสถานการณ์ที่ไม่มั่นคง.. ทว่า ระหว่างเขียนกลับรู้สึกถึงความมั่นคง แบบที่ไม่เคยได้พบในชีวิตประจำวัน..ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ”
ข้อคิดที่ได้ และนำไปฝึกฝน
“ผ่อนหนักเบา ยอมรับ และวางใจ…แม้จะมั่นใจเพียงใด หากไร้ซึ่งความวางใจ มันก็คือความไม่มั่นคง.. การฝึกฝนพาตัวเองไปในพื้นที่ไม่แน่นอน เช่น หลับตาเขียน, จับปลายปากกาเขียน ให้ใจเปิดกว้าง และยอมรับความท้าทาย คิดจะทำ..ลงมือทำ..ทำสำเร็จ ==> ระดับความมั่นคงเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด..กระบวนการสำคัญสุด คือ ลงมือทำ เคลื่อนไหวอย่างรู้ตัว”
🦋
ความรู้สึกและความประทับใจในการร่วมกิจกรรมนี้
รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเองในเรื่องของความคิด เกี่ยวกับความมั่นคง เมื่อก่อนคิดว่าความมั่นคง คือการที่เรามีทุกอย่างเพียบพร้อม จนวันนึงมีทุกอย่างแล้วแต่ก็ยังรู้สึกไม่มั่นคง ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงภายในแล้วพบว่าความมั่นคง ในความเข้าใจใหม่ มันไม่ได้คือการโหยหา การเติมเต็มใดใด แต่คือการที่เรายอมรับ วางใจ ในเรื่องราว ในทุกอย่างที่เกิดขึ้น มีสติอยู่กับตัวเอง และใจดีกับตัวเองบ้าง
ตอนนี้เบาใจ สบายใจค่ะ
ข้อคิด สิ่งที่ได้ฝึกฝนและสิ่งที่ได้รับจากการเรียน
ทุกอย่างทุกเรื่องราวที่เราทุกข์มาในตอนเด็ก เราพยายามลืม พยายามไม่สนใจ พยายามให้อภัย กลับเป็นเรื่องที่ประกอบร่างใหม่ สร้างบาดแผลให้เราเหมือนเดิมซ้ำๆ เข้าใจแล้วว่าเราต้องยอมรับ ปล่อยวางในเรื่องราวที่เกิดขึ้นแม้ผลลัพธ์จะไม่ได้ดังใจเรา ทำให้เรารู้สึกถึงความมั่นคงจริงๆที่ไม่ต้องมีอะไรมาเติมเต็มหรือไม่ต้องรอใครมาบอกมาว่าใช่ รู้สึกขอบคุณทุกประสบการณ์ที่พบเจอทำให้เราอยากพัฒนาหรือทำให้ดีขึ้น หาหนทางออกทำให้เจอคอร์สนี้ ได้เจอตัวเอง ได้เยียวยาเรื่องความมั่นคง และเข้าใจคำว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาผ่านประสบการณ์จริงๆค่ะ ขอบคุณนะคะ
🦋
1.ความรู้สึกและความประทับใจในการเข้าร่วมกิจกรรม
ได้ให้เวลาในการทบทวนตัวเอง ได้แลกเปลี่ยนกับคนอื่น และได้ฟังเรื่องของคนอื่นๆ ที่มีประสบการณ์ชีวิตและมุมมองแตกต่างกัน ได้ข้อมูลความรู้ที่ทำให้ได้รับมุมมองที่เป็นประโยชน์ ได้กลับมาคิดใคร่ครวญภายใน ให้ตัวเองได้มีเวลาผ่อนพักทำกิจกรรมแปลกใหม่ที่ไม่เคยทำ เหมือนได้พักใจ ได้ปล่อยวางจากความคิดกังวล ความคิดในหัวที่แน่นๆ ดูจะผ่อนนคลายลงไป รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย มีความสบายใจ และขอบคุณ
