Journal & Inner guide “ผู้นำทาง”
เดินทางสู่จิตใต้สำนึก เพื่อตระหนักถึงสิ่งที่รอสะสาง เป้าหมายของชีวิต และเชื่อมโยงกับผู้นำทางภายใน ด้วยการเขียนบันทึกที่ไม่ธรรมดา !
ในกิจกรรมออนไลน์ 6 คืน จากผู้สอนหลักสูตร “เขียนเปลี่ยนชีวิต”
คืนวันที่ 15-16, 22-23 และ 29-30 พฤศจิกายน 2568 รวมหกคืน (เสาร์-อาทิตย์) เวลา 19.30 น. – 21.30 น. ออนไลน์ผ่าน Zoom
สิ่งที่เราพบเจอในชีวิตกำลังบอกอะไรกับเรา ?
เป้าหมายชีวิตและสิ่งที่รอการสะสางคืออะไรบ้าง ?
เสียงภายในร่างกายและจิตใจ อยากให้เราตระหนักถึงสิ่งใด ?
เราจะเชื่อมโยงกับจิตใต้สำนึกและผู้นำทางในตัวเราได้อย่างไร ?
หลักสูตรนี้เกี่ยวกับอะไร
ฟังเสียงนำทางจากภายใน เปิดประตูสู่โลกจิตใต้สำนึก เข้าใจสัญญาณในชีวิต (Signs of Life) สนทนากับเสียงจากร่างกาย สำรวจเส้นทางกรรม เป้าหมายชีวิต และความหมายของความฝันยามหลับ ผ่านการเขียนใคร่ครวญตน (Self-Reflection) และการเขียนเชื่อมโยงกับจิตใต้สำนึก (Dreamland Journal)
Journal and Inner guide “ผู้นำทาง” เป็นกิจกรรมพิเศษต่อยอดจากหลักสูตร “เขียนเปลี่ยนชีวิต” ซึ่งสอนการเขียนบำบัด และการเขียนเชิงจิตวิทยาเพื่อการพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ เช่นการดูแลจิตใจ การรู้จักตน และการก้าวข้ามอุปสรรค การเขียนในหลักสูตรนี้จะไม่ใช่การเขียนสร้างผลงานให้คนอื่นอ่าน แต่เป็นการเขียนเพื่อสื่อสารกับจิตใต้สำนึกและใคร่ครวญกับประเด็นนามธรรมที่อยู่ในโลกภายในของเราแต่ละคน
สิ่งที่จะได้รับจากการเรียน
- ฟังเสียงภายใน : เขียนบันทึกเพื่อเปิดประตูสู่จิตใต้สำนึก
- เชื่อมโยงสัญญาณชีวิต : ใคร่ครวญความหมายสิ่งที่เกิดขึ้น
- เข้าใจตนและเส้นทางกรรม : ตีความจากไพ่และความฝัน
- มองหนทางก้าวต่อไป : ฟังผู้นำทางแนะนำเป้าหมายชีวิต
กิจกรรมนี้เรียนรู้อย่างไร
การเรียนรู้นี้จะประกอบด้วยการฟังบรรยาย การเขียนบันทึกและกิจกรรมเชื่อมโยงกับจิตใต้สำนึก และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนร่วมเรียน ผู้เรียนควรมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม เพื่อได้รับประโยชน์จากการเรียนรู้อย่างเต็มที่
“ความฝันยามหลับ เสียงภายใน และสัญญาณของชีวิต คือประตูสู่จิตใต้สำนึกที่เผยความหมายที่เราหลงลืม ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวและสิ่งสำคัญที่เราละเลยหรือไม่ทันรู้ตัวในชีวิตประจำวัน หากเปิดใจฟังและทำความเข้าใจ เราจะเกิดปัญญา ความตระหนักรู้เกี่ยวกับตนเอง และปลดล็อกข้อจำกัดในชีวิตได้”
วิทยากร

ครูโอเล่ อนุรักษ์ เม่นหรุ่ม C.Ht
