ข้อความของผู้ต้องขังเรือนจำ ในหัวข้อ “สิ่งที่อยากฝากบอกแก่โลกใบนี้”

  ทุกสิ่งสอน “ธรรมะ” ให้แก่เรา แม้พวกเขาจะอยู่ในที่ต่ำหรืออบาย หรืออยู่ในเรือนจำก็ตาม ข้อความของผู้ต้องขังเรือนจำ ในหัวข้อ “สิ่งที่อยากฝากบอกแก่โลกใบนี้” อาจให้ข้อคิดบางอย่างไม่มากก็น้อย อาจทำให้ใครสักคนมีสติก่อนที่จะปล่อยให้ความโลภ โกรธ หลง ชักนำไปในทางที่ไม่สมคุณค่าที่ยังมีลมหายใจในวันนี้ บันทึกในกิจกรรมโครงการ พัฒนาสุขภาวะทางปัญญาผ่านการเขียนบำบัด กลุ่มผู้ต้องขังแดนชายในเรือนจำกลางสมุทรปราการ ประจำปี 2567 (ครั้งที่ 4 ของโครงการ) . “ชีวิตเราเกิดมาแสนสั้นนัก จงรู้จักทำความดีเร่งขวนขวาย อีกไม่ช้าไม่นานเราก็ตาย สูญสลายเป็นธุลีและผงดิน จงกลัวบาป ละอายต่อบาปก่อน และหลังจากนั้นเราจะเริ่มทำความดี ความดีจะติดตามเราไปทุกภพชาติ ความดีจะขัดเกลาจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ เช่นกันกับการใช้ชีวิตให้มีความสุข เราจำเป็นต้องมีศีล มีคุณธรรม คนที่มีศีลธรรมย่อมเป็นผู้ปกติสุข ซึ่งต่างจากผู้ไม่มีศีลธรรม ย่อมมีแต่ความกระวนกระวายใจ มีแต่ความทุกข์ ความเบียดเบียน เช่นนั้นแล้วความสุขที่แท้จริงเกิดอยู่ที่ใจ ใจเราเป็นที่ตั้ง หากใจเป็นปรกติสุข ย่อมนำมาซึ่งความสุขทั้งตัวเองและผู้อื่น สุดท้ายนี้ขอมอบข้อความนี้ไว้เพื่อใครที่ได้อ่าน และทำความเข้าใจในบทความที่มีประโยชน์นี้ เพื่อประโยชน์ของพวกเราสาธุชนทั้งหลายผู้ซึ่งเจริญด้วยธรรม” “ผมอยากฝากเอาไว้ว่า คนเราทุกคนเกิดมามีรักโลภโกรธหลงเหมือนกัน แต่ต้องคำนึงเอาไว้ว่าเราไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้แก่ใครเขา เราควรยึดมั่นในสิ่งที่เราทำลงไป และควรทำสิ่งดีๆให้กับโลกใบนี้ด้วย ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่” “จากประสบการณ์ของผมเองครับ ผมอยากฝากเรื่องของผมเองคับ… Continue reading ข้อความของผู้ต้องขังเรือนจำ ในหัวข้อ “สิ่งที่อยากฝากบอกแก่โลกใบนี้”