ประทับใจครูที่สกัดความรู้ ถ้อยคำที่สำคัญมีคุณค่า และเตรียมกระบวนการที่ดีอย่างลื่นไหลเพื่อให้เราได้กลับมาพิจารณาเกิดการตระหนักรู้ในตนเองมากขึ้น และพยายามดึงตัวเองกลับมาสู่ภาวะที่สมดุลทางใจมากขึ้น
2. ข้อคิด สิ่งที่ได้ฝึกฝน สิ่งที่ได้รับจากการเรียน
เห็นรูปแบบการคิด สิ่งที่เราให้คุณค่า ให้ความสำคัญ สิ่งที่ได้รับการหล่อหลอมมาจากครอบครัว ได้ตระหนักถึงตนเองว่าได้รับการหล่อหลอมอย่างไรจึงเป็นตัวเราตอนนี้
ได้สะท้อนคิดทบทวนสิ่งที่เราให้ยึดถือและให้คุณค่าว่าอาจมีส่วนสร้างผลกระทบต่อเราอย่างไร และได้พิจารณาถึงการปรับเปลี่ยนมุมมองหรือวิถีการปฏิบัติให้มีความสมดุลมากขึ้น
ได้เยียวยาภายในและสร้างเสริมพลังความมั่นคงจากภายใน รวมทั้งได้ตระหนักถึงประโยชน์ของการสื่อสารกับตัวเองผ่านการเขียนบันทึกที่เคยละเลยไปนาน
🦋
1. รู้สึกดีและไม่เสียดายเลยจริงๆที่ได้เข้าร่วมในหัวข้อนี้ ได้เห็นความกลัวของตัวเองที่ซ่อนไว้ใต้ความมั่นคง และเราก็ปฏิเสธมันมาก่อน
2. ได้เรียนรู้การปล่อยวางแบบเข้าใจ ยอมรับไม่ใช่การปฏิเสธหรือโกหกความรู้สึกตัวเอง
ประทับใจการฝึกฝนเขียนแบบจับปากกาที่ต่างออกไป และความรู้สึกเป็นเช่นครูอธิบายค่ะ ไม่คิดว่าแค่การเขียนก็สามารถจะนำไปสู่สิ่งอื่นได้มากกว่าแค่เขียนความรู้สึกแบบ self reflection
🦋
ส่งการบ้านค่ะครู ๑. ความรู้สึกและความประทับใจในการเข้าร่วมกิจกรรม ความประทับใจครั้งนี้คือ การได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในวัยเด็กที่ยังคงมีอิทธิพลกับเราอยู่ ยังน้ำตาไหลกับคำถามที่จี้โดนใจ ถ้าฉันมีชีวิตที่ไม่มั่นคง ฉันกลัวอะไร? ความกลัวนั้นยังคงอยู่ในใจของเรามาเสมอ เพียงแต่เราโตขึ้นจึงสามารถเก็บซ่อนจากสายตาตัวเองได้ดี แต่คำถามที่ดีก็เรียกออกมาเพื่อให้เราเผชิญกับเขาอีกครั้ง และครูก็บอกว่าเราไม่จำเป็นต้องสู้หรือหนีอีกต่อไป
๒. ข้อคิดและสิ่งที่ฝึกฝนในครั้งนี้ คือ การฝึกที่จะไม่สู้หรือหนี ให้ผ่อนหนักผ่อนเบา ซึ่งสำหรับเราหมายถึงการโยนตัวไปตามกระแสทั้งขึ้น ลง หรือราบเรียบ ยอมรับต่อธรรมชาติที่เราควบคุมไม่ได้ และวางใจในคุณค่าที่เรามีอยู่แล้วและใช้ในการพัฒนาตัวเองให้มั่นคง ลดมานะทั้ง๓ กลับมาเป็นที่พึ่งพาแก่ตัวเอง เคารพตนเองและความจริงของชีวิต ซึ่งแสดงอยู่ในตัวเราอยู่แล้วตลอดมา
🦋
ความรู้สึกและความประทับใจในการเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ?
