รายชื่อผู้ได้รับรางวัล PunnSpace Award 2562

      รายชื่อผู้ได้รับรางวัล PunnSpace Award 2562 หัวข้อ “How To รักตัวเอง” จากจำนวนผู้ส่ง ๑๔๐ ผลงาน   การตัดสินรอบสุดท้ายนั้น พิจารณาจาก ๔ องค์ประกอบ ได้แก่ เนื้อหา , การเรียบเรียงและนำเสนอ , ความคิดสร้างสรรค์ และการสร้างอารมณ์ร่วมหรือความสะเทือนใจ เมื่อพิจารณาแล้ว ได้ปรากฎรายชื่อที่ควรแก่การได้รับรางวัล ดังนี้     [ รางวัลชนะเลิศ ] ๑ ณิชา พีชวณิชย์-เมื่อฉันอยากลาออกจากบ้าน ๒ สุวิสาส์ สุนทราณู-กระจกบานนั้นบอกฉันว่า… ๓ จิตฐ์พิสุทธิ์ ประเสริฐศักดิ์-ปาฏิหาริย์จากชายหนุ่มในสมุด ๔ กนกพร ตรีครุธพันธ์ – แรกรัก ๕ เกียรติศักดิ์ หงษ์คำ-ความจริงของโลก “ไม่เคยมีใครบอกรักเรา”   [ รางวัลชมเชย… Continue reading รายชื่อผู้ได้รับรางวัล PunnSpace Award 2562

ประกาศรายชื่อเข้ารอบสุดท้าย PunnSpace Award 2562

      ประกาศรายชื่อผลงานและผู้เข้ารอบสุดท้าย การประกวดบทความ PunnSpace Award ประจำปี ๒๕๖๒ หัวข้อ “How to รักตัวเอง”   การประกวดครั้งนี้มีบทความส่งเข้าประกวดทั้งหมด ๑๔๐ ผลงาน คัดเลือกผ่านเข้ารอบสุดท้าย ๒๐ ผลงาน ดังรายชื่อต่อไปนี้   “เมื่อฉันอยากลาออกจาก “บ้าน”” โดย ณิชา พีชวณิชย์ “จุดเปลี่ยนพลิกชีวิต” โดย กนกพิชญ์ ธนะรุ่ง “กระจกบานนั้นบอกฉันว่า…” โดย สุวิสาส์ สุนทราณู “รักตัวเองทำให้ชีวิตมีความหมายและมีความสุข” โดย เมธี ใจติขะ “เหนื่อยก็พัก หัดรักตัวเอง” โดย พัชรกานต์ เสถียรทิพย์ “ฮีโร่ในใจเรา” โดย นเรศ บุญพริ้ง “รักตน ทำตนดี ชีวีเป็นสุข” โดย ภาดล ดีพร้อม “กอด… Continue reading ประกาศรายชื่อเข้ารอบสุดท้าย PunnSpace Award 2562

เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง #3

    เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง #3 “หมุนไปกับจักรวาล”   หากถามผมว่ารักตัวเองอย่างแท้จริงแล้วหรือยัง ในขณะที่ทำหน้าที่สอนเรื่องการรู้จักตัวเองและการรักตน ผมขอยอมรับว่ายัง แม้มีการรักตัวเองอยู่ไม่น้อย แต่สิ่งหม่นหมองแห่งใจหรือกิเลสซึ่งยังคงมีเชื้ออยู่มากนั้นก็ยังขัดขวางให้รักต่อตนเอง ยังมิใช่รักแท้ . ผมพึงใจในการยอมรับข้อเสียอย่างตรงไปตรงมา รู้ว่ายังไม่รักตัวเอง ยังดีกว่าการหลอกตนว่ารักตัวเองแล้ว ขณะที่กาย วาจา และใจยังสื่อสะท้อนว่าความรักต่อตนเองนั้นบกพร่องอย่างไร . สิ่งใดที่บ่งบอกการรักตัวเองอย่างแท้จริง สำหรับผมแล้วพิจารณาอยู่สองทาง ทางหนึ่งคือพฤติกรรมทางกาย วาจา และใจ เป็นไปอย่างก่อทุกข์หรือเป็นไปอย่างลดทุกข์ สมดุลพอดีหรือไม่ หรือใส่ใจแค่บางส่วน อีกทางหนึ่งคือสันติสุขแห่งใจ ตราบใดที่ใจเรายังมีทุกข์ นอกเหนือจากทุกข์ทางกายอันเกิดจากผัสสะธรรมชาติแล้ว เราก็ยังมีความไม่รักตัวเองอยู่ . ผมจะกล่าวต่อไปว่าเป็นเพราะเหตุใด . มองย้อนกลับไป กว่าเราจะเข้าใจถึงการรักตัวเองอย่างถ่องแท้ ต้องผ่านบทพิสูจน์และบทเรียนรู้มาก บ่อยครั้งที่เชื่อว่าเรารักตัวเองแล้ว แต่จริงๆ แอบรักแค่บางด้านที่ดูดีและได้รับการชมเชยจากคนอื่น บ่อยครั้งที่เรื่องเล็กๆ ก็บั่นทอนความมั่นคงของใจได้อย่างคาดไม่ถึง . คืนหนึ่ง ราวหกปีที่แล้ว นับจากตอนเขียนบทความนี้ ขณะอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ทำงานในออฟฟิศห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผมกลับรู้สึกสงสัยว่าเหตุใดเวลาตนเองต้องการปรึกษาใครบ้าง จึงไม่อาจมีใครรับฟังผมอย่างที่ผมรับฟัง ไยเวลานี้ที่ต้องการใครคนหนึ่งมากที่สุด คนทุกคนกลับหายไป หัวใจก็ลากความคิดย้อนเวลากลับไปอีกว่าที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กแล้วก็มักเป็นแบบนี้ คนทุกคนมาหาผมเพราะต้องการความช่วยเหลือ… Continue reading เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง #3

เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง #2

“ก้าวข้ามพื้นที่ปลอดภัย แต่ไม่ไกลเกินไปจากตัวเอง” อุปสรรคแรกๆ ของผู้เรียนที่เพิ่งเริ่มต้นเรียน เขียนเปลี่ยนชีวิต มักจะรู้สึกเขียนไม่ออกหรือไม่รู้จะเขียนอะไรในช่วงแรกๆ ที่จับปากกาทำแบบฝึกหัดเขียนบันทึก แต่เรามีกติกาใจแนะนำไว้ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ว่า “ให้การเขียนนำหน้า ปากกานำทาง หัวใจตามมา ความคิดจะเกิดขึ้นเอง” เป็นคาถาสำหรับการเริ่มต้น.คำแนะนำนี้จะสวนทางแก่การเขียนเพื่อสร้างชิ้นงานโดยทั่วไปอยู่บ้าง เพราะการเขียนเพื่อสร้างผลงานนั้นเราต้องคิดให้ดีก่อนเขียน วางโครงร่าง ออกแบบเนื้อหา และเขียนอย่างใส่ใจผู้อื่นว่าเขาจะอ่านรู้เรื่องหรือไม่ ชอบไหม เข้าใจหรือเปล่า แต่การเขียนเพื่อเยียวยาหรือเพื่อเข้าใจตัวเองเป็นการขุดค้นลงไปในจิตใจและความเป็นตัวตน ผ่านการเขียนเป็นเครื่องมือ เพื่อออกนอกกรอบและเปลือกที่ห่อหุ้มตัวเอง และสื่อสารกับหัวใจตนมิใช่คนอื่น.เทคนิคพื้นฐานที่ใช้ในทุกการเขียนเปลี่ยนชีวิต หรือการเขียนบำบัด คือเทคนิคที่ผมเรียกว่า การเขียนไม่หยุดปากกา ซึ่งครูอาจารย์ท่านอื่นอาจจะเรียกด้วยชื่อต่างกันออกไป การเขียนลักษณะนี้ไม่ให้ใช้ความคิดก่อนล่วงหน้า แต่ให้ทำตามขั้นตอนแล้วลงมือเขียนเลย เขียนไปเรื่อยๆ กึ่งอัตโนมัติ อนุญาตให้ใจด้นสด ค่อยๆ ลงลึกในจิต ปอกลอกเปลือกตัวตนอันผิวเผิน แล้วเปิดพื้นที่ให้สมองเกิดการแตกกอต่อยอดทางความคิดใหม่ๆ.การเริ่มต้นเขียนเปลี่ยนชีวิตแล้วเขียนไม่ออกในช่วงแรกๆ เพราะใจเรากำลังเผชิญกับขอบของความคิดและความเคยชิน ซึ่งหากเราเปรียบเทียบพื้นที่ปลอดภัยเหมือนไข่แดงตรงกลางแผนภาพไข่ดาว ขอบของความคิดที่ว่านั้นก็คือเส้นขอบกึ่งกลางระหว่างไข่แดงกับไข่ขาว คือขอบที่ขวางกั้นระหว่างพื้นที่ปลอดภัยและความเคยชินกับพื้นที่ชีวิตใหม่ๆ ที่เราไม่รู้จัก.เหมือนช่วงเวลาที่เราต้องทำในสิ่งที่กลัวหรือไม่เคยชิน เราอาจเกิดความรู้สึกลังเล สั่นไหว มีอาการทางกายและทางใจเกิดขึ้น หรือตอนที่เราต้องการนึกถึงบางเหตุการณ์ในอดีตที่ลืมเลือนไปนานแล้ว นึกไม่ค่อยออก แต่พอผ่อนคลายหรือใช้เวลานึกสักครู่หนึ่งก็ระลึกได้ สิ่งเหล่านี้คือภาวะเมื่อขณะใจก้าวออกมาจากพื้นที่ไข่แดงมาหยุดอยู่ตรงกลางว่าจะก้าวข้ามไปยังไข่ขาวได้ไหม.ผู้เรียนบางคนเมื่อเห็นหัวข้อแบบฝึกหัดให้เขียนเก็บรวบรวมคำชื่นชมจากคนอื่นๆ ที่มีต่อตัวเอง แรกเห็นก็นึกว่าง่าย แต่พอเริ่มเขียนแล้วเจออาการเขียนไม่ค่อยออกในตอนต้นๆ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยใส่ใจการชื่นชมตัวเองเลย พอมีคนชมใจก็นึกเถียงว่ามันไม่ได้ดีอะไรมากมาย การเขียนหัวข้อดังกล่าวจึงกระทบขอบของหัวใจเขา… Continue reading เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง #2

เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง #1

    “เรามีคุณค่าเพราะว่ามีปมด้อย มิใช่เพราะสมบูรณ์แบบ”   ผมคงไม่เริ่มศึกษาการเขียนเพื่อการเยียวยาและพัฒนาชีวิต หากไม่ได้เกิดมาพร้อมกันเยื่อพังผืดติดใต้ลิ้นตรงใกล้ปลายๆ ทำให้พูดไม่ชัดและออกเสียงบางอักษรได้ไม่ถูกต้อง แล้วโชคร้าย เพราะกว่าจะมีหมอคนใดสามารถวินิจฉัยได้อย่างถูกต้อง ก็ตระเวนไปหาคำตอบและทางรักษาหลายที่ จนเมื่อพบสาเหตุที่ซ่อนอยู่ตรงหน้าผมก็อายุย่าง 11 ขวบแล้ว ความมั่นใจที่จะพูดและสื่อสารกับโลกภายนอก โบยบินไปกับช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การฝึกพูดแล้ว . การกระดกลิ้นไม่ได้ทำให้ผมถูกล้อเรื่องเสียงพูดบ่อยครั้งนัก ทั้งจากเพื่อนเด็กนักเรียนและคุณครู โรงเรียนไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยสำหรับผมนัก และกว่าจะพบสาเหตุสำคัญก็ไม่มีใครเข้าใจว่าเหตุใดผมจึงไม่สามารถฝึกออกเสียงและพูดได้เหมือนเด็กคนอื่น ทำให้การปรับตัวเมื่อต้องย้ายโรงเรียนมาเรียนต่อกรุงเทพ เป็นสิ่งที่ยากเข็ญนัก . ผมมีที่พักใจ คือกองกระดาษใช้แล้วจากบริษัทที่พ่อทำงาน นั่นคือสมุดบันทึกเล่มแรกของผม ที่ซึ่งผมสามารถหลบพักจากโลกที่ผมไม่สามารถพูดและปรับตัวกับเพื่อนได้อย่างสมบูรณ์อย่างที่เด็กคนหนึ่งควรทำได้ อยู่กับจินตนาการและเพื่อนรับฟังที่ดีที่สุด . ผมเริ่มจากการชอบวาดรูปก่อน พยายามสร้างสรรค์เรื่องราวเลียนแบบจากภาพยนตร์และการ์ตูน แต่อนิจจา ฝีมือผมนั้นแย่มาก แล้วผมก็อยากให้พ่อแม่ท่านอ่านรู้เรื่อง ผมจึงต้องเขียนบอกว่า อันนี้ที่วาดคืออะไร อันนั้นคืออะไร เขียนบอกไว้ประกอบภาพ จนแล้วจนเล่าคิดว่าคงไม่เหมาะกับการวาดรูปแล้ว จึงเขียนเยอะขึ้นไปตามลำดับ . โชคร้ายกลายเป็นดีได้เสมอ หากผมวาดรูปเก่ง หรือเกิดมาพูดชัดเจน ผมคงให้เวลาสนใจเรื่องอื่นๆ มากกว่า ปัจจุบันคงไม่ได้เป็นครูผู้สอนการเขียนเพื่อเปลี่ยนแปลงตนเอง หรือดูแลสถาบันธรรมวรรณศิลป์มาจนถึงวันนี้ . การที่ต้องไปหาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเรื่องเด็กหลายคน แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการออกเสียงของตัวเองได้ มีผลกระทบทางใจกับผมอย่างน้อยสองอย่าง อย่างแรก ทำให้สงสัยถึงสาเหตุของสิ่งต่างๆ… Continue reading เขียนบันทึกเพื่อรักตัวเอง #1