ผู้อำนวยการ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ วิทยากร นักเขียน นักสะกดจิตบำบัด ผู้สอนการเขียนบำบัดในชื่อชุดหลักสูตร “เขียนเปลี่ยนชีวิต” สอนการสะกดจิตบำบัดและการโปรแกรมจิตตัวเองในชุดหลักสูตร “ห้องเรียน พลังแห่งจิต” (30 รุ่น) นอกจากนี้ก็ยังเปิดอบรมในเนื้อหาต่างๆ อาทิ การรู้จักตนเอง การเจริญสติภาวนา การพัฒนาครู และภาวะผู้นำ แก่บุคคลหลากหลายอาชีพ โดยได้รับ Certified Hypnotherapist
ผู้เขียนคอลัมน์ออนไลน์ “ไกด์โลกจิต” ผู้ร่วมศึกษาการเขียนบำบัดเพื่อส่งเสริมสุขภาวะผู้ต้องขัง และผู้ศึกษาวิจัยการเห็นคุณค่าในตัวเองผ่านการเขียนภาวนา
ค่าลงทะเบียน
ค่าเรียนกำลังทรัพย์ ขั้นต่ำเพียง 590 บาท
ร่วมสมทบ 990 บาทขึ้นไป จะได้รับไฟล์คู่มือเขียนบันทึกท่องแดนฝัน และสำเนาสไลด์หลังจบการอบรม
รายได้จากการอบรมจะเป็นการสนับสนุนทีมงานและโครงการสถาบันธรรมวรรณศิลป์ ซึ่งทางเราดำเนินกิจกรรมโดยไม่พึ่งพาการขอทุนจากองค์กรใดๆ
อ่านรายละเอียดกิจกรรมการกุศลของเราได้ที่
www.dhammaliterary.org/โครงการเพื่อการกุศล/
สมัครเข้าร่วม
ลงทะเบียนล่วงหน้า รับจำนวนจำกัด
1. ทักแชท Inbox เพจเฟสบุ๊ค “สถาบันธรรมวรรณศิลป์”
หรือทางไลน์ id : @khianpianchiwit
2. แจ้งสมัครการอบรม “ผู้นำทาง” พร้อมแจ้งข้อมูล ได้แก่ ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น อายุ อีเมล และเหตุผลที่สมัครเข้าร่วม
3. ชำระค่าลงทะเบียนทางบัญชีที่ทีมงานแจ้งให้ทราบ และส่งหลักฐานให้กับโครงการ เพื่อยืนยันการเข้าเรียน
* ศิษย์เก่าที่เคยร่วมกิจกรรมอื่น แจ้งเฉพาะชื่อกิจกรรมกับเหตุผลที่สมัคร
เสียงสะท้อนจากศิษย์เก่า
“ชอบกิจกรรม คนที่จักรวาลส่งมาให้ เป็น…*ของขวัญ *ส่งคำเตือน *บอกใบ้ความหมายของชีวิต
ทำให้ได้สะท้อน สิ่งที่คนเหล่านี้ทำให้ ซึ่งก็ตรงกับส่งที่จักรวาลส่งมา น่าอัศจรรย์มากมาก และรู้สึกขอบคุณบุคคลเหล่านี้ ระหว่างกิจกรรม ก็ได้สะท้อนหลายสิ่ง และเห็นคุณค่าของแต่ละคนที่เข้ามาในชีวิต”“ได้กลับมาทบทวนชีวิตที่ผ่านมา และค้นหาตัวตนของตนเองที่หายไป และกลับมาเห็นคุณค่าของตนเองด้วยตนเอง โดยไม่ต้องรอการยอมรับ หรือคำยืนยันคุณค่าของตนเองจากคนอื่น และกิจกรรมสุดท้ายก็ มาตอกย้ำเรื่องคุณค่าในตนเอง ทำให้กลับมาเชื่อมั่นในเส้นทางที่จะเดินต่อ”
“เรียนแล้วรู้สึกกล้าหาญขึ้น พยายามเติบโตจากข้างใน ชอบกิจกรรมเศษขนมปัง เพราะเหมือนเรามีเพื่อนเดินข้างๆช่วยส่งเสริมให้เราทำตามเป้าหมายในใจที่ตัวเองยังทำไม่ได้ สิ่งที่ได้รับจากการอบรมคือการก้าวข้ามจุดความกังวลบางอย่าง ความไม่ชอบ ความคิดลบ อคติบางอย่างกับบุคคลที่ทำไม่ดีกับเรา ทำให้เรามองอย่างรอบด้าน เข้าใจในความต่างระหว่างกันอยู่ด้วยกันดีขึ้น และทำให้มีไฟกลับมาเดินตามฝันที่แอบบกังวลและขี้เกียจได้ รู้สึกขอบคุณที่ได้เรียนค่ะ”
