ผลการฝึกปฏิบัติของผู้จบการอบรม เขียนภาวนา สามรุ่นล่าสุด

 

“สิ้นลมหายใจ สิ้นไร้ชีวิต
แต่ถ้ามีชีวิต แบบขาดสติ
จะมีประโยชน์อันใด

รู้ลมหายใจเข้า จึงรู้ลมหายใจออก
เขียนเพื่อหยุด หยุดเพื่อเขียน
ไม่อาจปราศจากกันและกัน

เขียนตามลม ใช่เขียนตามใจ
เขียนตามหัวใจ ใช่เขียนตามความคิด
เขียนเพื่อภาวนา ใช่เขียนเพื่ออัตตา”

– คุณอี๊ด , คอร์ส ปฏิบัติ เขียนภาวนา รอบกลางปี 2564

 

สมัครเข้าร่วม “ปฏิบัติ เขียนภาวนา”

https://www.dhammaliterary.org/meditation-writing/

 

ผลการฝึกปฏิบัติของผู้จบหลักสูตร

เขียนภาวนา สามรุ่นล่าสุด

 

สิ่งที่ผู้ผ่านการอบรม “ปฏิบัติ เขียนภาวนา” รอบปลายปี 2564 ได้เปลี่ยนแปลงตนเอง

  • สำรวมระวังกาย วาจา และใจตนเองมากขึ้น
  • ปล่อยวางจากการยึดติด
  • ปฏิบัติฝึกสมาธิอย่างต่อเนื่องจนจบการอบรม
  • รู้สึกว่าใจได้พักเพราะการทำสมาธิอย่างต่อเนื่อง
  • ควบคุมอารมณ์ตนเองได้ดีมากขึ้น
  • มีสติมากกว่าเดิม เท่าทันความคิดและความรู้สึก
  • จดจ่ออยู่กับงานตรงหน้ามากขึ้น
  • ฝึกปฏิบัติด้วยการใช้หลักอานาปนสติตามดูลมหายใจได้
  • เข้าใจหลักธรรมและศัพท์บาลีมากขึ้น
  • ตามดูตามเห็นกิเลส และกุศลต่างๆ เช่น อัตตา ความอยาก ความยึดติด ฯ ได้ชัดขึ้นและบ่อยขึ้นด้วยการยอมรับ ไม่ต่อต้าน
  • มีเครื่องมือเสริมในการฝึกเจริญสติด้วยการเขียนเพิ่มเติมจากการฝึกปฏิบัติในรูปแบบ
  • เมื่อเจอสถานการณ์ไม่คาดคิด มีสติ ไม่ตระหนกทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี จากการมีสติ ตลอดการเรียนรู้ 10 วันที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่ซึมซับเข้ามาในตัวเองได้อย่างอัศจรรย์
  • นิ่งมากขึ้น รับมือกับความคิดกังวลไปล่วงหน้า ได้ดีขึ้น วางความคิด ความกังวล และอยู่กับ ปัจจุบันได้
  • พลิกใจให้มองเห็นสองด้าน มองเห็นผล ที่อาจเกิดขึ้น ชั่งใจ มากขึ้น ซึ่งเดิมเป็นคนตัดสินใจเร็ว
  • อดทน รอคอยเป็น ไม่เร่งรีบ รีบร้อน ไม่ทำตามใจตัวเองเหมือนแต่ก่อน
  • เห็นอัตตา และกิเลสละเอียดของตัวเอง
  • เห็นกิเลสที่ผุดออกมา อันเกิดจากอาสวะที่หมักหมม
  • ลายมือเขียนเปลี่ยนไปในทางที่ดี อ่านง่าย ไม่ยุ่งเหยิง
  • สติละเอียดและจับอารมณ์ไวขึ้น
  • มีความพยายามและวางใจตนเอง
  • มีฉันทะในการนั่งสมาธิ และนั่งได้นานมากขึ้นกว่าเดิม
  • เกิดโยนิโสมนสิการในเรื่องต่างๆ และระวังในวิปัสนูปกิเลสมากขึ้น
  • มีความเพียรในการถือศีล มรรค และโพชฌงค์
  • เข้าใจตัวเอง ได้ทบทวนตนทำให้กระจ่างบางเรื่องมากขึ้น
  • จัดการเวลาได้ดีขึ้น ทำให้วุ่นวายน้อยลง ใจนิ่งขึ้น
  • การเขียนจากที่ตอนแรกตึง กดดัน ต้องบังคับ น้อยลง
  • อยู่กับปัจจุบันมากขึ้น และช้าลง
  • นอนหลับง่ายขึ้น จากเดิมที่นอนหลับแล้วมีความคิดวนเวียนก็ได้ใช้การฝึกลมหายใจ จดจ่อกับสิ่งเดียวทำให้หลับง่าย
  • เห็นเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องธรรมดา
  • คิดน้อยลงในการปฏิบัติ กล้าตัดสินใจลงมือทำ
  • สติชัดเจน กำหนดจุดปักใจ ชัด
  • โฟกัสมากขึ้นและฟุ้งซ่านน้อยลง
  • เข้าใจคำว่า น้อยแต่มาก
  • เห็นความโลภ เพราะกลัวหรือกังวลกับอนาคตมากเกินไป
  • หายใจยาวขึ้น และระลึกรู้ตามละเอียดกว่าเดิม
  • กล้าเอาชนะความขี้เกียจของตนเอง
  • เห็นว่าตนเองปฏิบัติมาถึงไหน และจะสังเกตตนเองอย่างไร แก้ไขอย่างไร จากการใช้แบบฟอร์มทบทวน
  • ได้เรียนรู้ว่ากิเลสมีลักษณะอย่างไร แบ่งออกเป็นอย่างไรบ้าง
  • ได้ใคร่ครวญชีวิตตนเองที่ผ่านมา เห็นความหมายของการปล่อยวาง และสมดุลทางกายใจ
  • ละลายพฤติกรรม คลายยึดติดจากตัวกู ตัวตนของกู
  • รู้สึกมีพลังสดใหม่ในการเริ่มต้น และผ่อนคลาย
  • อ่อนน้อมถ่อมตน