-ดีใจ และผ่อนคลาย ได้รับการดูแลจิตใจเมื่อเข้ามาเรียนในคลาสนี้ ทดแทนการไปหาหมอ จิตแพทย์ทั้งแนวจ่ายยาและคุยเพื่อรักษา ลดความกลัวเรื่องความไม่มั่นคงลงได้บ้าง พอเรียนเสร็จก็รู้สึกฟื้นคืนสภาพ ลงมือทำสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่กล้าทำได้โดยปล่อยวางผลลัพธ์ ปกติกังวลใจเรื่องการวางแผน วางแผนไม่ค่อยเป็น และต้องทำใหม่จนท้อ ที่ก็ทำเหมือนเดิม วางแผนเท่าที่วางได้ ที่เหลือก็ปล่อยไปเจอเอาและปล่อยวาง
– ข้อคิด สิ่งที่ได้ฝึกฝน และสิ่งที่ได้รับจากการเรียน ?
-ได้ทบทวนความรูุ้สึกความมั่นคงภายในจิตใจ ได้ฝึกรับรู้สภาวะความไม่มั่นคงผ่านการเขียน หลาย ๆแบบ ทำให้ได้รู้ว่าความไม่มั่นคงและความมั่นคงไม่มีอยู่จริง ไม่ยั่งยืน และเป็นทุกข์ ที่เหลือก็เป็นคือการฝึกดูแล รักษาความรู้สึกความไม่มั่นคงนี้อย่างไรให้สามารถทำงานได้ โดยไม่สู้ หนี และติด สภาวะนี้ไม่มีชื่อเรียกแฮะ ใช้คำว่า ความสมดุลแทนที่ไปก่อน คาดหวังนำสิ่งนี้ไปใช้ต่อในทุก ๆ วัน
🦋
รู้สึกกังวลใจนิดหน่อยที่ได้เห็นถึงความไม่มั่นคงที่ปรากฏทุกช่วงวัย และยังไม่ค่อยได้ดูแล จึงมีความปรารถนาให้มีโอกาสลงลึกเยียวยาในแต่ละประเด็นที่ลิสต์ออกมาค่ะ
ประทับใจวิธีการสอนให้ฝึกความมั่นคง ผ่าน 3 ข้อ*
คือ การยอมรับ ไว้วางใจ ผ่อนหนัก-เบา
ซึ่งมีวิธีการเขียนที่สอดคล้องและต่างกันไปค่ะ
ได้ฝึกไว้วางใจในการลงมือทำแม้ลังเลสงสัยในตอนแรกสามารถส่งช่วยให้ได้คำตอบที่ตรงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้ค่ะ
ได้เข้าใจว่าความมั่นคงเกี่ยวโยงกับอะไรบ้างที่มีผล และรู้สึกว่าต้องการฝึกต่อเนื่อง เตือนตัวเองด้วย keywords 3 ข้อ*ที่กล่าวไปข้างต้นค่ะ
🦋
1)ความรู้สึก ความประทับใจ
รู้สึกแปลกใหม่ ประทับใจวิธีการเขียนที่ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ การยึดมั่น และการปล่อยวางได้ดีมากค่ะ
2)สิ่งที่ได้เรียนรู้
เรียนรู้ที่จะยอมรับ ที่ผ่านมาก็คิดว่ารู้ แล้ว แต่พอลงมือทำแบบฝึกหัดต่างๆ จึงรู้ว่า สิ่งที่รู้ ก็แค่รู้ เรายังไม่เข้าใจสิ่งนั้นจริงๆ
ได้เรียนรู้ที่จะผ่อนหนัก ผ่อนเบา
และได้คาถาประจำตัว 1 ข้อคือ
ตั้งใจทำให้เต็มที่ แล้ววางใจจักรวาล: หากเราทำเต็มที่แล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมายังไง เราก็เต็มที่แล้ว ทำมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ไม่มีอะไรต้องเสียใจ
สุข ก็ไม่นาน ทุกข์ ก็ไม่นาน ความมั่นคงไม่มีอยู่จริง มีแต่การทำใจที่จะยอมรับว่า ทุกสิ่ง.. ไม่มีอะไรมั่นคง