“รู้สึกว้าวกับจิตใต้สำนึกของตัวเอง บางคำตอบไม่คิดว่าจะออกมา ได้บางคำที่เป็นคีย์เวิร์ดที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ชอบกิจกรรมความฝัน เพราะสงสัยมาตลอดว่าทำไมชอบฝัน ตื่นมาแล้วเหนื่อย แต่พอรู้ว่ามันคือการสื่อสาร ก็ค่อยๆเข้าใจ แล้วพยายามหาคำตอบว่าต้องการสื่ออะไร”
“ได้เรียนรู้เทคนิควิธีที่จะสื่อสารกับจิตใต้สำนึก ได้ใคร่ครวญความหมายของคำหลายๆ คำที่ปรากฎขึ้นจากการจับการ์ดอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ คำว่า “แรงบันดาลใจ” “ความชัดเจน” รู้สึกมีกำลังใจที่จะเดินหน้าทำบางสิ่งบางอย่างทั้งที่ยังไม่แน่ใจ/ไม่มั่นใจนัก บทเรียนหรือข้อความสำคัญที่ได้
– “ตอบสนองต่อโลกให้ช้าลง แล้วกลับมาเชื่อมโยงกับปัญญาญาณในร่างกาย””
“ก่อนเรียนว่าตื่นเต้นแล้ว พอเข้าเรียนยิ่งตื่นเต้นไปใหญ่ ที่มีเครื่องมือหลากหลายพาเดินทางไปสำรวจใจหลายอย่างที่พร่าเลือนในหัว เหมือนถูกจับออกมาวางให้มองเห็นเป็นรูปธรรม หลายอย่างที่ซ่อนไว้เผยออกมา ชอบกิจกรรม เศษขนมปังของพระเจ้า เพราะเป็นกิจกรรมได้เห็นตัวเราในมุมที่กว้างขึ้น อะไรที่ฉุดรั้งเราและจะข้ามได้อย่างไร”
“สิ่งที่ได้จากการอบรม และบทเรียนสำคัญที่ได้ ได้คำตอบที่ตั้งคำถามไว้ว่า จะไปทางไหนต่อ ตัวตนที่แท้จริงอีกมุมที่ถูกซุกซ่อนไว้ ผ่านบทบาทการทำงาน มันถูกรับรู้ว่าให้สนใจมันหน่อย ที่ผ่านมาไม่ค่อยฟังเสียงตัวเอง ละเลยตัวเอง ว่าอยากทำอะไรจริงๆ แล้วคอยแต่ทำตามคำสั่งจากบทบาทของการงาน และสิ่งที่คนรอบข้างบอกว่าเราควรจะเป็น”
“เหมือนจักรวาลมาปลุกให้เราตื่นจากโลกจินตนาการ ให้เราตื่นมาอยู่กับปัจจุบันขณะ เราไม่ต้อง Perfect ทุกอย่าง 100% ก็ได้ เราทำมันให้ได้เกือบสมบูรณ์แบบก็พอ บทเรียนหรือข้อความสำคัญที่ได้ ? อยากบอกคนของจักรวาลหรือไอดอลคนนี้ว่า เธอเป็นไอดอล เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ฉันได้ฝึกภาษาญี่ปุ่น เธอทำให้ฉันกล้าที่จะสื่อสารกับคนมากขึ้น เธอได้มอบพรสวรรค์พิเศษให้ฉัน ทำให้ฉันได้เจอสังคมใหม่”
- “ชอบทุกอย่างตั้งแต่การทำสมาธิ การเปิดไพ่ การวิเคราะห์ของครู รวมทั้งน้ำเสียงที่ฟังแล้วสงบดีค่ะ ได้เรียนรู้ถึงลักษณะและความสามารถของจิตใต้สำนึกเพิ่มเติม ฝึกการสังเกตวิเคราะห์ตีความทำให้ได้ทำงานภายในกับตัวเองมากขึ้น ขอบคุณครูโอเล่และขอให้จัดคอร์สดีๆ แบบนี้ไปอีกนานค่ะ”
