อบรมการเขียนและการทบทวนตน คืนที่สี่

 

ยินดีกับน้องๆ ทั้ง 10 คนที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายการประกวดงานเขียน รางวัลธรรมวรรณศิลป์ ครั้งที่ 13 และได้ร่วมเรียนรู้กับครูโอเล่ ในการอบรมการเขียนและการทบทวนตน จนถึงคืนที่ 4 เมื่อเวลาทุ่มครึ่ง วันที่ 3 เมษายน 2567 เป็นต้นมา เฉลี่ยคืนละสองชั่วโมง ก่อนส่งผลงานแก้เกลาให้คณะกรรมการรอบตัดสินได้พิจารณารางวัลในรอบสุดท้าย

* * *

ถือเป็นการกลับมาจัดกิจกรรมกับน้องๆ วัยรุ่นอีกครั้งของโครงการ หลังจากห่างหายไปสักพักใหญ่นับตั้งแต่การระบาดของไวรัสโควิด ดีใจที่น้องๆ สามารถเรียนรู้การฝึกเขียนทบทวนตนเอง การพิจารณาคุณค่าของงานเขียน และทำความรู้จักกับเพื่อนๆ ได้อย่างข้ามพรมแดนของระยะทาง เป็นกำลังใจให้พี่ๆ มองลู่ทางในการจัดกิจกรรมกับน้องๆ วัยรุ่นในโอกาสต่อไป

ขอบคุณที่น้องๆ มาเรียนรู้ด้วยกัน ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในคุณค่าแท้ของงานเขียนและคุณค่าแท้ที่อยู่ในตนเอง มิว่าผลลัพธ์ของสิ่งที่ทำนั้นจะเป็นอย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านั้นก็จะเป็นการเรียนรู้และการเติบโตที่ต่อยอดจากการเขียนสู่มิติอื่นๆ ของชีวิต

* * *

⭐️ ผลตอบรับบางส่วนจากน้องๆ

“ถึงจะเป็นแค่ช่วงสั้นๆแต่ก็รู้สึกอบอุ่นมาก ชอบที่ทุกคนให้แต่พลังบวกคอยชมกันคอยให้กำลังใจ ได้เห็นสไตล์งานเขียนที่ต่างกันออกไป ได้ฟังแนวคิดของแต่ละคนซึ่งมันดีมากๆเลยค่ะ แล้วก็ยังได้เทคนิคใหม่ๆที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง การฝึกรับฟังข้อผิดพลาดแล้วก็ปรับแก้”

“ทำให้หนูอยากเขียนมากขึ้น และอยากเขียนต่อไปเรื่อย ๆ สิ่งที่ได้รับจากการการอบรม คือ ได้พัฒนาการเขียนจากการอ่านงานเขียนของเพื่อน รวมถึงการทำกิจกรรมต่าง ๆ ค่ะ หนูได้เรียนรู้รูปแบบการเขียนที่มากขึ้น และได้เรียนรู้การใช้ภาษาที่น่าสนใจของทุกคน”

“ตอนเเรกรู้สึกว่ามันจะน่าเบื่อครับ เเต่พอเข้ามา ได้ทำกิจกรรม ได้มีปฏิสัมพันธ์ มีความสุข สนุกมากครับ เหมือนทุกคนได้เชื่อมโยงกัน ถ้าในหลักจิตวิทยาถือว่าเป็นหนึ่งในการบำบัดขั้นสูงได้เลยครับ พี่โอเล่สุดยอดมากครับ ได้รับวิธีการบำบัดต่างๆมามากพอสมควรเลยครับ ส่วนตัวศึกษาทางด้านจิตวิทยาอยู่เเล้ว พอมาเจอกิจกรรมต่างๆ ได้เห็นเเนวทางนำไปประยุกต์ใช้ในการบำบัดต่อไปได้เลย”