🦋
ความรู้สึกและความประทับใจในการเข้าร่วมกิจกรรม : ชอบรูปแบบการสอน ทำให้เราย้อนกลับมามองตัวเอง การตอบคำถามของแต่ละคำถามทำให้เราได้ทบทวนตัวเอง การได้แชร์กับเพื่อนๆ ทำให้ได้มุมมองใหม่ๆ
ข้อคิด สิ่งที่ได้ฝึกฝน และสิ่งที่ได้รับจากการเรียน : ทำให้เราได้ใครครวญการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้น เหมือนการเขียนหนังสือด้วยมือที่ไม่ถนัด และการเขียนโดยไม่มองกระดาษ หรือการเขียนโดยไม่ใช้สมองคิดแต่เขียนออกมาจากใจ ทำให้เราได้ทบทวนความรู้สึกของตัวเอง
ขอบคุณครูมากคะ ที่ได้ให้มุมมองแบบใหม่ๆ
🦋
ความรู้สึก ประทับใจ ได้มาตอกย้ำ ตัวเอง ว่ามาถูกทาง แล้ว ถึงแม้มายังต้องทำงานต่อ เรื่อง ความมั่นคง แต่ก็พัฒนาขึ้น
แน่ใจหรือ ว่าเงิน ทรัพย์สิน คือความมั่นคงที่แท้จริง คุยและอยู่ กับตัวเองเยอะ ๆ
🦋
-ความรู้สึก ประทับใจความรวมมือร่วมใจกันของผู้เข้าร่วมทุกคนค่ะ
-สิ่งที่ได้ ความมั่นคง คือ ความไม่มั่นคง ยึดมั่นถือมั่นคงไม่ได้ ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบและมั่นคงอยู่ตลอดไป ปล่อยวาง ปล่อยใจ ยอมรับความจริง เมื่อสิ่งที่ต้องการมั่นคงก็ดี เมื่อไม่มั่นคงก็ยอมรับให้ได้
🦋
1. รู้สึกดีใจที่ตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมนี้ และประทับใจหัวข้อในการเขียนและเทคนิคการเขียนเพื่อสะท้อนตัวเองที่ครูมอบประสบการณ์ผ่านการทำกิจกรรมนี้และการนำสมาธิเพื่อสร้างความมั่นคงภายใน
2. ข้อคิดที่ได้รับจากการฝึกฝนคือความมั่นคงจะเกิดขึ้นได้จากการไม่ยึดติดกับความมั่นคงที่เราให้คุณค่าไว้ในอดีต
เราต้องเรียนรู้ที่จะสร้างความมั่นคงภายในที่แท้จริง ซึ่งแนวคิดที่ได้รับทำให้เห็นว่าฐานกายนั้นมีส่วนช่วยในการสร้างความมั่นคงในระดับจิตใจ โดยควรฝึกสมาธิและสติเพื่อส่งเสริมให้มีจิตที่ตั้งมั่น ซึ่งก็จะลดความหวั่นไหวจากสิ่งที่มากระทบรอบข้าง นอกจากนี้ยังได้แนวคิดในการจัดการกับความรู้สึกไม่มั่นคง ซึ่งสามารถใช้เทคนิคการเขียนเพื่อดึงสติกลับมายังฐานกายหรือการหายใจและใช้คำปลอบโยนในการบอกกับตัวเอง เช่น ธรรมชาติหนอ ก็เป็นเช่นนั้น เพื่อลดทอดความรู้สึกไม่มั่นคงลง และสร้างการยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น และลดการควบคุม ความคาดหวัง หรือสิ่งที่เราปรุงแต่งแล้วไปยึดติดไว้
🦋
ในการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ รู้สึกได้คิดด ทบทวนเกี่ยวกับความมั่นคงในชีวิตจากอดีตและ ประสบการณ์ที่ผ่านมา ซึ่งไม่เคยได้คิดทบทวนมาก่อน
