ใกล้ปิดรับสมัคร เขียนภาวนา ประจำปี 2566

 

“ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือน ที่ได้เรียนคอร์สเขียนภาวนา นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งของชีวิตตั้งแต่เกิดมา ในทุกๆวันได้มีกิจกรรม มีภาวะความรู้สึกที่เคล้าเคลียอยู่กับการภาวนา การเรียนรู้กายใจตลอด
“กิจกรรมหัวข้อต่างๆที่ลงมือทำ ก่อให้เกิดการเห็น ความเข้าใจ การยอมรับสภาวะต่างๆ คลายความหนัก ความยึดถือลงเนืองๆ คำสนทนา การชี้สภาวะหรือสิ่งที่ติดอยู่จากครู อาจไม่ใช่คำชื่นชมให้กำลังใจทั้งหมด จนบางครั้งเกิดความขุ่นมัวในใจ แต่เมื่อม่านหมอกกิเลสนั้นสลายไป ได้เห็นว่าทุกคำชี้แนะนั้นเป็นความจริงอย่างที่สุด และกลับก่อเกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกที่ควรมากยิ่งๆขึ้น
“ความฟุ้งซ่าน นิวรณ์ห้า รู้สึกลดลง มีสมาธิมีสภาวะตั้งมั่นมากขึ้น มีความอดทน ทำในสิ่งที่ถูกที่ควรทำ แม้ในตอนเริ่มต้นก่อนที่จะลงมือทำกิเลสจะหลอกให้เราหยุด ในกับทั้งทางการภาวนาและบทบาทหน้าที่ทางโลก อุเบกขา เป็นสิ่งที่มักมองข้าม จนทำให้ทุกข์ รู้สึกผิด และเบียดเยียนตัวเอง ได้เข้าใจสิ่งนี้มากขึ้น
“อิสระนั้นมิได้หมายถึงการทำอะไรก็ได้ตามใจอยาก แต่การทำตามใจอยากนั้นแหละ อาจเป็นคุกที่คุมขังเราไว้เรามิได้เดินเพื่อถึงจุดหมายใด แต่เพื่อทำให้ทุกย่างก้าวมีคุณค่าอย่างแท้จริง ยิ่งรีบ ยิ่งเร่ง ยิ่งออกไป ยิ่งค้นหา ยิ่งไม่เจอ”

/ คุณจักรทิพย์ (โจ๊ก) ผู้เรียนปี 2563

 

🌼 หลักสูตร #เขียนภาวนา Meditation Writing : เป็นการอบรมฝึกสมาธิและเจริญสติอย่างเข้มข้น ผ่านศิลปะการเขียนหนึ่งลมหายใจ ที่มุ่งเน้นรู้เท่าทันกิเลสและรู้ละวางความอยากกับความยึดมั่น ด้วยรูปแบบการฝึกเขียนภาวนาและการทำสมาธิ

รุ่นที่ 14 ใกล้ปิดรับสมัครแล้ว โดยเรียนวันที่ 22 – 23 , 29 – 30 กรกฎาคม และ 12 – 13 , 19 – 20 , 26 – 27 สิงหาคม 2566 (เสาร์อาทิตย์)

 

เนื้อหา 4 วันแรกคือเนื้อหาขั้น “พื้นฐาน เขียนภาวนา” : เข้าใจหลักการเบื้องต้น
เนื้อหา 6 วันถัดมาคือขั้น “ปฏิบัติ เขียนภาวนา” : ฝึกขัดเกลาตนเองอย่างเข้มข้น

 

สามารถเลือกเรียนเฉพาะขั้นพื้นฐาน 4 วัน หรือตลอดทั้งหลักสูตร 10 วัน
ศิษย์เก่าที่เคยผ่านขั้นพื้นฐาน หรือเคยจบตลอดหลักสูตร สามารถเลือกเรียนเฉพาะ 6 วันสุดท้ายได้

ค่าลงทะเบียนบริจาคตามทุนทรัพย์ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมอื่นๆ ของโครงการ สถาบันธรรมวรรณศิลป์

 

🙏 กรอกใบสมัครได้ที่
https://forms.gle/ccoyBy2D5Eueh2Bt6

🙏 อ่านรายละเอียดหลักสูตร
https://www.dhammaliterary.org/meditation-writing/

 

“รู้สึกดีใจที่ได้รับความเมตตามาเรียนคอร์สนี้ สัมผัสได้ถึงการตระเตรียมงานอย่างดีของครูโอเล่และทีมงาน มีความเป็นครูและโค้ชที่ตรวจการบ้านและตั้งคำถามฉุกคิด ทำให้ ทำให้พวกเราได้ยกระดับจิตใจ ขอบคุณอย่างสูงที่เสียสละค่ะ เรียนแล้วมีทัศนคติในการทำงาน ช้าลง แต่มีคุณภาพมากขึ้นทั้งภายในและภายนอก เวลา เห็น และได้ยินเสียง มีความรู้สึกแตกต่างจากเมื่อก่อน คือ ลดการปรุงแต่งลงไปเองโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ชีวิตเบาสบายขึ้นได้อีก
“ตราบเท่าที่เรายังคงฝึกอยู่ต่อไป ไม่บังคับให้ตนเองทำงานดีเลิศที่สุด ถึงแม้จะเป็นเพื่อส่วนรวมก็ตาม ได้ความคิดใหม่ คือ ทำแค่ปัจจุบัน และทำต่อเนื่อง ไม่พัก ไม่เพียร รู้สึกอุ่นใจ ไม่พุ่งไปข้างหน้าจนเกินไป ก่อทุกข์ให้หงุดหงิดใจภายหลัง ความรู้สึกนี้ บังคับให้เกิดเองไม่ได้ แต่เกิดจากการเขียนภาวนา และการตอบคำถาม และทบทวนตัวเองโดยมีครูเมตตาชี้แนะให้ต่อเนื่องค่ะ”

คุณสุธารัตน์ (หลิน) ผู้เรียนปี 2562