สรุปโครงการเขียนบำบัดผู้ต้องขังเรือนจำ ครั้งที่ 4

  โครงการ พัฒนาสุขภาวะทางปัญญาผ่านการเขียนบำบัดกลุ่มผู้ต้องขังแดนชายในเรือนจำกลางสมุทรปราการ ประจำปี 2567 นับเป็นโครงการพัฒนาสุขภาวะของผู้ต้องขังด้วยการเขียนบำบัดเป็นครั้งที่ 4 ที่โครงการสถาบันธรรมวรรณศิลป์ ได้จัดร่วมกันกับโรงพยาบาลบางบ่อ และเรือนจำกลางสมุทรปราการ โดยปีนี้ได้จัดการอบรมนับตั้งแต่เดือน มิถุนายน ถึง เดือน กันยายนเป็นจำนวน 4 ครั้ง ครั้งละ 2 วัน รวมเป็นจำนวน 8 วัน โดยใช้การเขียนบำบัดในรูปแบบ Narrative Writing (การเขียนเล่าเรื่อง), Reflection Writing (การเขียนใคร่ครวญ), Persuasive Writing (การเขียนจูงใจ) และ Article Craft (การเขียนงานสร้างสรรค์) พร้อมกับการส่งเสริมการเขียนบันทึกในชีวิตประจำวัน โดยมีผู้ต้องขังเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 27 คน   จากการเข้าร่วมโครงการการเขียนบำบัดเพื่อพัฒนาสุขภาวะทางปัญญา เมื่อวิเคราะห์จากข้อความบันทึก งานเขียน และการแลกเปลี่ยนของผู้เข้าร่วมแล้ว พบว่าผู้เข้าร่วมได้พัฒนาความสามารถในการรู้จักและยอมรับตนเองผ่านการทบทวนชีวิต มองเห็นทั้งข้อดีและข้อผิดพลาดในอดีต รู้จักความต้องการของตนเองมากขึ้น พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายชีวิตที่มีคุณค่าและมุ่งเน้นการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณธรรม มีการพัฒนาความสามารถในการคิดเชิงวิพากษ์ การตัดสินใจเลือกความต้องการที่เหมาะสม การควบคุมอารมณ์ การปรับตัวต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้เข้าร่วมยังแสดงถึงความตระหนักในจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง… Continue reading สรุปโครงการเขียนบำบัดผู้ต้องขังเรือนจำ ครั้งที่ 4

จบการอบรม “เป็นดั่งแสงสว่าง” ประจำปี 2567

  ขอขอบคุณผู้เข้าร่วมกิจกรรม “เป็นดั่งแสงสว่าง” ทุกท่านเมื่อคืนวันเสาร์-จันทร์ที่ผ่านมาจำนวนประมาณ 109+ ท่าน ที่ได้เข้ามาเรียนรู้สำรวจแสงสว่างภายใน การปล่อยวาง เข้าถึงปัญญา และการเป็นดั่งแสงสว่างแก่ผู้อื่นต่อไป 🌞 ชุดอบรมหลักสูตร “ห้องเรียน วิถีครู” รุ่นที่ 6 ประจำปี 2567 ทั้งสี่หัวข้อเนื้อหาที่เราได้เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าร่วมกิจกรรมฟรี ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมาก็ได้จบลงอย่างสมบูรณ์แล้ว 🥰 ขอให้ความเป็นครูที่อยู่ในตนเองของผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่าน ได้เติบโตอย่างมั่นคงเพื่อเป็นที่พึ่งแก่ตนเองและผู้อื่นอย่างแท้จริง 🌳   สิ่งที่ผู้เรียนได้รับจากกิจกรรมในหัวข้อนี้   * ได้ความสงบภายในใจเป็นอย่างมากเลยครับ * รู้สึกอิ่มเอมมากค่ะ ได้เห็นแสงสว่างในตนเองและคนอื่นค่ะ * ❤️ สุดยอดเยี่ยมในทุกมิติ ❤️ * ขอบคุณครูโอเล่ หมอผึ้ง และเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ รู้สึกว่าได้ทบทวนตัวเองและเห็นภาพสะท้อนในการแชร์กับเพื่อนๆ ทำให้เข้าใจตัวเองได้มากขึ้นค่ะ * เป็นคอร์สระยะสั้น แต่เป็นบทเรียนที่มีประสิทธิภาพมากค่ะ * สั้นกระชับตรงเป้า เกิดความมั่นใจมากขึ้นในการเป็นแสงสว่างให้ตนเองและผู้อื่นตามบทบาทหน้าที่ค่ะ * เข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง เห็นแสงสว่างภายในตนเองมากขึ้น ขอบคุณมากเลยนะคะ * รู้สึกประทับใจ… Continue reading จบการอบรม “เป็นดั่งแสงสว่าง” ประจำปี 2567

หากเราปรารถนาทำตนให้เกิดประโยชน์อย่างใหญ่ การเป็นผู้มักน้อยและรู้สันโดษคือสิ่งที่พึงกระทำ