ความประทับใจคือ ครูเปิดโอกาสให้ตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระโดยไม่ตัดสินถูกผิด
สิ่งที่ได้ฝึกฝนจากการเรียนคือ ได้นั่งสมาธิในอีกรูปแบบหนึ่ง ทำให้ใจนิ่ง สงบ ,ได้ฝึกคิด ทบทวน สิ่งต่างๆที่ผ่านมา ความคิด ความเชื่อ ของตัวเองและตั้งคำถามเกี่ยวกับความมั่นคงในชีวิต
สิ่งที่ได้รับจากการเรียนคือ การยอมรับ และปล่อยวางในใจว่า ไม่มีสิ่งใดแน่นอน เราไม่สามารถควบคุมและยึดติดอยู่กับความคิดความเชื่อเดิมๆได้. ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยแม้กระทั่งตัวเราเอง ต้องรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบาให้เป็น ยอมรับและปล่อยวาง. จะทำให้เกิดความมั่นคงในชีวิตได้
🦋
-ความรู้สึก ความประทับใจในการร่วมกิจกรรมครั้งนี้
ทุกครั้งที่เข้าร่วมกิจกรรม จะต้องเตรียมตัวเตรียมใจเดินทางสู่ภายในตัวเอง เพราะเราจะได้พิจารณาตัวเองแบบมีผู้ชี้แนะ ทำให้เรากระจ่างชัดข้อติดขัด เพื่อพบหนทางปรับปรุงแก้ไข ยกระดับจิตใจที่ขุ่นมัวให้กระจ่างแจ้ง ชอบมากกับการแชร์กับเพื่อนในกลุ่มย่อย เป็นการเรียนรู้ร่วมกันแบบไม่ต้องกลัวเสียหน้า เราสื่อสารกันได้อย่างสบายใจ เพราะทุกคนมักจะมีเรื่องราวทุกข์ใจต่าง ๆ มาเล่าสู่กันฟังอย่างเคารพกัน ไม่มากก็น้อย เผื่อความกังวลใจจะลดจากการได้พูดคุยและปลอบโยน บางทีหัวข้อที่เป็นโจทย์ในการพูดคุย ก็จุดประกายความคิดกับผู้ฟังท่านอื่นให้ได้รับประโยชน์ด้วย
-ข้อคิด สิ่งที่ได้ฝึกฝน และสิ่งที่ได้รับจากการเรียน
ฝึกการเขียนเพื่ิอเผยดูตนเอง ด้วยการลงมือทำนำหน้า อารมณ์ตามมา ปัญญาเกิดขึ้นเอง เขียนด้วยการจดจ่อ(เขียนให้ตรงบรรทัดแต่ไม่มองหน้ากระดาษ หัวข้อ ฉันยอมรับ แต่เกิดความอึดอัดเหมือนไม่ยอมรับ) และการเขียนที่ปล่อยให้ใจเป็นอิสระเบา ๆ โดยการจับปลายปากกา แล้วเรียนรู้ความรู้สึกนั้น ๆ
(เขียนด้วยการจับปลายปากกา
มือขวา-เขียนถนัดกว่า จิตใจลิงโลดกว่า ทะยานอยากมากกว่า
มือซ้าย-เขียนไม่ถนัดทำให้จิตใจจดจ่อ มีระเบียบกว่า ระมัดระวังมากกว่่าส่วนตัวชอบแบบนี้มากกว่า)
และอีกหัวข้อนึงที่โดนมาก คือหัวข้อของทุกข์เกิดจากการเปรียบเทียบ เมื่อเกิดการเปรียบเทียบเมื่อไหร่ก็จะเป็นทุกข์ เพราะเรามีตัวตน ตัวกู เกิดขึ้นมา
ขอบคุณอาจารย์โอเล่มากค่ะที่ได้ชี้แนะแนวทาง ให้สติและข้อคิดมากมายค่ะ
🦋
– ความรู้สึกและความประทับใจในการเข้าร่วมกิจกรรมนี้?