- “ได้ยินเสียงภายในมากขึ้น ได้ทบทวนการผ่อนคลายกับตัวเอง และยอมรับในจุดที่เราไม่เคยรู้ ที่เราคิดว่ามันคือสิ่งที่ไม่โอเค แต่จริงๆ มันมีเหตุผลของมัน และเราได้รับรู้ เลยได้ยอมรับ และก็คลายกับตัวเองมากขึ้น”
- “รู้สึกได้คำตอบและรับฟังคำตอบที่ไม่คาดคิดว่ามันจะเป็นคำตอบแรกจากแต่ละข้อ และรู้สึกว่าการได้กลับมาสังเกต มาพูดคุยกับร่างกายที่เป็นเสมือนเพื่อนที่อยู่กับเราตลอดเวลา แต่เรากลับไม่ค่อยได้นึกถึงเขาเลย และก็รู้สึกว่าจริงๆ แล้วเราไม่ได้โดดเดี่ยว ยังมีสิ่งต่างๆ รอบตัวที่ตั้งใจทำงานอย่างดีเพื่อเรา”
- “ได้รู้ว่าคำถามที่เราสงสัย จริงๆ เราไม่ได้ต้องให้ใครมาตอบ เราก็ตอบเองได้ สะสางเองได้ แต่เพราะที่ผ่านมา เราไม่เคยได้คุยจริงจังกับตัวเอง”
- “เรียนแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ได้ฟังตัวเองมากๆ ได้เห็นตัวเองที่ลืมไปแล้ว และได้พาตัวเองออกมาจากความทุกข์ที่ทับถมในอดีต และพร้อมจะรับมือกับความทุกข์ใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในอนาคต”
- “พึ่งได้ลองสื่อสารกับร่างกายตัวเองจริงๆ ครั้งแรกกับคอร์สนี้เลยค่ะ และได้เชื่อมโยงกับคนในชีวิตที่เราลืมเค้าไปแล้วอีกครั้ง แต่เค้าเป็นคนที่อยากสื่อสารกับเรามากที่สุดเลยค่ะ”
- “รู้สึกเหมือนได้เห็นอีกด้านของตัวเองมากค่ะ ไม่คิดว่าการเขียนจะช่วยเราได้มากขนาดนี้ค่ะ”
เงื่อนไขและข้อตกลง
- ผู้สมัครมีความตั้งใจร่วมกิจกรรมการอบรมอย่างเต็มที่ โดยได้อ่านรายละเอียดทั้งหมดและสมัครด้วยตนเอง พร้อมมีส่วนร่วมในขั้นตอนต่างๆ กับการทำกิจกรรมในการอบรมโดยทางโครงการไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- เนื่องจากการอบรมจะต้องมีการปฏิบัติเกือบทุกช่วง ดังนั้นจึงขอให้งดเว้นการเรียนคอร์สนี้พร้อมกับการทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น การขับรถ การทำงาน หรือการเรียนซ้ำซ้อน
- เมื่อชำระค่าลงทะเบียนแล้วไม่มีการยกเลิก ขอเลื่อน หรือคืนเงินมิว่ากรณีใดๆ เพื่อรักษาสิทธิ์ในการเข้าร่วมการอบรมของผู้สมัครคนอื่นๆ มิให้ถูกกันที่ไว้ ยกเว้น กรณีที่ชำระค่าลงทะเบียนแล้วทางโครงการมีการยกเลิกหรือเต็มจำนวนรับสมัครจะมีการคืนค่าลงทะเบียนเต็มจำนวน
- หากมีความประพฤติไม่เหมาะสมหรือส่งผลเสียต่อผู้เข้าเรียนคนอื่นๆ และอาจารย์ผู้สอน ทางโครงการจะเชิญออกจากการอบรมโดยไม่มีการชดเชยใดๆ เพื่อความเรียบร้อยและความสำรวมระวังในการฝึกฝน
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว ต้องทานยา หรือต้องพึ่งพาการดูแลเป็นกรณีพิเศษ โปรดแจ้งปรึกษาโครงการก่อนสมัครเข้าร่วมเพื่อพิจารณาถึงความเหมาะสมร่วมกัน