  มีชินแสหนุ่มผู้มีเมตตามาช่วยดูฮวงจุ้ยบ้านครูโอเล่ & สำนักงานสถาบันให้ฟรีในบ่ายวันหนึ่ง เมื่อย่างก้าวเข้ามาในรั้วบ้านแล้ว แลเห็นกองลังเอกสารหน้าบ้านและต้นไม้ที่เรียงราย จึงได้เอ่ยถามครูโอเล่ว่า “อ้าว รถครูจอดตรงไหนครับ” ครูชี้ไปยังจักรยานสามล้อที่จอดตรงข้างๆ เขาและก็ยิ้ม “นี่ไงครับ รถผม” ดังภาพ รถประจำตำแหน่งผู้อำนวยการและที่จอดรถ ในภาพนี้เป็นตอนก่อนจะปั่นไปส่งหนังสือ “ดังนั้น จึงเป็นครู” ซึ่งเกือบทุกรอบรถคันนี้เป็นดังผีเสื้อที่พาไปส่งความหวัง _____ “บางคนเข้าใจผิดว่า ผมทำงานเช่นนี้ได้จะต้องมีฐานะร่ำรวย ทั้งที่จริงแล้วไม่ใช่เลย แม้มีรายได้เข้ามาก็ต้องใช้จ่ายเพื่อกิจกรรมต่างๆ เพราะไม่ต้องการขอทุนจากองค์กรใด เงินเหลือเก็บกับตัวไม่มากเท่าใด “เมื่อเศรษฐกิจย่ำแย่ลงจนถึงจุดหนึ่งก็เริ่มไม่มีรายได้พอสำหรับการจ่ายค่าเช่าบ้าน แม้ประคองผ่านมาได้ แต่ผมก็เริ่มกลับมาตั้งคำถามตัวเอง “เราต้องมีสำนักงานหลังใหญ่และจะต้องใหญ่ขึ้น เท่านั้นหรือ ? “คำถามข้อนี้ ทำให้ตระหนักว่าที่ผ่านมา ผมหวังให้โครงการจะต้องใหญ่ขึ้น สำนักงานจะต้องใหญ่ขึ้น ความเป็นอยู่ จนถึงความเป็นครูโอเล่ จะต้องใหญ่ขึ้น ดีขึ้น เติบโตเป็นขั้นบันไดขึ้นไป ถือเป็นครั้งแรกที่ได้สำนึกกับตนเองว่า ผมแอบใฝ่หวังถึงการปีนป่ายสู่ความสำเร็จมากเพียงใด “ผมสังเกตตัวเองว่า แม้ในภาษาที่ใช้ในการเขียนหรือการสื่อสารทางอักษร ผมมักจะติดคำว่า “ขี้น” คำว่า “ดี” และ “ดีขึ้น” ซึ่งสำนวนภาษากับคำที่ใช้บ่อยเช่นนี้ มักสะท้อนความเชื่อกับสิ่งที่คนเขียนใส่ใจ “ความคาดหวังของผมถึงการดีขึ้น โตขึ้น… Continue reading หากเราปรารถนาทำตนให้เกิดประโยชน์อย่างใหญ่ การเป็นผู้มักน้อยและรู้สันโดษคือสิ่งที่พึงกระทำ

เข้าอบรมฟรี !! ในกิจกรรมหัวข้อ “เป็นดั่งแสงสว่าง”

  เข้าอบรมฟรี ! ฝึกทบทวนอัตตาและการละวางตัวเอง เพื่อเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง ในกิจกรรมหัวข้อ   ” เ ป็ น ดั่ ง แ ส ง ส ว่ า ง “ … ที่ว่างและเป็นประโยชน์ …   การอบรมส่งท้าย “ห้องเรียน วิถีครู” รุ่นที่ 6 – บ่มเพาะครูภายในตน เรียนทักษะสำคัญเพื่อเป็นที่พึ่งแก่ตัวเองและผู้อื่น (เข้าเรียนได้ทุกอาชีพ) คืนวันที่ 9 – 11 พฤศจิกายน 2567 รวมสามคืน เวลา 19.30 น. – 21.30 น. ออนไลน์ผ่าน Zoom ลงทะเบียนล่วงหน้าทาง Inbox เพจเฟสบุ๊ค “สถาบันธรรมวรรณศิลป์” หรือไลน์โครงการ https://lin.ee/k1LOh5d… Continue reading เข้าอบรมฟรี !! ในกิจกรรมหัวข้อ “เป็นดั่งแสงสว่าง”