ชั้นเรียนครั้งนี้ ค่อนข้างยืดหยุ่น ครูพูดเปิดกว้างให้ถึงขั้นผู้ร่วมกิจกรรมสามารถนอนร่วมกิจกรรมได้! แต่การอบรมก็ดูมีเสียงตอบโต้กลับไปในวงสนทนาจากสมาชิกผู้เข้าอบรมสม่ำเสมอทุกครั้งที่ครูชวนแลกเปลี่ยนความเห็น รวมทั้งมีการเข้ากลุ่มย่อยครั้งละ ๑๐ นาทีเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้สึกคิดนึกหลังเขียนบันทึกเป็นช่วงๆ
โดยส่วนตัวเองแล้ว พยายามตั้งหลักก่อนเข้าร่วมกิจกรรม เพราะไม่ค่อยถนัดการอบรมผ่านซูม แต่เห็นประโยชน์และถือว่าเป็นการฝึกโฟกัสการอยู่กับกิจกรรมตรงหน้าอย่างผ่อนคลายแต่ไม่ว่อกแว่ก ซึ่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จด้วยดี
ขอขอบคุณครูโอเล่ที่ทุ่มเทสร้างกิจกรรมเพื่อการตระหนักรู้เข้าใจตนค่ะ
ข้อคิด สิ่งที่ได้ฝึกฝน และสิ่งที่ได้รับจากการเรียน?
วันแรก คำว่า ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือเดียว รู้สึกโดนใจมากค่ะ
ใจได้สมดุลดีค่ะ เครื่องมือในชีวิตของตัวเองในช่วงหนึ่งของชีวิตที่เราใช้ ฉันขอบคุณในเครื่องมือนั้น ไม่ตำหนิในเครื่องมือนั้น และไม่ติดยึดในเครื่องมือนั้น มันทำให้ฉันรู้สึกเติบโตได้ในวันหนึ่งที่จะวางจากเครื่องมือนั้น
ท้ายชั่วโมงของวันที่สองได้ยินคำที่ครูบอกว่า “รู้จักผ่อนหนัก ผ่อนเบา” รู้สึกว่า ใช่แหละ คำนี้ทำให้เราทำสิ่งต่างๆอย่างรู้จังหวะ รู้ความพอเหมาะ
ขอบคุณมากค่ะสำหรับบทเรียนรู้ในช่วงสองวันกับการเรียนรู้ “มั่นคงจากข้างใน”
🦋
– ความรู้สึกและความประทับใจในการเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ?
ความรู้สึกที่ได้รับคือสงบ นิ่ง โมโห สับสน รู้สึกถึงหลายๆอารมณ์ที่วนเวียนเข้ามาในสมองเรา ตัวเรา และแปลกมากค่ะ รับรู้ เกิดขึ้น แต่ดับไปไวมากๆค่ะ
(emoji) ความประทับใจคือเป็นคลาสที่เรียบง่าย เหมือนครูให้อิสระในการเป็นตัวเองของเรา ไม่กดดัน ใครจะคิดอะไรไม่มีผิดถูกเลย
– ข้อคิด สิ่งที่ได้ฝึกฝน และสิ่งที่ได้รับจากการเรียน ?
ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นและดับไปเสมอ
และเมื่อได้ฝึกฝนในการหายใจ หยั่งราก น่าตกใจมากๆตรงที่รู้สึกสงบและอยากจะอยู่ในห้วงเวลาแบบนั้นนานๆ ทำให้รู้เลยว่าโลกภายนอกมันวุ่นวาย โลกภายในตัวเรา/การมองแค่ลมหายใจ มีสติกับลมหายใจ ง่ายมากและไม่ได้เครียดเลย