“รู้สึกปลื้มปริ่มที่ได้เข้าอบรมค่ะ ตั้งเเต่ตอนเเรกที่อ่านประกาศว่าผ่านเข้าร่วมอบรม พอได้เข้ามาอบรมเหมือนได้เปิดโลกการเขียนมากขึ้นเลย ได้เข้าใจทั้งตัวอย่างวิธีที่จะเริ่มต้นเขียนหรือการเขียนบทความที่ดี ยิ่งได้ฟัง/อ่านงานเขียนของเพื่อน ๆ ที่ยกตัวอย่างทำให้เรามีไฟในการเขียนเพิ่มมากขึ้นด้วย

“ได้รู้จักกับตัวเองมากขึ้นมากกกกเลยค่ะ พออบรมทำให้เราเห็นข้อผิดพลาด คำที่ต้องเเก้ไขเยอะเลย ได้จุดประกายอะไรใหม่ ๆ เพิ่มด้วย ได้เห็นมุมมองของเพื่อน ๆ กับครูที่สะท้อนออกมาในหลาย ๆ มุม บางคำถามในการอบรมทำให้ตกตะกอนอะไรได้หลายอย่าง ทั้งการตั้งคำถามลึก ๆ ถึงคุณค่าของงานเขียนเเละคุณค่าของตัวเอง การเขียนถึงตัวเอง เเลกเปลี่ยน คุยกับเพื่อน ๆ สนุกดีค่ะ ได้เรียนรู้การพัฒนาทักษะการเขียนหลายอย่าง ทั้งการลองเขียน การตั้งคำถาม กลอนสด บางอย่างไม่เคยรู้ก็ได้ลองทำค่ะ ดีใจที่ได้เจอทุกคน ได้ตกตะกอนความรู้สึก ความสามารถ ได้เห็นสกิลของทุกคน เป็นโอกาสที่ถ้าไม่ได้อบรมคงไม่ได้มาทำอะไรเเบบนี้ค่ะ”

“อย่างหนึ่งคือรู้สึกว่ารักตัวเองมากขึ้นจริง ๆ พอได้กลับไปอ่านงานของตัวเองเพื่อแก้เกลา กลับรู้สึกว่าเขียนได้ดีมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องแก้เลย ต่างกับตัวเองในไม่กี่เดือนก่อนที่กำลังกดส่งงานนี้มาทางอีเมล ทั้งกังวลว่าเขียนได้ดีไหม ใช้คำถูกต้องไหม ทำให้ดีกว่านี้ได้ไหม รู้สึกว่าเราเป็นเราแบบนี้ก็ดีที่สุดแล้ว ในอนาคตอาจจะมีเราในเวอร์ชันที่ดีกว่านี้ แต่ถ้านับแค่ปัจจุบันเราก็ดีสุด ๆ แล้ว อยากกลับไปกอดตัวเองและให้ยอมรับในข้อบกพร่องบ้าง บางทีเราก็พยายามที่จะสมบูรณ์แบบเพราะใครหรืออะไรมากเกินไป ไม่ว่าจะในการงาน ในการประกวด หรือในความสัมพันธ์ จนบางทีเสียความเป็นตัวเองไป และอาจเสียสุขภาพจิตไปด้วย

“คิดว่าการหวังกำไรที่ได้มาจากการนำจิตใจตัวเองมาเดิมพัน น่าจะเป็นการลงทุนที่ทำให้ตัวเองขาดทุน รางวัลก็เป็นตัวการันตีว่าเราเก่ง แต่การที่เราไม่มีรางวัลก็ตัดสินไม่ได้ว่าเราไม่เก่งเช่นกัน สำหรับงานนี้ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ไม่อาจรู้รสนิยมของกรรมการได้ ถ้ามีคนในนี้หรือเพื่อนคนไหนพอใจในงานของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือดราพอใจในตัวเอง นับว่าประสบความสำเร็จแล้วค่ะ”

* * *

ติดตามกิจกรรมอบรม
https://www.dhammaliterary.org/open-course/

รู้จัก สถาบันธรรมวรรณศิลป์
https://www.dhammaliterary.org/ธรรมวรรณศิลป์/