ยอดสนับสนุนกิจกรรมการกุศลในช่วง ก.พ. – ก.ย. 2567

  โครงการของเราดำเนินบนพื้นฐานของการให้และรับ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคม ทั้งโดยการบริจาค มอบทุนการศึกษา และในรูปแบบกิจกรรมต่างๆ แต่ในขณะเดียวกันก็พยายามอยู่อย่างพึ่งพาตนเองและรายรับจากการอบรมและสื่อต่างๆ โดยไม่ขอสปอนเซอร์จากแหล่งทุนใด ปีนี้ช่วงเดือนกุมพาพันธ์เป็นต้นมา เราได้สนับสนุนกิจกรรมการกุศลเป็นจำนวนรวม 77,505 บาท โดยยังไม่รวมการบริจาคผ่านสิ่งของ หนังสือ และการจัดกิจกรรม ซึ่งจะรวมยอดในช่วงปลายปีอีกครั้ง โดยทางเราได้บริจาคให้กับ มูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป สำหรับโครงการผู้นำกระบวนทัศน์ใหม่ มูลนิธิธรรมรังสิมา สำหรับการสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม มอบทุนการศึกษาเยาวชนจากโครงการรางวัลธรรมวรรณศิลป์ ครั้งที่ 13 การสนับสนุนการพิมพ์หนังสือเรื่องเล่าผู้ป่วยจิตเวช และเป็นสื่อกลางช่วยสนับสนุนการบริจาคแก่องค์กรการกุศลอื่นๆ จำนวน 12,705 บาท ในโครงการ “คุณให้เขา เราให้คุณ” ครั้งที่ 5 รวมยอดสนับสนุนการบริจาคทั้งหมด 77,505 บาท ขอขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนพวกเราตลอดเส้นทางที่ผ่านมา ซึ่งบัดนี้ก็กำลังย่างก้าวเป็นปีที่ 16 และเตรียมขึ้นปีที่ 17 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าแล้ว ร่วมสนับสนุนการส่งต่อการให้และโครงการดีๆ ของเรา ด้วยการร่วมกิจกรรมการอบรมรายเดือน และหนังสือของทางโครงการ ซึ่งมีทั้งรูปแบบการเข้าฟรี ตามบริจาค และมีอัตราค่าใช้จ่าย เพื่อหาจุดที่สมดุลในการดำเนินกิจกรรมการกุศลที่พึ่งพาตนเองได้   ติดตามกิจกรรมได้ที่ https://www.dhammaliterary.org/open-course/ และเพจเฟสบุ๊ค… Continue reading ยอดสนับสนุนกิจกรรมการกุศลในช่วง ก.พ. – ก.ย. 2567

จบการอบรม “ฟังครูในเรา” ประจำปี 2567

  มีครูอยู่ในเรา อย่างหลากหลาย … ขอขอบคุณผู้เข้าร่วมการอบรม 125+ ทุกท่าน สำหรับการเป็นผู้เรียนรู้และเป็นครูของกันและกัน ในกิจกรรม “ฟังครูในเรา” ในชุดหลักสูตร ห้องเรียน วิถีครู รุ่นที่ 6 เมื่อคืนวันที่ 21 – 22 กันยายน 2567 รวมสองคืน ในกิจกรรมนี้เป็นการฝึกฟังเสียงภายในและเรียนรู้ “ครูที่อยู่ในเรา” ทั้งภายนอกและภายในตน โดยใช้การทำสมาธิโปรแกรมจิต (Self Hypnosis Meditation) การเขียนใคร่ครวญ (Reflection Writing) และการเปิดการ์ดออนไลน์ใน 7 ชุดไพ่ไกด์ชีวิต เดือนพฤศจิกายนนี้จะมีกิจกรรมรอบต่อไปในชุดวิถีครู ซึ่งเป็นหัวข้อปิดท้ายการอบรมของหลักสูตรนี้ ติดตามได้ที่ไลน์ของโครงการ @khianpianchiwit และเพจเฟสบุ๊คของเรา   รวมข้อความส่วนหนึ่งหลังการอบรม… “รู้สึกรักและเข้าใจร่างกายตัวเองมากขึ้นค่ะ ขอบคุณแบบฝึกหัดของครูค่ะ 😊🙏” “ได้กลับมาฝึกสมาธิอีกครั้ง ได้หยุด ได้ฝึกสติ มีความสงบในใจอีกครั้งค่ะอาจารย์” “สงบขึ้น ได้ฉุกคิดเรื่องที่เป็นปัญหาในปัจจุบัน รู้วิธีรับมือมากขึ้น ได้รับความกล้าหาญ” “ได้หยุดฟังตัวเอง อีกครั้งนึงเบา… Continue reading จบการอบรม “ฟังครูในเรา” ประจำปี 2567