 

บทเรียนที่ผู้จบการอบรม “พื้นฐาน เขียนภาวนา” รอบต้นปี 2565 ได้รับ

✍️ จากที่พยายามหาคำตอบที่ดีที่สุด ทำให้มากที่สุด ตอนนี้เห็นทางสายกลางดีที่สุด เน้นคุณภาพของสติและลมหายใจ
✍️ เมื่อหายใจออกให้เรียกสติ เรียกสมาธิ ให้สงบ ให้เป็นกลาง ให้ระลึกตน ให้พอเพียง หยุดเร่งรีบ อยู่กับปัจจุบัน
✍️ ให้รู้ตน หยุดประเมินตน อยู่กับลมหายใจ หยุดเปรียบเทียบ ดีกว่า มากกว่า
✍️ รู้จักพอมากขึ้น ลดการดูถูกตัวเอง เห็นคุณค่าตนเอง
✍️ รู้จักน้อยแต่มาก
✍️ สอนให้เรามีลมหายใจเป็นอนุสติ เป็นเพื่อน
✍️ เห็นว่าความรู้สึก กับ ความคิดแยกกันได้
✍️ รับรู้ว่ารู้สึกอะไรแล้ววางปล่อย
✍️ ความคิดที่ผุดขึ้นมาให้รู้เท่าทัน ใคร่ครวญให้ทันว่าสัมมาหรือไม่ มุมมองนั้นเป็นประโยชน์หรือไม่
✍️ “เห็นตัวเองออกมา” , มองด้วยใจเป็นกลาง
✍️ เป็นอุบายที่ทำให้จดจ่อเป็นสมาธิ ซึ่งเผยแพร่ต่อคนรอบข้างได้
✍️ สอนให้ใคร่ครวญเพราะเขียนด้วยสติ
✍️ ความวนเวียนกับอารมณ์ เป็นผลของการทำตามมัน
✍️ ไม่ถือตัวเป็นผู้คิด มองเห็นเป็นตัวคิด ให้รู้ตาม
✍️ “สู้กันไป สุดท้ายไม่เกิดผล ยอมลดลง ปลงที่ใจ ของฉันเอง”
✍️ ค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ คิด ค่อยๆ เขียน
✍️ ปัจจุบันชณะ เป็นเวลาที่ดีที่สุด ปล่อยวางกับทุกสิ่ง ไม่ต้องคิดถึงอดีต ไม่ต้องกังวลอนาคต
✍️ ติดขัดบ้าง หยุดบ้าง ไม่ต้องกังวล ตามลมหายใจไว้ ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ
✍️ ชีวิตของเราเป็นอย่างที่ควรเป็น ไม่ต้องกำหนดว่าต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
✍️ ต้นไม้ ดอกไม้ มีหลายแบบหลายสี “สวยในแบบของตัวเอง”
✍️ ดอกหญ้าเล็ก ความเรียบง่ายธรรมดา ก็คือธรรมชาติรอบๆ ตัวเรา

 

ผลสัมฤทธิ์จากการฝึกฝนของผู้จบการอบรม “พื้นฐาน เขียนภาวนา” รอบปลายปี 2564

✏️ เพียรกำหนดลมหายใจยาวขึ้นต่อเนื่อง
✏️ เอาชนะความเบื่อ
✏️ กล้าและมุ่งมั่นทำสิ่งที่ไม่เคยทำ
✏️ จดจ่อกับลมหายใจ จังหวะการเขียน
✏️ จิตใจตั้งมั่นขึ้น ปล่อยวาง
✏️ รู้สึกเป็นอิสระ
✏️ รู้ตัวบ่อยขึ้น มีสติตอนที่เผลอ
✏️ เห็นความคิด อารมณ์ กับ อคติ
✏️ เห็นภายนอกที่เข้ามากระทบ
✏️ เชื่อมั่นในการเขียน ศรัทธาในตัวเอง
✏️ เชื่อมั่นว่าจะทำได้สำเร็จ
✏️ ยอมรับ เปิดใจ และวางใจ
✏️ ศรัทธาในธรรมะ พระพุทธเจ้า ฯ
✏️ เข้าใจธรรมะ เห็นไตรลักษณ์
✏️ เกิดปัญญาจากการลงมือทำ
✏️ เห็นสภาวะจิตที่ละเอียด
✏️ ยอมรับตามความเป็นจริงมากขึ้น

 

อ่านเอกสารสิ่งที่ได้รับจากการเขียนภาวนา

https://drive.google.com/file/d/1EAa22K8fTIRsYu5Zm7-Cl8IUAVh5os7s/view?usp=sharing

 

โครงการ “ห้องเรียน เขียนภาวนา”

youngawakening.org/write4life/เขียนภาวนา/