เดือนที่สาม-สี่ โครงการเขียนบำบัดผู้ต้องขังปีที่ 4

  เราให้พวกเขาเป็นครูของตัวเอง และครูของแก่กันและกัน เพื่อปลุกจิตสำนึก การเคารพคุณค่าในตัวเองและผู้อื่น และสร้างสุขภาวะทางปัญญา ด้วยมีการเขียนบำบัด กระบวนการกิจกรรมและการแลกเปลี่ยนเป็นสะพานให้ครูในตัวพวกเขาได้ปรากฎออกมาเป็นแสงสว่างให้แก่กัน การเข้าไปอบรมให้แก่พวกเขาในแต่ละครั้งยังคงเป็นความท้าทายอยู่เสมอ แม้เราจะดำเนินการกิจโครงการนี้เป็นปีที่ 4 ไม่รวมกิจกรรมย่อยๆ เราก็เข้าออกเรือนจำมามากว่ายี่สิบครั้งแล้ว แต่วิธีคิดของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลพวกเขา ระบบและกระบวนการต่างๆ ก็ยังเป็นข้อจำกัดในการพัฒนาคุณค่าของความเป็นมนุษย์อยู่มาก แต่การได้อยู่ตรงนั้น ฟังพวกเขาแลกเปลี่ยน ได้รับรู้ในสิ่งที่เขาเขียน และความร่วมมือเอาใจใส่ในการทำกิจกรรม ล้วนทำให้รู้สึกว่าคุ้มค่าต่อการเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ แล้ว ในการเรียนรู้สองเดือนสุดท้าย เราชวนเขาตั้งคำถามถึงความหมายและค่านิยมของการเป็นคนดี คุณค่าและความต้องการของชีวิต ตลอดจนถึงการเตรียมตัวตาย และการเขียนผลงานเพื่อฝากไว้แก่โลกใบนี้ มีจิตใจที่งดงามซ่อนอยู่ภายใต้หลังคาเรือนจำและกรงเหล็ก มีดอกไม้เบ่งบานที่เราไม่ได้ถ่ายภาพมา แต่เตือนใจทั้งผู้เรียนและผู้สอนเสมอ เมื่อก้าวเข้ามาในแดน 3 ของเรือนจำกลางแห่งนี้ อยู่ที่ใดๆ เราก็งดงามและเบ่งบานได้ ถ้าเราเคารพในความหมายของสิ่งที่เป็นและเกิดมาเพื่อจะเป็น ไม่ว่าทำผิดพลาดหรือร่วงโรยลงกี่ครั้ง มันก็ไม่ได้ทำให้ความมนุษย์หรือต้นไม้นั้นมีค่าลดลง มีแต่สายตาของตัวเราเองและผู้อื่นเท่านั้น ที่จะบั่นทอนคุณค่าหรือบดบังให้มันเลือนหายไป ในโอกาสต่อไปเราจะนำงานเขียนของพวกเขามาแบ่งปัน มีงานเขียนและข้อคิดดีๆ มากมายในสมุดของพวกเขา รวมสิ่งที่เขาอยากเขียนให้แก่โลกใบนี้ หากเขาสามารถเขียนได้เพียงแค่งานชิ้นเดียว ภาพในกิจกรรมเดือนที่ 3 และ 4 ของการอบรมการเขียนบำบัด เพื่อผู้ต้องขังเรือนจำกลางสมุทรปราการที่มีโรคเรื้อรัง ปีที่ 4 เพื่อส่งเสริมสุขภาวะทางปัญญาและการเห็นคุณค่าในตัวเอง ในเรือนจำแดนชาย… Continue reading เดือนที่สาม-สี่ โครงการเขียนบำบัดผู้ต้องขังปีที่ 4

ร่วมแบ่งปันน้ำใจ ให้ผู้ประสบภัย และองค์กรการกุศล กับโครงการ “คุณให้เขา เราให้คุณ ครั้งที่ 6”

  ร่วมแบ่งปันน้ำใจ ให้ผู้ประสบภัย และองค์กรการกุศล กับโครงการ “คุณให้เขา เราให้คุณ ครั้งที่ 6” สถาบันธรรมวรรณศิลป์ขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและองค์กรที่ทำงานเพื่อสังคม ด้วยการสนับสนุนและตอบแทนผู้มีจิตอาสา   🙏  เมื่อท่านบริจาคให้กับองค์กรการกุศลที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือองค์กรที่ทำงานเพื่อสังคม เราขอสนับสนุนท่าน ด้วยส่วนลดค่าลงทะเบียนหลักสูตร “รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์ รุ่นที่ 19” ตามยอดที่ท่านบริจาค สูงสุดท่านละ 1,000 บาท !   🌈 สิ่งที่ท่านจะได้รับในการเข้าร่วมโครงการ * เปิดโอกาสให้กับตัวเอง : ได้เรียนรู้ไพ่ทาโรต์เพื่อรู้จักตัวเอง ดูแลความรู้สึก ค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตนเอง และเป็นที่ปรึกษาให้กับตนและผู้อื่น * ร่วมสร้างสังคมที่ดีขึ้น : ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและสนับสนุนการทำงานขององค์กรการกุศลให้ก้าวพ้นสถานการณ์อุทกภัยและวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงนี้ * รับส่วนลดจากโครงการ : ลดค่าลงทะเบียนหลักสูตร รู้จักตัวเองผ่านไพ่ทาโรต์ ได้สูงสุด 1,000 บาท จากค่าลงทะเบียนเริ่มต้น 4,200 บาท เหลือเพียง 3,200 บาท พร้อมไพ่ทาโรต์ ตำราเล่มหนา… Continue reading ร่วมแบ่งปันน้ำใจ ให้ผู้ประสบภัย และองค์กรการกุศล กับโครงการ “คุณให้เขา เราให้คุณ ครั้งที่ 6”

เข้าอบรมฟรี !! ในกิจกรรมหัวข้อ ” ฟั ง ค รู ใ น เ ร า “

  เข้าอบรมฟรี !! ฝึกการฟังเสียงภายในกายและจิตใจ เพื่อค้นหาปัญญาแห่งชีวิต ในกิจกรรมหัวข้อ   ” ฟั ง ค รู ใ น เ ร า “   มาสำรวจครูที่ซ่อนในตนเองและทุกสิ่งรอบตัว กิจกรรม “ห้องเรียน วิถีครู” รุ่นที่ 6 – บ่มเพาะครูภายในตน เรียนทักษะสำคัญเพื่อเป็นที่พึ่งแก่ตัวเองและผู้อื่น (เข้าเรียนได้ทุกอาชีพ) คืนวันที่ 21 – 22 กันยายน 2567 รวมสองคืน เวลา 19.30 น. – 21.30 น. ออนไลน์ผ่าน Zoom ลงทะเบียนล่วงหน้าทาง Inbox เพจเฟสบุ๊ค “สถาบันธรรมวรรณศิลป์” หรือไลน์โครงการ https://lin.ee/k1LOh5d ในกิจกรรมนี้ ผู้เข้าร่วมจะได้ฝึกฝนการฟังเสียงภายใน เพื่อค้นหาปัญญาในกายและจิตของตัวเอง ใคร่ครวญทางออกของชีวิต และวิธีในการช่วยให้ผู้อื่นได้ฟังเสียงภายในตน… Continue reading เข้าอบรมฟรี !! ในกิจกรรมหัวข้อ ” ฟั ง ค รู ใ น เ ร า “